8 ข้อควรระวัง ในการใช้ยาจุดกันยุงแบบขด ภายในบ้าน ที่ควรรู้! อ่านกันเลย เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล การใช้ยาจุดกันยุงเพื่อป้องกันยุงลาย ดูเหมือนจะเป็นแนวทางที่เราคนไทยต่างก็รู้จักกันดีว่า เป็นเพราะมียุงลายเยอะ เราเลยต้องหาทางป้องกันตัวเราเองจากแมลงที่เป็นพาหนะของความเจ็บป่วย ซึ่งคุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า นอกจากเราจะต้องมียาจุดกันยุงตุนไว้ใช้ภายในบ้านแล้ว อีกหนึ่งความสำคัญที่เราต้องเรียนรู้เพิ่มเติม คือ การต้องรู้เกี่ยวกับข้อควรระวังในการใช้ยาจุดกันยุงค่ะ ส่วนจะมีข้อมูลอะไรบ้างที่สำคัญนั้น ต้องอ่านต่อค่ะ เพราะในบทความนี้ผู้เขียนจะมาบอกต่อว่า หากเราต้องการจุดยากันยุงแบบขดหรือแบบธูป เพื่อกันยุงที่บ้าน อะไรบ้างที่เราต้องรู้ก่อนนำไปใช้ในสถานการณ์จริง ข้อควรระวังด้านไหนที่สำคัญกับเราและสุขอนามัยของคนในบ้าน พื้นที่แบบไหนเหมาะแก่การวางยาจุดกันยุงที่จุดแล้ว ฯลฯ โดยเมื่ออ่านจบแล้ว คุณผู้อ่านจะมองเห็นภาพชัดเจนขึ้นและรอบคอบขึ้น เมื่อต้องใช้ยาจุดกันยุงนะคะ และถ้าอยากรู้แล้วในรายละเอียดทั้งหมด งั้นเรามาอ่านต่อกันเลยดีกว่าค่ะ กับข้อควรระวังที่จำเป็นต้องรู้ดังต่อไปนี้ 1. ไม่ควรใช้ในปริมาณมากเกินไป การใช้ยาจุดกันยุงดูจะเป็นทางออกที่ง่ายและรวดเร็ว แต่สิ่งหนึ่งที่เรามักจะมองข้ามไปคือ ปริมาณการใช้ที่เหมาะสมค่ะ หลายคนอาจคิดว่า จุดเยอะๆ ยุงจะได้ไปไวๆ หรือ จุดทิ้งไว้ทั้งคืนเลยดีกว่า ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดที่อาจส่งผลเสียต่อสุขอนามัยโดยไม่รู้ตัวค่ะ ถึงแม้ว่ายาจุดกันยุงมีส่วนประกอบของสารเคมี ที่ออกแบบมาเพื่อไล่หรือฆ่ายุงก็จริง แต่เมื่อถูกเผาไหม้ ควันและสารเหล่านั้นจะกระจายอยู่ในอากาศที่เราหายใจเข้าไป การสูดดมสารเคมีเหล่านี้ในปริมาณที่มากเกินไป หรือเป็นเวลานานๆ ไม่ได้ส่งผลแค่การระคายเคืองตาหรือทางเดินหายใจเท่านั้น แต่อาจสะสมและก่อให้เกิดปัญหาในระยะยาวได้ ทั้งกับตัวเราเอง สมาชิกในบ้าน ไปจนถึงสัตว์เลี้ยงที่อยู่ร่วมกัน ดังนั้น การใช้ยาจุดกันยุงควรทำแต่พอดี จุดเท่าที่จำเป็น และไม่ควรจุดทิ้งไว้ข้ามคืน จะดีที่สุดค่ะ 2. จุดในที่อากาศถ่ายเทสะดวกเท่านั้น ถึงแม้ว่าการที่เราจะจุดยาจุดกันยุงในบ้านเพื่อไล่ยุงร้ายที่มาก่อกวน จะถือว่าเป็นเรื่องปกติที่เราทำกัน แต่มีสิ่งหนึ่งที่เรามักจะมองข้ามไปและสำคัญมากๆ นั่นคือเรื่องของการระบายอากาศนะคะ เพราะหลายคนอาจคิดว่าแค่จุดๆ ไปก็พอแล้ว แต่จริงๆ แล้ว ควันจากยาจุดกันยุงที่เราเห็นกัน ไม่ใช่แค่ควันธรรมดาๆ นะคะ แต่ยังมีสารเคมีที่ออกแบบมาเพื่อไล่หรือฆ่ายุงปะปนอยู่ด้วย ถ้าเราจุดยาจุดกันยุงในห้องที่ปิดทึบ ไม่มีอากาศถ่ายเท ควันและสารเคมีเหล่านี้ก็จะวนเวียนอยู่แต่ในห้อง ทำให้เราสูดดมเข้าไปในปริมาณที่มากเกินจำเป็น ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง แสบตา แสบจมูก หรือแม้กระทั่งส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจในระยะยาวได้ ยิ่งถ้าเป็นห้องนอน แล้วเราเผลอหลับไปในขณะที่ควันยังคลุ้งอยู่ ยิ่งเป็นอันตรายเลยค่ะ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของตัวเราเองและคนในบ้าน