เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ 4 ครั้งใน 2 สัปดาห์ หวังข่มขู่จนสหรัฐฯ ยอมอ่อนข้อให้
---ยิงขีปนาวุธรับเช้าวันใหม่---
คณะเสนาธิการร่วมเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธไม่ทราบชื่อตกลงไปในทะเลตะวันออก หรือ ทะเลญี่ปุ่นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ขณะที่โฆษกหน่วยยามชายฝั่งของญี่ปุ่นให้ข้อมูลกับสำนักข่าว AFP ยืนยันว่า มีการยิงขีปนาวุธดังกล่าวเช่นกัน และอาจจะเป็นไปได้ว่าเป็นขีปนาวุธแบบทิ้งตัว
ขณะที่ The New York Times รายงานโดยอ้างข้อมูลจากกองทัพเกาหลีใต้ว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ 2 ลูก นอกชายฝั่งตะวันออกในวันนี้ (17 มกราคม) และกำลังอยู่ระหว่างวิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มเติม
การเปิดยิงทดสอบขีปนาวุธครั้งนี้ จะเป็นการยิงทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือครั้งที่ 4 ในปีนี้ และห่างจากการทดสอบขีปนาวุธครั้งที่ 3 เพียง 2 วัน โดยการยิงทดสอบขีปนาวุธครั้งที่ 3 มีขึ้นเมื่อวันศุกร์ (14 มกราคม) ที่ผ่านมา
---เกาหลีเหนือตอบโต้สหรัฐฯ---
สำนักข่าว KCNA สื่อทางการเกาหลีเหนือ เผยภาพการยิงทดสอบขีปนาวุธจากฐานยิงในจังหวัดพยองกันเหนือของเกาหลีเหนือ ระบุว่า เป็นขีปนาวุธชนิดยิงจากรางรถไฟ จุดประสงค์เพื่อทดสอบประสิทธิภาพขณะใช้งานเป็นครั้งที่ 2 หลังจากเคยทดสอบขีปนาวุธชนิดนี้เป็นครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดว่า ได้ยิงขีปนาวุธไปทั้งหมดกี่ลูก และเป็นขีปนาวุธชนิดใด
การยิงทดสอบขีปนาวุธครั้งที่ 3 มีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเกาหลีเหนือเพิ่งออกแถลงการณ์ประณามมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่จากสหรัฐฯ และประกาศจะตอบโต้อย่างรุนแรง
มาตรการคว่ำบาตรครั้งล่าสุด นับเป็นแรกของรัฐบาลสหรัฐฯ ในยุคประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่พุ่งเป้าเล่นงานชาวเกาหลีเหนือ 6 คน ชาวรัสเซีย 1 คนและบริษัทรัสเซียแห่งหนึ่ง ที่สหรัฐฯ ชี้ว่าอยู่เบื้องหลังการจัดหาสินค้าต่าง ๆ จากรัสเซียและจีน สำหรับโครงการอาวุธของเกาหลีเหนือ หลังจากที่เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว
เกาหลีเหนือเรียกการคว่ำบาตรครั้งใหม่จากสหรัฐฯ ว่าเป็น “การยั่วยุ” และเป็นการใช้แนวทางการเผชิญหน้า ขณะที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีเหนือ กล่าวกับ KCNA ว่า เกาหลีเหนือมี “สิทธิ์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย” ในการป้องกันตัวเอง
---ไม่ถึง 2 สัปดาห์ ยิงขีปนาวุธไปแล้ว 4 ครั้ง---
สถานการณ์เกาหลีเหนือเริ่มร้อนระอุตั้งแต่เริ่มต้นปีใหม่ หลังจากเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธประเดิมปีใหม่ครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา, ครั้งที่ 2 ในวันที่ 11 มกราคม และครั้งที่ 3 ในวันที่ 14 มกราคม รวม 3 ครั้งในระยะเวลาเพียง 10 วันเท่านั้น
ขณะที่ สำนักข่าว Reuters ระบุว่า เป็นการยิงขีปนาวุธติด ๆ กันอย่างผิดสังเกตไปจากปกติ
