หุ้นไทยคาดแกว่งตัวกรอบแคบ รอดูผลประชุมเฟดในคืนวันนี้
ทันหุ้น-บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้จะแกว่ง Sideways อยู่ในกรอบ 1,600-1,620 จุด ซึ่งมีปัจจัยที่ต้องติดตามได้แก่ปัญหาหนี้ของ Evergrande ซึ่งล่าสุดเริ่มเบี้ยวจ่ายดอกเบี้ยแล้ว รวมถึงต้องดูว่าภาครัฐของจีนจะมีมาตรการเข้ามาช่วยอย่างไร โดยมองเป็นปัจจัยกดดันในเชิง Sentiment แต่ผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจไทยไม่มีนัยยะ
ขณะที่ในคืนนี้มีปัจจัยที่สำคัญต้องติดตามคือการประชุมเฟด ว่าจะมีการส่งสัญญาณลดขนาด QE เพิ่มเติมมากน้อยเพียงใด ทั้งปริมาณและเวลา โดยประเมิน Flow ต่างชาติจะไม่ไหลออกแรง เนื่องจากที่ผ่านมาขายสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่อง แต่คาดไหลออกจากตลาดตราสารหนี้ที่ซื้อสุทธิตั้งแต่เม.ย. 2563 เกือบ 1.8 แสนล้านบาท ฝ่ายวิจัยประเมินตลาดจะให้น้ำหนักจากการคลายล็อคดาวน์เพิ่มเติมในเดือน ต.ค.นี้ และเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัวมากกว่า ยังมองจังหวะพักตัวของดัชนีบริเวณ 1,600 จุด เป็นโอกาสทยอยสะสม
ด้านบล.เคทีบีเอสที ประเมินตลาดหุ้นไทยจะแกว่งตัวกรอบแคบ มองว่าตลาดยังให้ความสนใจกับทางออกของปัญหาของ Evergrande ที่กำลังเข้าสู่วิกฤต เพราะบริษัมีกำหนดจ่ายดอกเบี้ยก้อนใหญ่ 83 ล้านเหรียญในวันพรุ่งนี้ ซึ่งประเด็นที่มีผลต่อตลาดหุ้นไทย คือการตัดสินใจของทางการจีนว่าจะให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้หรือไม่ ถ้าให้ความช่วยเหลือ ตลาดก็จะลดความกังวลในเรื่องนี้ลงไป แต่ถ้าปฏิเสธความช่วยเหลือ หรือช่วยน้อยเกินไป จะมีผลเชิงลบต่อตลาด ซึ่งฝ่ายวิจัยคาดว่าทางการจีนน่าจะตัดสินใจภายในสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามคือการประชุม FOMC ของเฟด แม้จะถูกเบนความสนใจออกไปบ้าง แต่ยังคงเป็นทางแยกที่สำคัญของการลงทุน เพราะการตัดสินใจของเฟดคืนนี้ จะทำให้นักลงทุนต้องปรับพอร์ตรับกับนโยบายใหม่ เป็นเหตุให้ฝ่ายวิจัยประเมินว่าราคาสินทรัพย์ทางการเงินส่วนใหญ่จะทรงๆ ตัว รอดูผลประชุม ทำให้ตัวแปรที่จะทำให้ตลาดหุ้น ราคาน้ำมัน ค่าเงินดอลลาร์ ผันผวนได้
ส่วนปัจจัยภายในประเทศ ต้องรอดูความคืบหน้า Bangkok Sandbox ส่วนมาตรการผ่อนคลายที่จะประชุมวันที่ 27 ก.ย.นี้ ตลาดพอจะทราบอยู่แล้วสำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 2.74 หมื่นล้านบาท และแผนกระตุ้นการท่องเที่ยว จากการประชุมครม.วานนี้เป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว ซึ่งฝ่ายวิจัยชอบหุ้น AOT,CENTEL, ERW และ SHR