คนอเมริกันประหยัด “ฮาโลวีน” สินค้าแพง

หนึ่งในประเทศที่มีการจัดงานฮาโลวีนมากสุดคงต้องยกให้ “สหรัฐฯ “

มีการประเมินจาก สหพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติของประเทศสหรัฐอเมริกา (National Retail Federation : NRF) ว่า เทศกาลฮาโลวีนปีนี้น่าจะฟื้นตัวจากปีที่ผ่านมา

 ถ้าตัวเลขย้อนหลัง เมื่อปี 2566 ผู้บริโภคในสหรัฐฯ มีการใช้จ่ายในเทศกาลฮาโลวีน 12,200 ล้านเหรียญสหรัฐ

ปี 2567 ลดลงมาอยู่ที่11,600 ล้านเหรียญสหรัฐ ถึงแม้ว่าจะลงจากปีก่อนหน้า แต่ก็ยังสูงกว่าช่วงก่อนโควิด

คาดว่าในปีนี้(2568)  การใช้จ่ายจะอยู่ที่ 13,100 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดใหม่ของสหรัฐฯ โดย NRF ระบุว่าแม้ราคาสินค้าอาจจะได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจและภาษีนำเข้า แต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังคงตั้งใจที่จะร่วมสนุกกับเทศกาลนี้

ถ้าแยกรายหมวดหมู่ พบว่า  เครื่องแต่งกาย มีมูลค่า ประมาณ 4,300 ล้านเหรียญสหรัฐ

 ของตกแต่ง 4,200 ล้านเหรียญสหรัฐ 

ขนม ประมาณ 3,900  ล้านเหรียญสหรัฐ

บัตรอวยพร 700 ล้านเหรียญสหรัฐ 

มีผลสำรวจาระบุว่า ในปีนี้ผู้บริโภคสหรัฐฯ วางแผนจะร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลฮาโลวีร้อยละ 73 ซึ่งใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า

ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ประมาณ  114 เหรียญสหรัฐ 

ผู้ที่วางแผนจะร่วมฉลองในเทศกาลฮาโลวีน ก็มีการวางแผนล่วงหน้าที่จะซื้อวัสดุอุปกรณ์เพื่อมาตกแต่งบ้าน หรือสถานที่ต่างๆ ถึงร้อยละ 78 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 75 ในปีก่อน 

แม้ว่าราคาสินค้า เช่น การติดตั้งฉากยักษ์, โคมไฟ, ฟักทองประดับ, มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น แต่ผู้บริโภคยังให้ความสำคัญกับการตกแต่งบ้านเพื่อสร้างบรรยากาศฮาโลวีน. 

ผลสำรวจยังพบว่า ผู้บริโภค ราวครึ่งหนึ่ง(ร้อยละ 50) เริ่มการซื้อสินค้าเกี่ยวกับฮาโลวีนก่อนเดือนตุลาคม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการขายสินค้าฮาโลวีน ไม่ถูกจำกัดอยู่แค่ช่วงใกล้วันเฉลิมฉลองในเดือนต.ค.อีกต่อไป

นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้บริโภคหันไปซื้อที่สินค้าที่มีการลดราคา (discount stores) เช่น ซื้อในร้าน off-price และ dollar stores มากขึ้นในปีนี้

บริษัทวิเคราะห์ตลาดอย่าง Data Intelo มีการประเมินถึงโอกาสทางธุรกิจในเทศกาลฮาโลวีน พบว่า เป็นโอกาสของสินค้า หลายกลุ่ม เช่น 

สินค้าตกแต่ง : ตลาดของตกแต่งสำหรับฮาโลวีนทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตขึ้นทุกปี คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 6.5 ต่อปีจนถึงปี 2575  โดยเมื่อปี 2566  ถูกประเมินว่าตลาดสินค้าตกแต่งจะมีมูลค่าราว 3,500 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 6,100 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2575  

เครื่องแต่งกายและอุปกรณ์ : มีการประเมินว่า อุตสาหกรรมเครื่องแต่งกายสำหรับฮาโลวีนทั่วโลกเติบโตอยู่ที่ประมาณร้อยละ  5 ต่อปี ตั้งแต่ช่วงปี 2566 ถึง 2573 ซึ่งสร้างโอกาสที่ดีให้กับตลาดในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่จะเติบโตมากกว่าภูมิภาคอื่นๆ

จากภาวะตลาด และการแข่งขันทางการค้าที่รุนแรงขึ้น ทำให้นผู้ขายสินค้าเกี่ยวกับฮาโลวีน ต้องเผชิญกับแรงกดดันเพิ่มขึ้น ในปีนี้

