ชื่อเต็ม Anneliese Marie Frank (ค.ศ.1929-1945) เป็นชาวยิวที่เกิดในประเทศในเยอรมัน พอเธออายุ 4 ขวบ พรรคนาซีของฮิตเลอร์จึงเข้ามากุมอำนาจทางการเมืองของเยอรมัน เริ่มกวาดล้างข่มเหงชาวยิว ครอบครัวเธอจึงต้องหลบหนีไปยังเนเธอร์แลนด์ สุดท้ายเนเธอร์แลนด์ก็ถูกนาซีเข้ายึดอยู่ดี ครอบครัวและตัวแอนน์เองก็ต้องหลบซ่อนตัวในหลุมหลบภัยนานถึง 2 ปี แล้วทหารนาซีก็เข้ามาค้นเจอจนได้ ทุกคนถูกส่งไปยังค่ายกักกันเอาชวิตซ์ (Auschwitz) ที่นี่ทำให้แม่ของแอนน์จากไปด้วยโรคขาดสารอาหาร มาร์โกตผู้เป็นพี่สาวก็จากไปด้วยโรคไข้รากสาดใหญ่ และตัวแอนน์เองก็เจากไปด้วยโรคนี้เช่นกันในวัย 16 ปี เรื่องย่อนี่คือไดอารี่ของแอนน์ แฟรงค์ โดยเรียกไดอารี่ว่า Kitty เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้ว่ามันหมายถึงอะไร เธอไม่ชอบเขียนบันทึกแบบตรงตัว แต่จะเขียนความรู้สึกของเธอและสิ่งที่ทำให้เธอต้องตัดสินใจครั้งสำคัญต่างๆ การใช้ชีวิตท่ามกลางข้อห้ามสารพัด การซื้อของก็ต้องไปร้านสำหรับชาวยิวเท่านั้น ห้ามใช้บริการสาธารณะร่วมกับชนชาติอื่น และไม่อาจฝ่าฝืนได้ เพราะมีหน่วย S.S (Schutzstaffel) กองกำลังพิเศษของฮิตเลอร์คอยตรวจตราจับผิดอยู่ ซึ่งน่าอึดอัดเป็นอย่างมาก การซ่อนตัวในตึกใหญ่ริมคลองดูเหมือนจะปลอดภัย เพราะภายในผังอาคารมีความซับซ้อนและดูไม่ออกเลยว่าข้างในจะมีห้องลับซ่อนอยู่มากมายขนาดนั้น แม้จะได้ซ่อนตัว แต่ความเป็นอยู่ก็ยากลำบากและเริ่มขุ่นเคืองใจกับคนอื่นๆมากขึ้น โดยเฉพาะกับเจ้าบ้าน แต่ก็ไม่กล้าทะเลาะกันตรงๆ ด้วยเหตุที่ทุกคนจำใจต้องอยู่ไปก่อนเพื่อความอยู่รอด ท้ายที่สุด ไดอารี่ของแอนน์ก็เขียนไม่จบ ครอบครัวของแอนน์ถูกจับกุมทั้งหมด แล้วถูกส่งไปยังค่ายกักกัน Auschwitz มีเพียงพ่อของเธอนามว่า Otto เท่านั้นที่รอดกลับมา แล้วทำให้ไดอารี่ของแอนน์ได้รับการตีพิมพ์ในภายหลัง คำศัพท์สำคัญที่พบได้ภายในเล่มUnbosomings (n) ความในใจIt’s an odd Idea for someone like me to keep a diary; noy only because I have never done so before, but because it seems to me that neither I – nor for that matter anyone else – will be interested in the unbosomings of a thirteen-year-old schoolgirl.เป็นความคิดออกจะแปลกที่คนอย่างฉันจะเขียนสมุดบันทึก ก็ใช่ว่าจะไม่เคยแบบนี้มาก่อนหรอกนะ แต่เป็นเพราะรู้สึกว่าไม่ว่าฉันหรือใครก็ตาม คงไม่สนใจความในใจของเด็กนักเรียนหญิงอายุ 13 หรอก Decree (n) กฤษฎีกาAnti-Jewish decrees followed each other in quick succession.