ทั้งนี้ ถ้ารวมครั้งล่าสุดในวันนี้ ภายในระยะเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ เกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธไปแล้ว 4 ครั้ง
เกาหลีเหนืออ้างว่า ขีปนาวุธที่ยิงทดสอบครั้งแรกและครั้งที่ 2 เป็นขีนาวุธล้ำสมัยไฮเปอร์โซนิก หรือ ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง ขั้นตอนสุดท้ายประสบความสำเร็จด้วยดี สามารถโจมตีเป้าหมายที่อยู่ห่างออกไปในทะเลได้ 1,000 กิโลเมตร พร้อมกับเผยภาพของ “คิม จอง อึน” ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ที่เข้าร่วมชมการยิงทดสอบอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปีด้วย
อย่างไรก็ตาม นานาชาติยังไม่ปักใจเชื่อว่า เกาหลีเหนือสามารถพัฒนาขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงได้แล้ว
---ทิศทางของ “คิม จองอึน”---
สำนักข่าว The Korea Herald ของเกาหลีใต้ ระบุว่า ตั้งข้อสังเกตว่า เกาหลีเหนือแสดงแสนยานุภาพอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่กระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีเหนือ ปฏิเสธการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (14 มกราคม) และเตือนว่า เกาหลีเหนือจำเป็นต้องแสดงปฏิกิริยาที่รุนแรงและชัดเจนหากสหรัฐฯ แสดงท่าทีเผชิญหน้าเช่นนี้ในทุกกรณี
และการยิงทดสอบขีปนาวุธหลายครั้งยังมีขึ้นหลังจากเกาหลีเหนือ ประกาศทิศทางนโยบายของประเทศในวันปีใหม่ ที่ คิม จองอึน ผู้นำสูงสุด ได้เรียกร้องให้ประเทศสนับสนุนขีดความสามารถด้านการป้องกันประเทศต่อไป “โดยไม่ชักช้า” อ้างสภาพแวดล้อมด้านความปลอดภัยที่ผันผวนบนคาบสมุทรเกาหลีเป็นเหตุผลหลัก
---เปิดโต๊ะเจรจาไม่เป็นผล---
เกาหลีเหนือเปิดตัวขีปนาวุธข้ามทวีป 3 ลูกในปี 2017 โดยอ้างว่าสามารถยิงได้ไกลถึงสหรัฐฯ จากนั้นคิม จองอึน ได้เจรจากับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่การประชุมสามครั้งของพวกเขาสิ้นสุดลงในปี 2019 โดยไม่มีข้อตกลงว่า จะยกเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนืออย่างไร หรือเมื่อใดที่จะยกเลิกการคว่ำบาตร
ตั้งแต่นั้นมา เกาหลีเหนือได้กลับมาทดสอบขีปนาวุธอีกครั้ง โดยส่วนใหญ่เป็นขีปนาวุธพิสัยใกล้ และคิมเตือนว่า เขาไม่รู้สึกผูกมัดกับการหยุดทดสอบนิวเคลียร์และขีปนาวุธพิสัยไกลเป็นการชั่วคราวอีกต่อไป
การทดสอบขีปนาวุธต้นปีนี้ เป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงคำประกาศช่วงปีใหม่ของนายคิม จองอึน ที่จะขยายแสนยานุภาพทางทหารด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ในช่วงเวลาที่การเจรจาระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ประสบภาวะหยุดชะงัก
ก่อนหน้านี้ แม้ว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ แสดงท่าทีว่า ต้องการกลับเจรจากับเกาหลีเหนืออีกครั้ง แต่เกาหลีเหนือต้องการให้สหรัฐฯ และพันธมิตรหยุด “นโยบายที่เป็นศัตรู” เช่น การคว่ำบาตร หรือ การซ้อมรบร่วมทางการทหารเสียก่อน
—————
แปล-เรียบเรียง: สุภาพร เอ็ลเดรจ
ภาพ: Reuters