รีเซต

ฝนดาวตกคนคู่ ดาวเสาร์และดาวพฤหัสบดีโคจรเข้าใกล้กัน และสุริยุปราคาเต็มดวง

ฝนดาวตกคนคู่ ดาวเสาร์และดาวพฤหัสบดีโคจรเข้าใกล้กัน และสุริยุปราคาเต็มดวง
ข่าวสด
8 ธันวาคม 2563 ( 15:19 )
80
ฝนดาวตกคนคู่ ดาวเสาร์และดาวพฤหัสบดีโคจรเข้าใกล้กัน และสุริยุปราคาเต็มดวง

เอวา ออนติเวโรส

บีบีซี เวิลด์ เซอร์วิส

 

ปี 2020 อาจจะเป็นปีที่แย่สำหรับผู้คนมากมาย แต่ในด้านดาราศาสตร์ มีปรากฏการณ์ที่หาชมได้ยากมาให้คนได้รอชมกันในช่วงปลายปีนี้

 

ในเดือน ธ.ค. นี้ มีปรากฏการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจเหนือท้องฟ้าหลายอย่างที่ผู้คนทั่วโลกสามารถชมได้จากบ้านของตัวเอง โดยไม่ต้องใช้กล้องโทรทรรศน์หรืออุปกรณ์ราคาแพงแต่อย่างใด

 

ดาวเคราะห์สองดวงแทบจะหลอมรวมกันกลายเป็นหนึ่ง ฝนดาวตกที่ยอดเยี่ยมที่สุด และสุริยุปราคาเต็มดวง ปรากฏการณ์ทั้งหมดนี้ คุณชมได้ ขอแค่ท้องฟ้าเปิดเท่านั้น แต่บางปรากฏการณ์ก็จำเป็นต้องมีการปกป้องดวงตาของคุณ นอกจากนี้อาจจะต้องมีอุปกรณ์ช่วยชี้บอกตำแหน่งเวลาในการชมด้วย

 

นี่คือปรากฏการณ์ที่จักรวาลนำเสนอให้เราได้ชมในเดือนนี้ เรียงตามลำดับเวลาดังนี้

 

13-14 ธ.ค. : ฝนดาวตกเจมินิดส์ (Geminids meteor shower) หรือ ฝนดาวตกคนคู่ มองเห็นได้ทั่วโลก

 

Getty Images
จากวลาดิวอสต็อก จนถึง ดาการ์ ทุกคนสามารถมองเห็นฝนดาวตกได้...ถ้าฟ้าเปิด

 

คุณอาจเคยชมดาวตกอื่น ๆ มาแล้วในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่เตรียมพร้อมให้ดีสำหรับการชม "ราชาแห่งฝนดาวตก" ในเดือนนี้

 

"ฝนดาวตกส่วนใหญ่เกิดขึ้นเมื่อโลกเคลื่อนผ่านเศษฝุ่นที่ดาวหางทิ้งไว้" แพทริเซีย สเกลตัน นักดาราศาสตร์จากหอดูดาวกรีนิช (Royal Observatory Greenwich) ในสหราชอาณาจักร กล่าว

 

"แต่ฝนดาวตกคนคู่มีความพิเศษที่ เศษฝุ่นที่ถูกทิ้งไว้เกิดจากดาวเคราะห์น้อยชื่อ 3200 เฟธอน (3200 Phaethon)" แพทริเซีย กล่าว

 

ดังนั้นในแต่ละปี ขณะที่โลกโคจรตัดผ่านสายธารของเศษฝุ่นและเศษหินต่าง ๆ เราก็จะได้ชมปรากฏการณ์ที่สวยงามในยามค่ำคืนนี้ โดยฝนดาวตกคนคู่ที่จะเกิดขึ้นระหว่าง 13-14 ธ.ค. นี้ อาจจะมีดาวตกให้ชมมากที่สุดถึง 150 ดวงต่อชั่วโมง

 

Getty Images
ยิ่งสภาพแวดล้อมมีความมืด ก็ยิ่งมีโอกาสชมปรากฏการณ์ที่สวยงามนี้ได้ชัดขึ้น

 

แพทริเซีย กล่าวว่า "ดาวตกเคลื่อนเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลกด้วยอัตราเร็วประมาณ 35 กม. ต่อวินาที... หรือเกือบ 130,000 กม. ต่อชั่วโมง!"