กฤษฎีกาต่อต้านชาวยิวตามติดกันออกมาบังคับใช้อย่างต่อเนื่อง Sympathetic (adj) เห็นอกเห็นใจWe got sympathetic looks from people on their way to work. You could see by their faces how sorry they were they couldn’t offer us a lift.ผู้คนที่สัญจรผ่านไปทำงานมีท่าทีเห็นใจพวกเรา เธอเห็นสีหน้าก็รู้แล้วว่าพวกเขาเสียใจแค่ไหนที่ให้เราติดรถไปด้วยไม่ได้ Barbarous (adj) ป่าเถื่อนIf it is as bad as this in Holland whatever will it be like in the distant and barbarous regions they are sent to? We assume that most of the, are murdered.ถ้าในฮอลแลนด์ยังเลวร้ายขนาดนี้ แล้วในดินแดนห่างไกลป่าเถื่อนที่พวกเขาถูกส่งตัวไปจะไม่ยิ่งกว่านั้นหรือ? เราสันนิษฐานว่าพวกเขาส่วนใหญ่ได้ถูกสังหารแล้ว Decency (n) การให้เกียรติThese people are treated by the Gestapo without a shred of decency, being loaded into castle trucks and sent to Westerbork, the big Jewish camp in Drente.พวกเกสตาโปปฏิบัติต่อคนเหล่านี้โดยไม่ให้เกียรติแม้แต่น้อย พวกเขาถูกต้อนขึ้นรถขนสัตว์ส่งไปยังเวสเตอร์บอร์ก ซึ่งเป็นค่ายกักกันชาวยิวที่ใหญ่ในเดรนเต้ Queer (adj) แปลกประหลาดIf Iread a book that impresses me, I have to take myself firmly in hand, before I mix with other people; otherwise they would think my mind rather queer.ถ้าฉันอ่านหนังสือที่ประทับใจ ฉันจะต้องควบคุมตัวเองให้มั่นคงก่อนจะไปเจอหน้าคนอื่น ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะคิดอีกว่าฉันคิดอะไรประหลาดๆอีก ความชื่นชอบและประทับใจของครีเอเตอร์1.ได้เรียนรู้การอ่านภาษาอังกฤษอย่างแท้จริง บทความและเนื้อหาอ่านค่อนข้างยากพอสมควร เพราะเป็นสไตล์การเขียนไดอารี่ของ Anne Frank จริงๆ แต่คัดลอกออกมาเป็นบางส่วนให้อยู่ในรูปหนังสืออ่านนอกเวลา (graded readers) ถ้าไม่คล่องภาษาอังกฤษมากพอ ไม่แนะนำให้อ่านเป็นเล่มแรก ลองหาเล่มอื่นที่มีเนื้อหาง่ายกว่ารองลงมาแทนจะดีกว่า 2.ช่วยฝึกเดาความหมายศัพท์ที่ไม่รู้ โดยเดาจากศัพท์หรือประโยคข้างเคียงที่เราพอแปลออก ไม่อย่างนั้นเราจะอ่านไม่รู้เรื่อง ตีความผิด และหมดสนุกกับเนื้อหาได้เลย โชคดีที่มีคำแปลของศัพท์แต่ละตัวแยกอยู่ด้านข้างหน้ากระดาษไว้แล้ว จึงไม่ต้องไปเปิดจากพจนานุกรมที่อื่นให้เสียเวลา 3.Anne Frank Diary คือเนื้อเรื่องที่เอามาจากไดอารี่จริงๆ ซึ่งโด่งดังและเป็นที่พูดถึงเวลาที่เราได้เรียนประวัติศาสตร์ของสงครามโลกครั้งที่ 2 