ทรัมป์อาจได้เจอคิมจองอึน ที่การประชุมเอเปค

รัฐมนตรีกระทรวงรวมชาติเกาหลีของเกาหลีใต้ เปิดเผยว่ามีความเป็นได้สูงในการประชุมเอเปค ที่จะจัดขึ้นในเมืองคยองจู ของเกาหลีใต้ ที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะได้เจอกับ คิมจองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ โดยทรัมป์มีกำหนดจะเดินทางถึงเกาหลีใต้ ในวันพุธที่ 29 ตุลาคม และสื่อของสหรัฐฯ ก็รายงานว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายสหรัฐฯ พยายามที่จะประสานงานกับทางการของเกาหลีเหนือ ให้ทรัมป์ได้พบกับคิมจองอึนในการเดินทางไปประชุมครั้งนี้

ชุง ดอง ยอง รัฐมนตรีกระทรวงรวมชาติเกาหลี บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ดูเหมือนเกาหลีเหนือจะตั้งใจติดตามข่าวการเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิดในช่วงนี้ และบวกกับสัญญาณอื่น ๆ แสดงให้เห็นว่ามีโอกาสไม่น้อยที่การพบปะกันระหว่างทรัมป์กับคิมจองอึนอาจจะเกิดขึ้น

ทรัมป์กับคิมจองอึน พบกันครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2019 ซึ่งหลังจากที่ทรัมป์กลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ สมัยที่สอง เขาพูดอยู่เสมอว่าตั้งใจที่จะพบกับคิมจองอึนอีกครั้ง และถ้าเป็นไปได้ ก็อยากจะเจอกันภายในปีนี้ด้วย ด้าน คิมจองอึน ก็มีท่าทีอยากจะพบกับทรัมป์เหมือนกัน โดยคิมเคยเปิดเผยว่าเขานึกถึงช่วงเวลาที่เคยเจอทรัมป์ และก็พร้อมที่จะเจอกับทรัมป์อีก ขอเพียงแค่สหรัฐฯ ไม่เรียกร้องให้เกาหลีเหนือปลดอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีทางเป็นไปได้

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีประกาศออกมาอย่างเป็นทางการว่า ทรัมป์กับคิมจองอึนจะนัดเจอกันหรือไม่ แต่ทางกระทรวงรวมชาติเกาหลี บอกว่าหากมีโอกาสที่ผู้นำทั้งสองคนได้เจอกัน ก็จะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับการคลายความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี และถึงจะมีโอกาสแค่ 1% เขาก็หวังว่าทรัมป์กับคิมจองอึนจะได้พบกัน

อีกด้านหนึ่ง ทางทำเนียบขาวยืนยันแล้วว่าทรัมป์จะได้พบกับสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ในการประชุมเอเปคที่เกาหลีใต้ ในวันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม  โดยแคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกของทำเนียบขาวบอกว่า ทรัมป์มีกำหนดการที่จะเดินทางกลับสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดีหน้า แต่ในช่วงเช้าก่อนเดินทางกลับ เขาจะประชุมร่วมกับสีจิ้นผิง ซึ่งนับว่าเป็นการพบปะกันครั้งแรกระหว่างทรัมป์กับสีจิ้นผิง ตั้งแต่ทรัมป์กลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่สอง ท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสองประเทศที่ยังคงตึงเครียดอยู่ จากการที่จีนประกาศควบคุมการส่งออกแร่ธาตุหายาก และสหรัฐฯ ก็ประกาศขึ้นภาษีจีนเป็นการตอบโต้ ซึ่งทรัมป์มีความมั่นใจว่าเขาสามารถคุยกับสีจิ้นผิงรู้เรื่อง และสามารถคลายความขัดแย้งทางการค้าได้