ต้นทุนการผลิตและนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้น เช่น ช็อกโกแลตและวัตถุดิบสำหรับขนมหวาน ที่จะสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาขายเพิ่มขึ้น เช่น ขนมฮาโลวีน/ช็อกโกแลตในเทศกาล ที่ขายในราคาเฉลี่ย 16 เหรียญสหรัฐต่อถุง ปรับขึ้นมาเกือบร้อยละ 15  เมื่อเทียบกับปีก่อน และเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 78 เมื่อเทียบกับปี 2563

สถาบันอาหารและเกษตรของเวลส์ ฟาร์โก (Wells Fargo) รายงานว่า ราคาโกโก้ที่นำมาผลิตช็อกโกแลตสูงขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี 2567 และในปีนี้เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว  นอกจากนี้ ภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ที่เพิ่งบังคับใช้กับผู้ส่งออกโกโก้และผลิตภัณฑ์โกโก้ไปยังสหรัฐฯ ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นอีกด้วย 

ภาษีและอุปสรรคนำเข้าเพิ่มขึ้น  โดยสินค้าสำหรับฮาโลวีนมักผลิตในจีนหรือประเทศในเอเชีย ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาษีตอบโต้ และอัตราแลกเปลี่ยน ที่สะท้อนไปยังราคาขายที่สูงขึ้น

ถ้าดูการผลิตสินค้าเกี่ยวข้องกับฮาโลวีน ตั้งแต่ ของตกแต่ง, ชุดแฟนซี, เครื่องประดับ พบว่า  จีนมีฐานการผลิตใหญ่มากและสินค้าจากจีนถูกส่งออกไปตลาดโลก รวมถึงสหรัฐอเมริกา แม้จะมีความเสี่ยงเกี่ยวกับภาษี แต่ถ้าเทียบกับการผลิตในสหรัฐฯ การสั่งสินค้ามาขายยังคุ้มกว่า 

ผู้บริโภคประหยัดมากขึ้น มีผลสำรวจพบว่าร้อยละ  59 ระบุว่าจะลดค่าใช้จ่ายเนื่องจากผลกระทบจากเงินเฟ้อ โดยผู้บริโภคจึงมองหาร้านที่ให้ผลประโยชน์ทั้งด้านขนาด-ราคาที่ดีกว่า เช่น ร้านที่ลดราคา หรือสามารถเสนอราคาที่ถูกกว่าสำหรับผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกัน โดยมีรายงานจาก Reuters ในช่วงสัปดาห์นี้ ร้านค้าต่าง ๆ เช่น ร้านขายขนมฮาโลวีนและสินค้าเทศกาลกำลังออกโปรโมชั่นอย่างหนัก เพื่อดึงดูดลูกค้าให้ไปใช้บริการก่อนสิ้นสุดเทศกาล เพื่อไม่ให้สินค้าเหลือค้างสต็อก

สำนักข่าว CNN รายงานว่า ในปีนี้ครอบครัวชาวอเมริกันหลายบ้านกำลังเผชิญกับปัญหาค่าครองชีพที่หนักขึ้น ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภคตามฤดูกาลและสินค้าจำเป็นตลอดทั้งปี โดยเดือนที่แล้ว “ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคพุ่งสูงขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบสามปี และโดยรวมแล้วเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 3”  นับตั้งแต่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง

แม้ว่าก่อนเลือกตั้งโดนัลด์ ทรัมป์ สัญญาว่าจะลดค่าใช้จ่ายสำหรับครอบครัวชาวอเมริกัน แต่กลับสร้างกำแพงภาษีที่ส่งผลกระทบ จนทำให้เทศกาลแห่งความสนุกสนานและการเฉลิมฉลองกลายเป็นการต่อสู้เพื่อหาเงินมาซื้อสิ่งจำเป็นพื้นฐานแทน

“ชาวอเมริกัน ร้อยละ 80 มองว่า มาตรการกำแพงภาษีของทรัมป์ ทำให้การเฉลิมฉลอง Halloween ในปีนี้ของพวกเขาต้องจ่ายแพงขึ้น โดยพบว่าสินค้านำมาแจกเด็กๆ ในเทศกาลฮาโลวีน เช่น ขนม-ลูกอม แพงขึ้นเฉลี่ยกว่าร้อยละ 10”

นอกจากขนมและลูกอมที่ราคาเพิ่มขึ้น อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ชุดคอสตูมผีในช่วง Halloween ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอางคอสเพลย์ ของตกแต่งและชุดแต่งกาย มีราคาแพงขึ้นเช่นกัน ส่วนหนึ่งเกิดจากสินค้าส่วนใหญ่ ผลิตจากจีน โดยเป็นที่ราบกันว่า จีนถูกสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีนำเข้าที่สูงขึ้น ส่งผลให้สินค้าต่างๆ มีราคาแพงขึ้น