นั่นทำให้ครีเอเตอร์สนใจเรื่องราวจากเล่มนี้เป็นอย่างมาก นอกจากจะได้ฝึกภาษาอังกฤษแล้ว ยังได้รู้เรื่องราวการดิ้นรนเอาตัวรอดของคนสมัยนั้นด้วย ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย การอยู่ในรูปหนังสืออ่านนอกเวลาเราจะได้เนื้อหาที่คัดมาเฉพาะส่วนที่จำเป็น รู้ในสิ่งที่จำเป็นต้องรู้ แต่ถ้าใครไม่ชอบก็ไม่เป็นไร ไม่จำเป็นต้องฝืนอ่านด้วย ไม่อย่างนั้นจะยิ่งเกลียดภาษาอังกฤษมากขึ้นไปอีก 4.ความยากง่ายอยู่ระดับ Stage 4 แม้จะไม่ใช่ระดับที่ความยากที่สุด (Stage 5) แต่ก็ถือว่ายากกว่าระดับ Stage 4 ด้วยกัน ฉะนั้น ใครที่เป็นมือใหม่ฝึกภาษาต้องเข้าใจ ณ จุดนี้ด้วยว่า...บางทีเราไม่ใช่ไม่เก่ง แต่เรามีประสบการณ์หรือเที่ยวบินในการอ่านอังกฤษไม่มากพอ เมื่อเราได้เห็นโครงประโยคที่ซับซ้อนมากขึ้น เราจะตีความหมายออกได้คล่องขึ้น 5.ภาพประกอบสี่สีตลอดทั้งเล่ม ประโยคท่อนที่ครีเอเตอร์แปลไม่ค่อยได้ก็อาศัยภาพประกอบดังกล่าวช่วยตีความ จึงพอจะเข้าใจเค้าโครงเรื่องได้มากขึ้น 6.มี Audio CD แนบท้ายเล่มไว้ฝึกฟังการอ่านออกเสียงที่ถูกต้อง ใครมี Notebook ที่สามารถอ่านแผ่นได้ ก็สามารถใช้ประโยชน์จากตรงนี้ได้เลยครับ นับว่าเป็นผลงานของ SE-ED GENIUS READERS ที่น่าสนใจและไม่เหมือนเล่มอื่นๆที่เคยมีมา ซึ่งก็ได้ผลงานภาพประกอบโดย An Ji-yeon แปลโดย อมรรัตน์ สวัสดิโอ และ วรรธนา วงษ์ฉัตร ก็ช่วยให้ผู้อ่านได้ตรวจสอบตัวเองว่าสามารถทำความเข้าใจออกมาได้ถูกต้องมากน้อยแค่ไหน น่าเสียดายที่หนังสือชุดนี้ไม่ได้มีการผลิตเพิ่มออกมาอีกแล้ว สำหรับครีเอเตอร์มองว่าหนังสือชุดนี้แหละที่ช่วยให้คนรู้สึกว่าอยากเก่งอังกฤษมากขึ้น เหตุที่งานเขียนของแอนน์โด่งดังขึ้นมาไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หากแต่มันสะท้อนถึงความฝันของวัยรุ่นสาวคนหนึ่งที่อยากมีชีวิตที่ดี แต่ไม่อาจไปถึงด้วยเหตุผลของสงคราม งานเขียนชิ้นนี้ถือเป็นผลงานที่เป็นสัญลักษณ์ต่อต้านความรุนแรงของสงครามอีกด้วย เครดิตภาพภาพปก โดย wirestock จาก freepik.com ภาพที่ 1 2 3 และ 4 โดยผู้เขียน บทความอื่นๆที่น่าสนใจรีวิวหนังสือ The Great Stone Face ภูผาแห่งแรงบันดาลใจรีวิวหนังสือ The Adventure of Sherlock Holmes พลิกปมคดีลับกับเชอร์ล็อก โฮล์มส์ ยอดนักสืบรีวิวหนังสือ AROUND THE IN 80 DAYS ผจญภัย 80 วัน รอบโลก โดย Jules Verneรีวิวหนังสือ The Invisible Man มนุษย์ล่องหน โดย Herbert George Wellsรีวิวหนังสือ The Count of Monte Cristo ชีวิตพลิกผันของเคาน์แห่งมองเต กรีสโต