จีนเรียกตัวทูตญี่ปุ่นเข้าพบ เพื่อประท้วงคำพูดของนายกฯ ญี่ปุ่นเรื่องไต้หวัน

กระทรวงต่างประเทศจีนระบุว่า  ซุน เว่ยตง รัฐมนตรีตรีช่วยต่างประเทศจีน ได้เรียกตัวเคนจิ คานาซูกิ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำจีน เข้าพบ เพื่อยื่นหนังสือประท้วงต่อญี่ปุ่น กรณีนายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทากาอิจิของญี่ปุ่น กล่าวถ้อยคำที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับจีน โดยเมื่อสัปดาห์ก่อน นายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทากาอิจิ ผู้นำคนใหม่ของญี่ปุ่น กล่าวระหว่างแถลงต่อรัฐสภาญี่ปุ่นว่า หากไต้หวันถูกโจมตี จะเป็นเหตุอันควรให้ส่งทหารไปสนับสนุนไต้หวัน ภายใต้การป้องกันตนเองแบบกลุ่ม ถ้าหากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นในไต้หวัน ที่ทำให้เกิดการรบและการใช้กำลัง นั่นอาจเป็นสถานการณ์ที่คุกความความอยู่รอดของญี่ปุ่น

จีนมองว่าคำพูดของผู้นำญี่ปุ่นเข้าข่ายแทรกแซงกิจการภายในของจีน โดยแถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศจีนระบุว่า หากผู้ใดกล้าแทรกแซงการรวมชาติของจีนไม่ว่าในรูปแบบใด จีนจะตีโต้กลับอย่างหนักหน่วงแน่นอน

วันเดียวกันก่อนหน้านั้น หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน กล่าวโจมตีคำพูดของทากาอิจิว่า จีนจะไม่ยอมทนต่อคำพูดเหล่านั้นไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด และฝ่ายญี่ปุ่นจะต้องแก้ไขการกระทำที่ผิดนั้นในทันที และถอนคำพูดที่ไร้เหตุผลเหล่านั้นออกไป

แต่ทางทากาอิจิได้กล่าวต่อรัฐสภาญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนว่า เธอจะไม่ถอนคำพูด และยืนยันว่า คำพูดของเธอสอดคล้องกับจุดยืนที่ผ่านมาของญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม ทากาอิจิกล่าวว่า ในอนาคตเธอจะงดเว้นการกล่าวถึงสถานการณ์ที่เฉพาะเจาะจงอย่างโจ่งแจ้ง

ทั้งนี้ เมื่อปี 2015 หรือ 10 ปีก่อน ญี่ปุ่นได้ผ่านกฎหมายความมั่นคง อนุญาตให้ญี่ปุ่นสามารถใช้สิทธิ์ป้องกันตัวเองแบบกลุ่ม (collective self-defence) ได้ในสถานการณ์บางอย่าง ซึ่งรวมถึงถ้าหากว่ามีอันตรายที่ชัดเจนต่อความอยู่รอดของญี่ปุ่น

ทากาอิจิ ผู้นำหญิงคนแรกของญี่ปุ่น เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นสายเหยี่ยวเกี่ยวกับจีน ซึ่งคาดว่าเธอจะมีท่าทีที่แข็งกร้าวกับจีนมากกว่าผู้นำคนก่อน โดยเธอไปคารวะศาลเจ้ายาสุกูนิเป็นประจำ ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารญี่ปุ่นที่สละชีวิตในสงคราม และเธอยังเป็นผู้สนับสนุนไต้หวันตัวยง และส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงระหว่างญี่ปุ่นกับไต้หวัน