กทม.เปิดมาตรการคุมเข้มสถานที่คลายล็อกเฟส3 ป้องกันโควิด-19
วันนี้ (31พ.ค.63) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 12/2563 โดยมีแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานต่างๆ ร่วมเป็นคณะกรรมการ โดยประเด็นการพิจารณาในที่ประชุมหลัก คือมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 3 ที่จะเริ่มมีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (1 มิ.ย. 2563) เป็นต้นไป
ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์ถึงผลการประชุมว่า หลังการผ่อนผัน กทม.จะมีการสุ่มตรวจ รวมไปถึงการรับแจ้งจากผู้รับบริการโดยเฉพาะจากการแจ้งมายังแอปพลิเคชั่น ไทยชนะ ซึ่งเบื้องต้นกทม. ขอให้ทุกสถานบริการให้ความร่วมมือ ส่วนหลังจากนี้ กทม.จะมีการปรับปรุงแอปพลิเคชั่นให้ผู้เข้าใช้บริการ สามารถเช็คเอาท์ได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ ยังเข้มงวดเรื่องมาตรการควบคุมสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะกิจกรรมที่ได้รับอนุญาตให้เปิดดำเนินการในระยะที่ 3 แยกเป็น 2 ส่วน ได้แก่
1.กิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต ได้แก่ ห้างสรรพสินค้า ที่มีการขยายระยะเวลา กทม.ได้ประสานผู้ประกอบการ ว่าจะต้องเป็นผู้จัดการควบคุมระยะเวลาทุกอย่างให้เรียบร้อยและให้พนักงานสามารถเดินทางกลับก่อนระยะเวลาเคอร์ฟิว ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ ต้องมีการจำกัดจำนวนผู้เข้า เว้นระยะห่างที่นั่ง ที่ยืน ไม่น้อยกว่า 1 เมตร สนามพระเครื่อง ศูนย์พระเครื่อง สามารถกลับมาเปิดได้ แต่ต้องควบคุมจำนวนผู้เข้าใช้บริการ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ก่อนวัยเรียน ยังไม่อนุญาตให้รับเลี้ยงแบบเช้าเย็นกลับ ในขณะนี้ยังไม่อนุญาต และสถานศึกษา สามารถเข้ามาเตรียมความพร้อมก่อนการเปิดการศึกษา ครูหรืออาจารย์ สามารถประชุมภายในได้
2. กิจกรรมด้านการออกกำลังกายดูแลสุขภาพหรือสันทนาการ ได้แก่ คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม สถานเสริมความงาม สถานที่สักหรือเจาะผิวหนังหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย จะผ่อนปรนให้สามารถย้อมผมได้ แต่การให้บริการต้องควบคุมระยะเวลาไม่ให้เกิน 2 ชม. สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สปา นวดแผนไทย และนวดฝ่าเท้า เปิดให้บริการแต่ห้ามนวดหน้า ผู้ใช้บริการจะต้องสวมหน้ากากอนามัย และส่วนสุดท้ายร้านเจาะและสักหรือร้านเสริมความงาม ต้องให้มีการสวมหน้ากากอนามัยและทำความสะอาดทุก 2 ชม. เช่นกัน
อย่างไรก็ตามกิจการในเฟสที่ 3 ที่สามารถกลับมาดำเนินการได้ จะต้องมีมาตรการควบคุมใน 3 ด้าน ได้แก่
1. มาตรการคัดกรองไข้ และอาการไอ หอบเหนื่อย จาม หรือเป็นหวัด สำหรับพนักงานบริการ และผู้ใช้บริการ และรายงานหน่วยงานรับผิดชอบ กรณีพบผู้ที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค ตามแนวทางที่กำหนด
2. ทุกกิจการและกิจกรรมจัดให้มีการลงทะเบียนก่อนเข้า – ออกสถานที่ และเพิ่มมาตรการใช้แพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” หรือใช้มาตรการควบคุมด้วยการบันทึกข้อมูล และรายงานทดแทน และ
3. ให้พิจารณาพัฒนานวัตกรรม เช่น การลงทะเบียนเข้า - ออกสถานที่ ระบบการเรียน การสอน การจองคิวแบบออนไลน์ เพื่อให้บริการรูปแบบใหม่ในระยะยาว นำไปสู่การป้องกันควบคุมโรคที่มีประสิทธิภาพ
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online