ทุกครั้งที่จุดยาจุดกันยุง อย่าลืมเปิดหน้าต่าง ประตู หรือหาทางให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อให้ควันและสารเคมีไม่สะสมอยู่ในปริมาณที่เป็นอันตราย แค่นี้เราก็สามารถไล่ยุงได้อย่างปลอดภัยสบายใจแล้วค่ะ 3. หลีกเลี่ยงการจุดในห้องปิดหรือห้องนอนขณะหลับ คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า การใช้ยาจุดกันยุงในบ้านอย่างไม่ถูกวิธีนั้น คือ การจุดในห้องปิด หรือห้องนอนขณะที่เราหลับ การทำแบบนี้อาจเป็นอันตรายต่อสุขอนามัยของคนเราได้มากกว่าที่คิด เพราะควันที่เกิดจากการเผาไหม้ของยาจุดกันยุงนั้นมีสารเคมีและอนุภาคเล็กๆ จำนวนมาก ซึ่งหากสูดดมเข้าไปในปริมาณมากๆ หรือเป็นเวลานาน อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ ไอ เจ็บคอ หรือในระยะยาวอาจส่งผลกระทบต่อปอดได้ ดังนั้นเพื่อสุขอนามัยที่ดีของทุกคนในบ้าน ควรหลีกเลี่ยงการจุดยาจุดกันยุงในพื้นที่ปิด หรือในห้องนอนขณะนอนหลับค่ะ หากจำเป็นต้องใช้ควรจุดในพื้นที่เปิดโล่ง ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก และควรออกจากบริเวณนั้นทันทีหลังจากจุด เพื่อลดการสูดดมควันโดยตรง ที่สำคัญให้ลองพิจารณาทางเลือกอื่นๆ ที่ปลอดภัยกว่า เช่น การติดมุ้งลวด การทาโลชั่นกันยุง หรือการใช้พัดลมช่วยไล่ยุง เพื่อสุขอนามัยที่ดีของตัวเราเองและคนที่คุณรักค่ะ 4. วางให้ห่างจากวัตถุไวไฟ ใช่อยู่ว่า การใช้ยาจุดกันยุงในบ้านเป็นวิธีที่สะดวกสบายในการไล่ยุง แต่หลายคนอาจมองข้ามเรื่องความปลอดภัยที่สำคัญมากๆ ไป นั่นคือการวางยาจุดกันยุงให้ห่างจากวัตถุไวไฟทุกชนิดค่ะ การละเลยข้อนี้อาจนำไปสู่เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เช่น อัคคีภัยได้ง่ายๆ เลย เพราะยาจุดกันยุงเป็นสิ่งที่ต้องจุดไฟและมีความร้อน ควัน หรือแม้แต่ขี้เถ้าที่ตกลงมา ก็สามารถทำให้กระดาษ ผ้าม่าน เฟอร์นิเจอร์ไม้ พรม หรือวัสดุติดไฟอื่นๆ ลุกไหม้ได้ในพริบตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบ้านเรือนที่มีสิ่งของวางทับซ้อนกัน หรือมีวัตถุไวไฟอยู่ใกล้ๆ ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงเข้าไปอีก ดังนั้นก่อนจุดยาจุดกันยุงทุกครั้ง ขอให้ทุกคนตรวจสอบให้แน่ใจว่า ได้วางยาจุดกันยุงในภาชนะที่ทนความร้อน และวางในตำแหน่งที่ปราศจากวัตถุไวไฟโดยรอบอย่างน้อย 1 เมตร และไม่ควรจุดทิ้งไว้โดยไม่มีคนดูแล เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินของทุกคนในครอบครัวค่ะ 5. เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานและมีฉลากกำกับ หลายคนอาจคิดว่า ยาจุดกันยุงยี่ห้อไหนก็เหมือนกัน ขอแค่ไล่ยุงได้ก็พอ แต่ความจริงแล้ว ยาจุดกันยุงที่ไม่ได้มาตรฐานอาจมีสารเคมีที่เป็นอันตราย หรือมีส่วนผสมที่ไม่ระบุชัดเจน ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อร่างกายของเราและคนที่อยู่ในบ้านได้ในระยะยาว ถ้าหากสูดดมเข้าไปบ่อยๆ อาจทำให้เกิดอาการแพ้ ระคายเคือง หรือแม้แต่ผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อยาจุดกันยุงทุกครั้ง ให้ลองสังเกตหาเครื่องหมาย อย. หรือเครื่องหมายรับรองมาตรฐานอื่นๆ บนฉลาก เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์นั้นผ่านการตรวจสอบและปลอดภัยตามเกณฑ์ที่กำหนด