ช่วงหนึ่งเคยมีกระแสวัดระดับความเหงาของคนโสดเกิดขึ้นในบ้านเรา ตั้งแต่ความเหงาระดับเริ่มต้นที่สามารถไปรับประทานอาหารหรือชมภาพยนตร์คนเดียวได้ ไปจนถึงความเหงาขั้นสูงสุด ว่ากันว่าคนโสดที่ไปถีบเรือเป็ดในสวนสาธารณะคนเดียว คือคนโสดที่บรรลุทักษะการเอาตัวรอดจากความเหงาได้อย่างสมบูรณ์แล้วแล้วเพราะเหตุใด เรือเป็ด จึงกลายเป็นไอคอนของวงการคนโสดขึ้นมาได้ เพราะความจริงแล้วการถีบเรือเป็ดน่าจะเป็นกิจกรรมของคู่รักมากกว่า การได้ไปจู๋จี๋กันสองต่อสองอยู่บนเรือเป็ดที่ลอยอยู่กลางบึงในสวนสาธารณะ ความรู้สึกคงเหมือนหลุดไปอยู่ในโลกสีชมพูที่มีแต่เราสอง ตัดภาพมาที่คนโสด การลงไปถีบเรือเป็ดคนเดียวแบบไม่คิดอะไร คงเป็นวิธีประชดความเหงาที่ให้ความรู้สึกไม่ต่างกับการเดินเรือแล้วถูกคลื่นซัดจนเรือล่ม กลายเป็นเราที่ต้องเกาะขอนไม้ลอยเท้งเต้งอยู่กลางทะเลเพียงลำพังรูปภาพโดย Waldemar Brant : Unsplashการอยากประชดความเหงาด้วยการทำกิจกรรมของคนมีคู่จึงเป็นทักษะขั้นสูงสุด หากสามารถทำกิจกรรมนี้เพียงคนเดียวได้ ความเหงารูปแบบอื่นก็คงทำอะไรเราไม่ได้อีกแล้ว เรื่องนี้ทำให้เราเรียนรู้ได้อีกเช่นกันว่า เรือเป็ดที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ เป็นยานพาหนะสำหรับกิจกรรมยามว่างที่มีที่มาที่ไปน่าสนใจอยู่ไม่น้อยตามประวัติศาสตร์สากลว่าด้วยการคมนาคมของมนุษย์ นอกจากการเดินเท้าแล้ว นวัตกรรมด้านยานพาหนะที่มนุษย์คิดค้นขึ้นในยุคเก็บของป่าล่าสัตว์ คือการใช้ไม้มาผูกเข้าด้วยกันให้เป็นแพ แล้วล่องไปตามแม่น้ำเพื่อเสาะหาที่อยู่อาศัย จากนั้นจึงค่อย ๆ พัฒนากลายเป็นเรือ ตั้งแต่ลำเล็กไปจนถึงลำใหญ่ แม้กระทั่งการเดินทางรอบโลกเพื่อค้นหาดินแดนใหม่ ๆ ยังเป็นการเดินทางโดยใช้เรือ มนุษย์กับเรือจึงมีความเกี่ยวข้องกันมาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์เลยก็ว่าได้รูปภาพโดย Sire Alonso : Unsplashแม้จะมีการตัดถนนหนทาง แต่การโดยสารด้วยเรือยังคงมีอยู่ทุกพื้นที่ที่มีแม่น้ำลำคลอง แต่เมื่อไม่ได้ใช้เรือเดินทางไกลอย่างในอดีต เรือจึงถูกลดบทบาทเป็นเพียงเรือข้ามฟาก เรือด่วน เรือสำหรับท่องเที่ยว และที่สำคัญคือ เรือชมวิวทิวทัศน์ เรือเป็ดก็เป็นเรือประเภทหลังที่เกิดขึ้นมาเพื่อการชมทิวทัศน์ในสวนสาธารณะ สันนิษฐานว่าพัฒนามาจาก เรือหงส์ (Swan Boat) ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ปลายคริสตศตวรรษที่ 19 ณ เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกาเรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า ครอบครัวหนึ่งได้รับสัมปทานธุรกิจเช่าเรือพายในสวนสาธารณะ แล้วยุคนั้นการตระเตรียมอาหารออกไปปิคนิกในสวนใกล้บ้าน เป็นกิจวัตรประจำวันของชาวบอสตันอยู่แล้ว เมื่อสวนสาธารณะมีหนองน้ำและเรือพายให้เช่า ใครบ้างจะไม่อยากเปิดประสบการณ์ ธุรกิจของครอบครัวนี้จึงไปได้ดีมาก โดยเฉพาะช่วงซัมเมอร์จะมีครอบครัวออกมาทำกิจกรรมพายเรือกันเป็นจำนวนมากรูปภาพโดย Rmsep4 : Pixabayพอดีช่วงนั้นจักรยานกำลังมาแรงสูสีคู่คี่กับเรือพายธุรกิจจึงเริ่มซบเซา เพราะคนก็คงเมื่อยแขนจากการพายเรือทุกวัน ครอบครัวนี้จึงเปลี่ยนแผนใหม่ คิดค้นเรือที่ไม่ต้องพาย แต่ใช้วิธีการถีบเหมือนจักรยาน แต่จะทำลักษณะให้เหมือนเรือแบบเดิมก็คงจะธรรมดาไป จึงนำไอเดียจากละครโอเปร่าเรื่อง Lohengrin ว่าด้วยอัศวินรูปหล่อผู้นั่งเรือหงส์ขาวไปช่วยนางเอก เรือหงส์ในละครโอเปร่าที่งดงาม จึงกลายเป็นเรือหงส์ที่พร้อมให้บริการสำหรับครอบครัวรูปภาพโดย Triyugowicaksono : Unsplashเรือหงส์จึงเริ่มได้รับความนิยม และแพร่กระจายไปยังหลายพื้นที่ทั่วโลก ภูมิภาคเอเชียมีธุรกิจเรือถีบเกิดขึ้นที่ญี่ปุ่นก่อน เป็นเรือหงส์แบบบอสตันแต่เปลี่ยนจากเรือแบบครอบครัวเป็นเรือสำหรับคู่รัก ไทยเราจึงรับมาบ้าง แต่เปลี่ยนจากหงส์ให้เป็นเป็ด เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อม สถานที่แรก ๆ ที่มีเรือเป็ดน่าจะเป็นสวนสัตว์เขาดิน มีการตกแต่งให้เรือเป็ดมีสีสันต่างจากเรือหงส์ที่มีแต่สีขาว กลายเป็นกิจกรรมของหนุ่มสาวที่เริ่มจีบกันใหม่ ๆ ถึงแม้วันนี้เราจะไม่ค่อยเห็นเรือเป็ดตามสวนสาธารณะกันแล้ว แต่ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตำนานที่ถูกปลุกขึ้นมาใช้ประชดความเหงาของหนุ่มสาวยุคปัจจุบันได้ดีทีเดียวรูปภาพหน้าปกโดย bckfwd : Unsplash