สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาแนะนำการเตรียมตัวสำหรับการซื้อบ้าน(การแนะนำนี้เป็นจากประสบการณ์ส่วนตัว ไม่ใช่เจ้าหน้าที่แต่อย่างใด)ภาพประกอบที่ 1 1. คำนวณรายได้ทั้งหมดที่ได้รับต่อเดือนก่อนจะซื้อบ้านนั้น เราต้องคำนวนรายได้ต่อเดือนก่อน เพื่อดูความสามารถในการผ่อนชำระ โดยรายได้นั้นดูง่ายๆจากสลิปเงินเดือนของเรานั่นเอง หากมีโอทีหรือค่าคอมมิชชั่น ก็นำมารวมตรงส่วนนี้ได้ แต่สิ่งสำคัญคือรายได้ตรงส่วนนี้ ต้องได้รับสม่ำเสมอ นับจาก 6 เดือนล่าสุด และมีหลักฐานการรับเงินชัดเจน หากมีสลิปยิ่งดี แต่ในบางธนาคาร ค่าโอทีกับคอมมิชชั่นอาจจะไม่ได้คิดให้ 100% ขึ้นอยู่แต่ละเกณฑ์ของธนาคาร แนะนำว่าหากฐานเงินเดือนสูง จะยิ่งมีโอกาสผ่านได้หลายธนาคารมากกว่าหรือหากมีรายได้เสริมทางอื่น ก็สามารถนำมาอ้างอิงได้ แต่เอกสารแสดงรายได้ และหลักฐานทางการเงินต้องมีสำหรับอ้างอิง 2. คำนวณภาระต่อเดือนภาระจะแบ่งหลัก ๆ 2 ส่วน คือภาระในระบบ คือ ภาระที่แสดงในเครดิตบูโร ได้แก่ บัตรเครดิต , บัตรกดเงินสด , รถ , สินเชื่อบุคคล เป็นต้นภาระนอกระบบ คือ ภาระที่ไม่แสดงในเครดิตบูโร ได้แก่ ค่าเช่าบ้าน , ค่ากิน , ค่าใช้จ่ายทั่วไป เป็นต้น ภาพประกอบที่ 2 3. คำนวณยอดคงเหลือต่อเดือนหลังจากเราคำนวณทั้งรายได้ และภาระหนี้แล้ว ลองมาคำนวณเงินที่เราเหลือเพื่อผ่อนบ้านรายได้ – ภาระหนี้ในระบบ – ค่ากินใช้ 10,000 = เหลือผ่อนบ้านเช่น 30,000 – 10,000 – 10,000 = 10,000 บาท ความสามารถในการผ่อนบ้านคร่าวๆ อยู่ที่ 10,000 บาทค่ากินใช้ 10,000 คืออะไร ? ทำไมต้องมี ?ธนาคารแต่ละธนาคารนั้น ค่ากินใช้ อาจจะไม่ได้ 10,000 ทุกที่ แต่เป็นการคำนวณเบื้องต้น แต่ทุกธนาคารจะต้องมีหักค่ากินใช้ เพื่อดูความสามารถในการผ่อนบ้าน เพื่อไม่ให้ตึงเกินไปนั่นเอง 4. เช็คประวัติการผ่อนชำระค่าต่างๆที่ผ่านมาภายใน 3 ปีนอกจากรายได้ที่มากพอแล้ว ประวัติการผ่อนชำระก็สำคัญไม่แพ้กัน ไม่ว่าคุณจะมีบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด รถ หรือสินเชื่ออื่นๆ ลองเช็คตัวเองดูว่าเคยชำระล่าช้าไหม เคยขาดส่งหรือเปล่า หากคุณนั้นไม่เคยชำระล่าช้าใดๆ และรายได้คงเหลือมากพอ ก็สามารถไปต่อได้แบบชิล ๆ แต่หากคุณเคยชำระล่าช้าบ้าง นานๆครั้ง หากไม่เกิน 90 วัน และปัจจุบันชำระปกติ ยังพอมีโอกาสที่คุณจะผ่าน แต่หากเกิน 90 วัน