รวมถึงอ่านฉลากกำกับ ที่ระบุส่วนประกอบ วิธีใช้ คำเตือน และคำแนะนำต่างๆ ให้เข้าใจ เพื่อจะได้ใช้ยาจุดกันยุงได้อย่างถูกวิธีและปลอดภัยที่สุด การเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีมีมาตรฐานก็เหมือนกับการลงทุนเพื่อสุขอนามัยที่ดีของทุกคนในครอบครัวนั่นเองค่ะ 6. ใช้ภาชนะรองรับที่ปลอดภัยและมั่นคง รู้ไหมคะว่า เพื่อความปลอดภัยของทุกคนในครอบครัว สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงคือการใช้ภาชนะรองรับที่ปลอดภัยและมั่นคงค่ะ หลายคนอาจวางยาจุดกันยุงบนจานรองง่ายๆ หรือบนพื้นผิวที่ไม่มั่นคง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลย เพราะเมื่อยาจุดกันยุงถูกจุดไปเรื่อยๆ ขี้เถ้าที่ตกลงมาอาจมีความร้อนสูง และหากภาชนะที่รองรับไม่มั่นคงพอ อาจทำให้ยาจุดกันยุงล้มหรือกลิ้งไปโดนวัสดุไวไฟ เช่น พรม ผ้าม่าน หรือแม้กระทั่งเศษกระดาษ จนกลายเป็นสาเหตุของอัคคีภัยได้อย่างไม่คาดคิด ดังนั้นทุกครั้งที่จุดยาจุดกันยุง ควรเลือกใช้ภาชนะที่ทำจากวัสดุทนไฟ เช่น ถาดโลหะ จานกระเบื้อง หรือที่เขี่ยบุหรี่ และต้องมั่นใจว่าภาชนะนั้นมีฐานที่กว้างและมั่นคง ไม่โยกเยก หรือล้มง่ายๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ขึ้นในบ้านเราค่ะ 7. สังเกตอาการผิดปกติของผู้อยู่อาศัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับทางเดินหายใจ เพราะควันจากยาจุดกันยุงมีสารเคมีและอนุภาคเล็กๆ ที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองได้ หากพบว่ามีใครในบ้านเริ่มมีอาการ ไอ เจ็บคอ หายใจลำบาก คลื่นไส้ เวียนหัว มีผื่นขึ้น หรือแสบตา หลังจากจุดยาจุดกันยุง นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าร่างกายกำลังได้รับผลกระทบจากยาจุดกันยุงค่ะ หากเกิดอาการเหล่านี้ควรรี เปิดหน้าต่าง ประตู เพื่อระบายอากาศ ให้ห้องถ่ายเทได้ดีขึ้น และพาผู้ที่มีอาการออกจากบริเวณนั้นทันที ถ้าอาการไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูอาการอย่างละเอียด การใส่ใจและสังเกตอาการของคนในบ้านอยู่เสมอ จะช่วยให้เราใช้ยาจุดกันยุงได้อย่างปลอดภัย และลดความเสี่ยงต่อสุขอนามัยได้มากค่ะ 8. เก็บให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง หลายคนอาจวางยาจุดกันยุงไว้ในที่ที่หยิบง่าย หรือวางทิ้งไว้หลังใช้งานเสร็จ ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งนะคะ เพราะยาจุดกันยุงมีสารเคมีที่เป็นพิษ หากเด็กเล็กหยิบไปเล่นแล้วนำเข้าปาก หรือสัตว์เลี้ยงเลียกินเข้าไป อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ดังนั้นหลังจากใช้งานเสร็จทุกครั้ง ควรรีบเก็บยาจุดกันยุงและภาชนะที่ใช้แล้วในที่ที่ปลอดภัยและมิดชิด เช่น ในตู้ที่ล็อกได้ หรือบนชั้นสูงที่เด็กและสัตว์เลี้ยงเอื้อมไม่ถึง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และสร้างความปลอดภัยให้กับทุกคนในบ้านค่ะ ก็จบแล้วค่ะ เป็นยังไงบ้างค่ะ พอจะมองภาพออกกันแล้วใช่ไหม? ที่บางคนอาจคิดว่า การใช้ยาจุดกันยุงในบ้านจะเป็นเรื่องง่ายๆ แต่พออ่านๆ ดูแล้วก็รู้สึกว่า มีข้อควรระวังเต็มไปหมดเลยใช่ไหมค่ะ ทั้งเรื่องการจุดในห้องปิด การวางใกล้ของติดไฟ การเลือกซื้อ การใช้ภาชนะรองรับ การสังเกตอาการ ไปจนถึงการเก็บให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง ซึ่งถ้าจะให้พูดกันตามตรงเลยก็คือ เราควรระวังทุกเรื่องเลยค่ะ เพราะทุกข้อที่กล่าวมาล้วนเป็นปัจจัยที่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ตั้งแต่ผลกระทบต่อสุขอนามัยของเรา ไปจนถึงอุบัติเหตุร้ายแรงอย่างไฟไหม้เลยทีเดียว ยังไงนั้นการป้องกันไว้ดีกว่าการแก้ไขเสมอค่ะ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสุขอนามัยและความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินภายในบ้าน หากจะให้เลือกข้อที่สำคัญมากๆ และต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ผู้เขียนขอให้เน้นไปที่ 3 ประเด็นหลักๆ ค่ะ นั่นคือการไม่จุดในห้องปิดหรือห้องนอนขณะหลับ เพราะเราจะได้รับควันพิษโดยตรงเป็นเวลานาน ซึ่งส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจอย่างมาก และการวางให้ห่างจากวัตถุไวไฟ และใช้ภาชนะรองรับที่ปลอดภัยและมั่นคง เพราะนี่คือสาเหตุหลักที่อาจทำให้เกิดอัคคีภัยร้ายแรงได้ และสุดท้าย คือ การเก็บให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง เพื่อป้องกันการหยิบจับหรือกินเข้าไปโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ การใส่ใจในสามข้อนี้เป็นหลักก่อน จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มากเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามการระมัดระวังในทุกๆ เรื่องก็ยังคงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อความปลอดภัยอย่างแท้จริงของทุกคนในบ้านนะคะ เพราะแนวทางข้างต้นทุกข้อในบทความนี้ โดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนองก็ได้นำมาใช้ในชีวิตประจำวันค่ะ เนื่องจากที่นี่ยังใช้ยาจุดกันยุง เพื่อป้องกันยุงลายกัด ทั้งแบบขดและแบบที่เป็นธูป ดังนั้นก็จะใส่ใจในข้อควรระวังต่างๆ ด้วยเหมือนกันค่ะ ซึ่งที่ผ่านมาผู้เขียนไม่เคยจุดยากันยุงในห้องนอนและไปนอนหลับนะคะ ที่ทำประจำบ่อยๆ คือ จุดในที่ที่มีอากาศโล่ง โดยเฉพาะบริเวณที่มีพื้นที่กว้างๆ ที่สำคัญคือก็พากันสังเกตอาการแพ้ยากันยุงด้วย เพราะเราแต่ละคนตอบสนองต่างกัน และจะเก็บยากันยุงไว้ในที่สูงและเด็กเข้าถึงยากค่ะ โดยข้อควรระวังในนี้สำคัญมากๆ นะคะทุกคน ยังไงนั้นก็อย่าลืมนำไปปรับใช้กันค่ะ ด้วยความตั้งใจ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไป และถ้าต้องการอ่านบทความทั้งหมดโดยผู้เขียน ให้กดที่รูปโปรไฟล์ใต้ชื่อบทความนี้ได้เลยค่ะ เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปกและออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหา: ภาพที่ 1-3 โดยผู้เขียน และภาพที่ 4 โดย Daniel Thomas จาก Unsplash เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล 11 วิธีกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย แก้ปัญหามียุงเยอะและชุกชุม 7 วิธีเลือกยาจุดกันยุง ชนิดขด แบบไหนดี น่าใช้ 8 วิธีแก้ปัญหายุงเยอะและมากัด ในห้องนอนที่บ้าน แบบธรรมชาติ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !