จีนประกาศว่าจะต้องโต้ตอบสหรัฐฯ อย่างสาสม กรณีที่อนุมัติการขายอาวุธให้ไต้หวัน

กระทรวงการต่างประเทศของจีน ประกาศเมื่อวานนี้ (5 สิงหาคม) ว่า มูลค่าการซื้อขายอาวุธระหว่างไต้หวันและสหรัฐฯ มูลค่ากว่า 750 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 2.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งรวมถึง 'ปืนใหญ่อัตตาจร' หรือ พาหนะที่สามารถขับเคลื่อนด้วยตัวเองได้ที่ติดตั้งปืนใหญ่ จำนวน 40 ชิ้น ที่จีนมองว่าเป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตยและผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของจีนอย่างร้ายแรง

 

 

ทางการจีน กล่าวว่า สิ่งที่สหรัฐฯ กำลังทำ เป็นการส่งสัญญาณที่ผิด ๆ ไปให้กับกองกำลังที่ต้องการอิสรภาพของไต้หวัน นับเป็นการทำลายความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน และสันติภาพบนคาบสมุทรไต้หวันอย่างหนัก จีนขอต่อต้านการจำหน่ายอาวุธครั้งนี้ และจีนจะใช้มาตรการปกป้องผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของตน

 

 

ก่อนหน้านี้ จีนได้ประณามการจำหน่ายอาวุธของสหรัฐฯ ให้กับไต้หวัน โดยระบุว่า เป็นการหนุนการละเมิดอธิปไตยของจีน และขัดต่อแถลงการณ์ร่วม 3 ฉบับ ซึ่งรวมถึงข้อตกลงที่สหรัฐฯ จะค่อย ๆ ลดการขายอาวุธให้กับเกาะไต้หวัน

 

 

ย้อนกลับไปสมัยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้อนุมัติการขายอาวุธให้กับไต้หวันมูลค่า 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 5.58 หมื่นล้านบาทเมื่อปีที่แล้ว นำมาสู่การที่จีนคว่ำบาตรบริษัทและบุคคลของสหรัฐฯ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

ด้านกระทรวงต่างประเทศไต้หวัน ระบุเมื่อวานนี้ (5 สิงหาคม) ว่า การซื้ออาวุธครั้งนี้ จะเป็นการเสริมความแข็งแกร่งในการปกป้องตนเอง, การสร้างเสถียรภาพ และสันติภาพบน

คาบสมุทรเอาไว้ได้ เพราะที่ผ่านมาไต้หวันต้องเผชิญกับการขยายกำลังการทหาร และการยั่วยุจากจีนอยู่บ่อยครั้ง ทำให้รัฐบาลต้องเพิ่มความแข็งแกร่งของกองกำลังและความมั่นคง เพื่อปกป้องชีวิตของประชาชน, เสรีภาพ และประชาธิปไตยของไต้หวัน

 

 

สำหรับข้อตกลงการซื้อขายอาวุธล่าสุด ประกอบด้วย พาหนะที่สามารถขับเคลื่อนด้วยตัวเองได้ที่ติดตั้งปืนใหญ่ จำนวน 40 ชิ้น หรือ ปืนใหญ่อัตตาจร, ยานพาหนะติดอาวุธอื่น ๆ , ปืนกล และการดัดแปลงกระสุนปืนใหญ่ให้กลายเป็นอาวุธที่ทันสมัย ที่สามารถเจาะจงเป้าหมายได้ดีขึ้น

 

 

ซึ่งข้อตกลงดังกล่าว จะต้องได้รับมติสนับสนุนจากสภาคองเกรสสหรัฐฯ ก่อน ซึ่งหากอนุมัติ ก็จะต้องมีการเจรจาขั้นสุดท้ายระหว่างกันอีกครั้ง