 

แพททริเซียกล่าวเพิ่มเติมว่า จะทำให้เกิดแสงสว่างวาบสีเหลือง หรือบางครั้งก็เป็นสีเขียวหรือสีน้ำเงินเหนือท้องฟ้า "ขณะที่ดาวตกเผาไหม้ [จากการเคลื่อนตัวไปอย่างรวดเร็วในทุกทิศทาง]"

 

 

ยิ่งสภาพแวดล้อมมีความมืด ก็ยิ่งมีโอกาสชมปรากฏการณ์ที่สวยงามนี้ได้ชัดขึ้น แต่เราก็ยังสามารถเห็นดาวตกได้บางส่วนในพื้นที่เขตเมืองที่มีแสงสว่างรบกวนมาก

 

ข่าวดีอีกเรื่องก็คือ ฝนดาวตกปีนี้เกิดขึ้นพร้อมกับปรากฏการณ์จันทร์ดับ (New Moon) ซึ่งจะทำให้ท้องฟ้ายิ่งมีความมืดมิดมากยิ่งขึ้น ต่างจากปีที่แล้ว ที่เกิดขึ้นตรงกับช่วงพระจันทร์เต็มดวง ซึ่งถือเป็นศัตรูของการชมดาว

 

14 ธ.ค. : สุริยุปราคาเต็มดวง มองเห็นได้ในชิลีและอาร์เจนตินา...

 

Getty Images
อารยธรรมโบราณคิดอย่างไร เมื่อท้องฟ้ามืดมิดในช่วงกลางวันแสก ๆ

 

ผู้คนจากทั่วโลกก็สามารถชมปรากฏการณ์นี้ผ่านการถ่ายทอดสดทางอินเทอร์เน็ตได้

หากเป็นช่วงก่อนที่จะมีการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ผู้คนจำนวนมากอาจจะพากันไปชมปรากฏการณ์ที่แสนพิเศษนี้ที่พาทาโกเนีย ทางใต้ของชิลี และอาร์เจนตินา

แต่ในช่วงของการระบาดใหญ่ของโควิดในปี 2020 ผู้คนส่วนใหญ่ก็จะคงต้องติดตามชมปรากฏการณ์นี้ทางโลกออนไลน์

ถ้าหากว่าคุณโชคดีพอที่จะได้ชมปรากฏการณ์นี้ด้วยตัวเอง อย่าลืมว่า ห้ามมองดวงอาทิตย์โดยตรง ต้องใช้อุปกรณ์ป้องกันเสมอ

ในช่วงเวลามหัศจรรย์ 24 นาที จันทร์ดับจะโคจรผ่านหน้าดวงอาทิตย์ และบดบังดวงอาทิตย์ทั้งหมด "เป็นเวลา 2 นาที 9.6 วินาทีเท่านั้น" ทันยา เด ซาเลส มาร์เกส นักดาราศาสตร์จากหอดูดาวกรีนิช กล่าว

"ดวงจันทร์มีขนาดเล็กกว่าดวงอาทิตย์ 400 เท่า" ทันยา อธิบาย แต่มันดูเหมือนใหญ่กว่า เพราะอยู่ใกล้เรามากกว่า ดังนั้น มันจึงบดบังดวงอาทิตย์ทั้งดวงได้

การโคจรของดวงจันทร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์จะทำให้เกิดความมืดมิดปกคลุมเหนือบริเวณใต้สุดของทวีปอเมริกาใต้ในช่วงกลางวันแสก ๆ

 

Getty Images
ห้ามมองดวงอาทิตย์โดยตรง แม้แต่ในช่วงที่เกิดสุริยุปราคาเต็มดวง ต้องใช้อุปกรณ์ป้องกันเสมอ

 

ชาวมาปูเช (Mapuche) ชนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ในพาทาโกเนียให้ความสนใจกับการเปลี่ยนแปลงของท้องฟ้ามากเป็นพิเศษ

"ดวงอาทิตย์เป็นสัญลักษณ์ของ 'พลังงานของผู้ชาย' ส่วนดวงจันทร์เป็น 'พลังงานของผู้หญิง' ... และความตึงเครียดระหว่างแรงทั้งสองในช่วงที่โคจรผ่านกันนี้ เป็นช่วงเวลาที่ละเอียดอ่อนสำหรับเรามาก" มาร์เซโล ฮูเกวนแมน นักการศึกษาระหว่างวัฒนธรรมมาปูเช กล่าว

มาร์เซโล กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามประเพณีแล้ว ชาวมาปูเช หวาดกลัวสุริยุปราคาและในภาษาของพวกเขาเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า lhan Antü ซึ่งแปลว่า "ความตายของดวงอาทิตย์"