ส่วนใหญ่ธนาคารจะแนะนำให้คุณปิดยอดภาระตัวนั้น และรอประมาณ 3-6 เดือน ถึงจะยื่นใหม่ได้ แต่ถ้าคุณติดเกิน 300 วัน และยังไม่ได้เคลียร์ยอด แบบนี้คุณต้องปิดยอดให้หมด และรอ 3 ปี กว่าจะเริ่มต้นซื้อได้ (แต่มีบางธนาคารหากปิด 6 เดือน ก็สามารถยื่นกู้ได้ แต่ตัวเลือกจะค่อนข้างน้อย แต่ถ้า 3 ปี จะยื่นได้ทุกธนาคาร)หากไม่แน่ใจประวัติการผ่อนชำระ สามารถขอตรวจเช็คเครดิตบูโรได้ที่ธนาคารทุกสาขา หรือผ่านแอปธนาคารที่คุณใช้อยู่ 5. กู้กับใครได้บ้างหากรายได้คงเหลือต่อเดือนคุณไม่สามารถที่จะกู้คนเดียวได้ ก็สามารถกู้ร่วมได้ค่ะ โดยคนที่กู้ร่วมนั้น จะต้องเป็นคู่สมรส หรือบุคคลในสายเลือดเดียวกัน เช่น พ่อ แม่ พี่ น้อง ในกรณีคู่สมรส จะจดหรือไม่จดทะเบียนก็ได้ค่ะ 6. หาดูบ้านที่ต้องการหากประเมินตัวเองเบื้องต้นแล้ว สามารถไปต่อได้ สามารถลุยหาบ้านที่ต้องการได้เลยค่ะ แต่อาจจะอิงจากรายได้คงเหลือ หลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว ว่าพอจะผ่อนบ้านราคาประมาณเท่าไหร่ไหว คำนวณผ่อนต่อเดือนคร่าวๆ คือ ผ่อนล้านละ 7,000 บาท/เดือน (โดยคิดจากดอกเบี้ย 5% และผ่อนยาว 30 ปี) แต่จะเป็นการคำนวณคร่าว ๆ เท่านั้น เนื่องจากแต่ละคนอายุ และดอกเบี้ยที่ได้รับแตกต่างกัน อาจจะผ่อนมากกว่าหรือน้อยกว่าก็ได้ ภาพประกอบที่ 3 แต่หากเช็คเบื้องต้นแล้ว ยังไม่มั่นใจ แนะนำเข้าไปติดต่อได้ที่ธนาคารทุกสาขาได้เลยนะคะ เพื่อความมั่นใจค่ะ สรุปคำนวณรายได้ต่อเดือนคำนวณภาระหนี้ต่อเดือนคำนวณยอดคงเหลือต่อเดือนเช็คประวัติการผ่อนชำระที่ผ่านมาหาดูบ้านที่ต้องการ ความคิดเห็นส่วนตัว การผ่อนบ้านเป็นภาระชิ้นที่ใหญ่มาก หากคุณมั่นใจว่าจะสามารถผ่อนในระยะยาวได้ สามารถลุยได้เลยค่ะ แต่หากตอนนี้ยังมีภาระหนี้ต่างๆ ไม่ว่าจะในระบบหรือนอกระบบ แนะนำให้ภาระตรงส่วนนั้นลดลงก่อนหรือหมดไปจะดีกว่าค่ะ เพราะหากคุณไม่สามารถผ่อนได้ จะมีปัญหาต่าง ๆ ตามมาอีกค่ะ หรือในแต่ละเดือนลองออมเงินเท่ากับค่าผ่อนบ้านดูก่อนก็ได้ค่ะ ว่าทำให้แต่ละเดือนเราติดขัดไหม และลองตัดสินใจต่อดูค่ะ ภาพประกอบที่ 4 ภาพปก โดยผู้เขียน และ คุณ nattanan23 / pixabayภาพประกอบที่ 1 โดยคุณ OleksandrPidvalnyi / pixabayภาพประกอบที่ 2 โดยคุณ stevepb / pixabayภาพประกอบที่ 3 โดยคุณ Skitterphoto / pixabayภาพประกอบที่ 4 โดยคุณ nattanan23 / pixabay7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์