เร่งสรุปสำนวนฟ้อง ‘หมวย บุษราคัม’ หลอกหนุ่มออกรถ เชิดหนีนับ 10 คัน

เร่งสรุปสำนวนส่งอัยการฟ้อง ‘หมวย บุษราคัม’ หลอกหนุ่มออกรถ เชิดหนีนับ 10 คัน เหยื่อโผล่แจ้งความเพียบ ตร.คาดไม่เกิน 2 สัปดาห์สรุปสำนวนสั่งฟ้องได้

จากกรณี ‘น.ส.บุษราคัม’ เสาร์ทอง หรือ ‘หมวย’ หลอกหนุ่มในแอพพลิเคชั่นหาคู่หลายรายให้หลงรัก ก่อนใช้อุบายให้หนุ่มใช้ชื่อออกรถให้ และเชิดรถหน พบมีผู้เสียหายหลายราย ถูกหลอกออกรถ 12 คัน ต่อมา นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี ชาวอ.เมือง จ.ชลบุรี เข้าพบ พ.ต.ท.วุฒินันท์ นามแสง รอง.ผกก. หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.เสม็ด เพื่อสอบถามถึงคดี น.ส.หมวย

โดยนายเอ รู้จักน.ส.หมวยผ่านทางแอพฯหาคู่ แล้วเกิดพึงพอใจกัน จนนัดไปกินข้าว จากนั้น น.ส.หมวยอ้างว่าต้องการออกรถกระบะ แต่ตัวเองติดแบล็กลิสต์ อยากให้ใช้ชื่อนายเอเป็นผู้ออกรถ โดยน.ส.หมวยบอกว่าจะเป็นคนจ่ายเงินดาวน์และค่างวดรถเอง นายเอจึงหลงเชื่อให้เอกสารไปออกรถกระบะ ยี่ห้อฟอร์ด สีขาว ป้ายแดง ถึงวันนัดน.ส.หมวยไปรับรถเพียงผู้เดียว ตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา หลังจากนั้นไม่สามารถติดต่อได้อีก

นายเอ เปิดเผยว่า จากการสอบถามความคืบหน้าที่ สภ.เสม็ด ทราบว่าน.ส.หมวย ยังติดต่อกับตำรวจตลอด โดยมีผู้เสียหายมาแจ้งความดำเนินคดีมากกว่า 10 ราย และแจ้งความใน 4 โรงพักในจ.ชลบุรี ข้อหาฉ้อโกงประชาชนและนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จหรือพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

จึงอยากขอให้ตำรวจช่วยติดตามตัวน.ส.หมวย มาดำเนินคดีข้อหาหลอกลวง หรือจะมาเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองรถก็ได้ เพราะขณะนี้ต้องเป็นคนผ่อนค่างวดรถเดือนละ 10,500 บาท จำนวน 84 เดือน นานถึง 7 ปี ตามสัญญาที่น.ส.หมวยทำไว้กับไฟแนนซ์

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 26 ส.ค. พ.ต.ท.วุฒินันท์ นามแสง รองผู้กำกับสอบสวน สภ.เสม็ด เปิดเผยว่า คดีนี้มีผู้เสียหายมาแจ้งความเอาผิดไว้จำนวน 5 ราย ในเรื่องของคดีทางตำรวจอยู่ในระหว่างทำสำนวน เพื่อส่งให้อัยการเพื่อสั่งฟ้องน.ส.บุษราคัม โดยคาดว่าไม่เกินอีก 2 สัปดาห์ น่าจะทำสำนวนแล้วเสร็จ จนสามารถสั่งฟ้องได้ โดยที่ผ่านมาน.ส.บุษราคัม ก็ยังคงติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากขอสอบปากคำเพิ่มเติม ก็จะเข้ามาพบตำรวจ

เหตุการณ์ล่าสุดพบว่าเกิดขึ้นที่สภ.เมืองชลบุรี ทราบว่าผู้เสียหายนัดพบกับน.ส.บุษราคัมและทานข้าวด้วยกัน อย่างไรก็ตาม หากมีผู้เสียหายเพิ่มเติม ก็สามารถมาแจ้งความเพื่อดำเนินคดี ในโรงพักนั้นๆได้

อยากฝากเตือนหนุ่มๆ ที่นิยมเล่นแอพฯหาคู่ ควรที่จะดูให้ดี เพราะเมื่อหากมีผู้ใดนำเอกสารไปซื้อ-ผ่อน ส่งของที่มีมูลค่าแล้วเป็นภาระผูกพันกับเรา เราก็จะต้องูถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้เสียหายบางรายถูกไฟแนนซ์ฟ้องเรียกค่าเสียหาย โดยบางรายศาลพิจารณาลงโทษให้ผ่อนชำระใช้หนี้กับทางบริษัทรถยนต์ หรือไฟแนนซ์ นั้นๆ อีกด้วย