ทันยา กล่าวว่า "มีบันทึกการเกิดขึ้นของสุริยุปราคาทั่วโลกตลอดประวัติศาสตร์เกือบ 5,000 ปี"

นักดาราศาสตร์ผู้นี้กล่าวเพิ่มเติมว่า "เป็นเรื่องง่ายที่จะเข้าใจว่า ทำไมสุริยุปราคาเต็มดวงในส่วนใหญ่ของประวัติศาสตร์จึงถูกมองว่าเป็น ลางไม่ดี เพราะว่าดวงอาทิตย์เหมือนถูกกิน และกลางวันก็เปลี่ยนเป็นกลางคืนเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ"

ทันยา กล่าวว่า "ในปีเดียวอาจมีสุริยุปราคาเกิดขึ้นได้ถึง 5 ครั้ง แต่สุริยุปราคาเต็มดวงจะเกิดขึ้น 1 ครั้ง ประมาณทุก ๆ 18 เดือน เมื่อดวงจันทร์อยู่ในตำแหน่งที่บดบังแสงจากดวงอาทิตย์ได้อย่างสนิท"

โดยสุริยุปราคาเต็มดวงครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นที่แอนตาร์กติกา (ธ.ค. 2021), อินโดนีเซียและออสเตรเลีย (เม.ย. 2023), สหรัฐฯ และแคนาดา (เม.ย. 2024), ยุโรปตอนใต้และกรีนแลนด์ (ส.ค. 2026) และพื้นที่ส่วนใหญ่ของแอฟริกาและภูมิภาคตะวันออกกลาง (ส.ค. 2027) ดังนั้น คุณอาจวางแผนล่วงหน้าได้

 

21 ธ.ค. : การโคจรมาพบกันของดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ มองเห็นได้จากทั่วโลก

 

Getty Images
ดาวเคราะห์ทั้งสองโคจรมาทับซ้อนกัน ทำให้ดูเหมือนเป็นดาวดวงเดียวกันกำลังส่องสว่างอยู่ ครั้งล่าสุดที่ดาวทั้งสองโคจรมาเข้าใกล้กันมากขนาดนี้เกิดขึ้นเมื่อ 397 ปีก่อน หลังจากที่กาลิเลโอประดิษฐ์กล้องโทรทรรศน์ขึ้นไม่นาน

 

"ดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์น่าจะเป็นดาวเคราะห์ที่มองเห็นได้ชัดที่สุด เพราะมีความสว่างมาก" เอ็ด บลูมเมอร์ นักดาราศาสตร์ที่หอดูดาวกรีนิช กล่าว

การโคจรมารวมตัวกันเกิดขึ้นเมื่อดาวเคราะห์ทั้งสองโคจรมาทับซ้อนกัน ทำให้ดูเหมือนเป็นดาวดวงเดียวกันกำลังส่องสว่างอยู่

นี่คือปรากฏการณ์ที่เราจะได้เห็นในคืนวันที่ 21 ธ.ค. นี้ เอ็ด กล่าวว่า " 'ดาวเคราะห์พเนจร 2 ดวง คือ ดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ นี้จะเข้าใกล้กันมากในท้องฟ้า จนดูเหมือนว่า เกือบจะสัมผัสกัน"

 

Getty Images
เดือน ธ.ค. 2020 มีปรากฏการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจบนท้องฟ้าที่สามารถมองเห็นได้จากทุกที่ทั่วโลก
 

หากมองด้วยตาเปล่า ดาวเคราะห์ทั้งสองดวงนี้จะอยู่ห่างกันน้อยกว่า 0.1º แต่ในความเป็นจริง มันเป็นเรื่องของมุมมอง ขณะนี้โลกและดาวพฤหัสบดีอยู่ห่างกันมากกว่า 800 ล้านกิโลเมตร (ระยะห่างขึ้นอยู่กับตำแหน่งในวงโคจรของโลกและดาวพฤหัสบดี) และดาวพฤหัสบดีอยู่ห่างจากดาวเสาร์ในระยะใกล้เคียงกัน

แต่ในช่วงไม่กี่เดือนนี้ ดาวเคราะห์ที่เป็นกลุ่มแก๊สขนาดใหญ่ทั้งสองดวงดูเหมือนจะเข้าใกล้กันมากบนท้องฟ้าที่เราเห็นยามค่ำคืน และในที่สุด ดาวทั้งสองจะ "มาเจอกัน"

"การมาพบกันเช่นนั้น เป็นสิ่งที่น่าติดตามชม โดยเฉพาะในช่วงหลายวันก่อนและหลังจากที่มีการเข้าใกล้กันมากที่สุด เพื่อที่จะได้เห็นว่า มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร" เอ็ด กล่าว

และถ้าคุณมีกล้องส่องทางไกลหรือกล้องโทรทรรศน์ขนาดเล็ก คุณก็อาจมองเห็นดวงจันทร์ขนาดใหญ่ 4 ดวงของดาวพฤหัสบดี คือ ไอโอ (Io), ยูโรปา (Europa), แกนิมิด (Ganymede) และ คัลลิสโต (Callisto)

ดวงจันทร์เหล่านี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อ ดวงจันทร์ของกาลิเลโอ (Galilean Moons) เพราะว่า กาลิเลโอ กาลิเลอี นักดาราศาสตร์ชาวอิตาลี เป็นคนแรกที่สังเกตเห็นดวงจันทร์เหล่านี้ในปี 1610 ด้วยกล้องโทรทรรศน์ใหม่ที่เขาประดิษฐ์ขึ้นก่อนหน้านั้น 2-3 เดือน

 

Getty Images
ดาวขนาดใหญ่ตรงกลางคือ ดาวพฤหัสบดี และถ้าคุณมีกล้องส่องทางไกลหรือกล้องโทรทรรศน์ขนาดเล็ก คุณก็อาจมองเห็นดวงจันทร์ขนาดใหญ่ 4 ดวงของดาวพฤหัสบดี คือ ไอโอ (Io), ยูโรปา (Europa), แกนิมิด (Ganymede) และ คัลลิสโต (Callisto) ทางขวา

 

การพบกันของดาวเสาร์และดาวพฤหัสบดี เกิดขึ้นทุก ๆ 19.6 ปี "แต่ครั้งนี้มีความพิเศษมากกว่าเกือบจะทุกครั้ง เพราะการพบกันในปี 2020 จะเป็นการโคจรเข้าใกล้กันมากที่สุดนับตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 17"

ครั้งล่าสุดที่ดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ดูเหมือนจะเข้าใกล้กันขนาดนี้ เกิดขึ้นเมื่อ 397 ปีก่อน คือ ปี 1623

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นักดาราศาสตร์และนักดูดาวต่างตื่นเต้นกับปรากฏการณ์ครั้งนี้ "มันยิ่งกว่าโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิต!" เอ็ด กล่าว

"การสังเกตการเคลื่อนที่ของดาวเคราะห์ต่าง ๆ ทำให้มนุษย์เข้าใจระบบสุริยะของเราเป็นเวลานานก่อนที่เราจะเดินทางไปอวกาศได้จริง ๆ" เขากล่าวเพิ่มเติม

"การชมกลศาสตร์ท้องฟ้าเหล่านี้ ช่วยจุดประกายกระบวนการทางฟิสิกส์ที่อยู่เบื้องหลัง ช่วงสร้างกรอบการทำงานที่ไม่เพียงทำให้เราเข้าใจจักรวาลนี้มากขึ้น แต่ยังมีส่วนทำให้เกิดนวัตกรรมและความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์นับไม่ถ้วนบนโลกนี้" เอ็ด กล่าว

ถ้าท้องฟ้าเปิด ก็จะชมปรากฏการณ์นี้ได้ง่ายขึ้น แต่คุณจะต้องรีบหน่อย เพราะคุณมีเวลาเพียง 1 ชั่วโมง ก่อนที่ดาวเคราะห์ทั้ง 2 ดวงนี้จะลับขอบฟ้าไป

ควรจะมีการวางแผนล่วงหน้า และใช้เวลาสังเกตตำแหน่งของดาวเคราะห์ทั้งสองก่อน 2-3 คืน เพื่อที่จะได้รู้ว่าจะมองหาดาวทั้งสองบริเวณไหน โดยมันจะอยู่ต่ำลงมาทางเส้นขอบฟ้าทางตะวันตกเฉียงใต้ หลังจากที่อาทิตย์ตกแล้ว ครึ่งชั่วโมง

เรื่องที่พิเศษอีกอย่างหนึ่งในวันที่ 21 ธ.ค. คือ วันนั้นเป็นวันเหมายัน (วันที่กลางวันมีเวลาสั้นที่สุด) ซึ่งในทางดาราศาสตร์เป็นวันแรกที่เข้าสู่ฤดูร้อนของซีกโลกใต้ และเป็นวันแรกของการเข้าสู่ฤดูหนาวในซีกโลกเหนือ