การเขียนเกริ่นนำ เป็นการเปิดเรื่องเพื่อทำให้ผู้อ่านได้ทราบความเป็นมาของบทความนั้นว่า เป็นอย่างไรโดยวัตถุประสงค์ของการเขียนเกริ่นนำนั้น จะต้องสื่อให้ผู้อ่านทราบว่า บทความนั้นมีจุดมุ่งหมายอย่างไร และสามารถจูงใจผู้อ่านได้ด้วย หากเปรียบเทียบการเขียนเกริ่นนำในบทความ ก็คงคล้ายกับการเปิดประตูบ้าน หรือประตูที่พัก เพื่อเชิญชวนให้ผู้สนใจเข้าสู่บ้านหรือที่พักนั้นเครดิตภาพ จาก pixabayการเขียนเกริ่นนำ ที่สร้างความน่าสนใจให้กับผู้อ่านนั้น มีหลายเทคนิคการเขียนด้วยกัน โดยสามารถจัดประเภทของการเขียนเกริ่นนำ ได้ 3 วิธี คือ การใช้คำคม การนิยามความหมาย และการเล่าเรื่องที่มาที่ไปหรือการอ้างอิงเหตุการณ์ประกอบการเขียนเกริ่นนำการเขียนเกริ่นนำโดยใช้คำคม การใช้คำคมเพื่อเปิดเรื่อง จะทำให้ผู้อ่านรู้สึกสนใจข้อความสั้น ๆ แต่มีพลัง จนสามารถสะกดให้ผู้อ่านเข้าไปอ่านเนื้อหาของบทความที่นำเสนอ ด้วยอิทธิพลของคำคมที่เป็นสิ่งดึงดูดความสนใจของผู้อ่านที่คาดหวังว่า จะได้รับอะไรดี ๆ จากเนื้อหาในบทความ ก็เป็นเทคนิคการเขียนเกริ่นนำที่นิยมใช้กันตัวอย่างการเขียนเกริ่นนำโดยใช้คำคม “ถ้าเราเชื่อในกฎของความเปลี่ยนแปลง เราก็จะพบความจริงที่ว่า ทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงตนเองและพัฒนาตนเองไปสู่ความฝันที่ตั้งใจได้ และไม่มีความฝันอะไร ที่ใครบางคนจะทำไม่ได้ ถ้าเขาต่อสู้อยู่กับมัน”เครดิตภาพ จาก pixabayการเขียนเกริ่นนำโดยใช้การนิยามความหมาย การนิยามความหมาย เป็นการอธิบายขอบเขตของความรู้ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นหรือหัวข้องของเรื่องราวในบทความ เพื่อทำให้ผู้อ่านทราบว่า บทความนั้น มีขอบเขตเกี่ยวกับอะไร มีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร มีความเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เขาควรอ่านหรือไม่ ซึ่งการนิยามความหมายของคำศัพท์ หรือประเด็นที่จะเขียน เป็นการกำหนดขอบเขตของเนื้อหาในบทความให้กับนักเขียนด้วยตัวอย่างการเขียนเกริ่นนำโดยการนิยามความหมาย “ร้านยกยอปลาเผา เป็นร้านอาหารอีสาน ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักของนักท่องเที่ยว หรือเหล่าผู้สรรหาร้านอาหารมารีวิว ในอำเภอหาดใหญ่ สงขลา โดยร้านนี้อยู่ริมเมืองหาดใหญ่ บนทางหลวงหมายเลข 403 ภายในปั้มน้ำมัน ติดกับคลองอู่ตะเภา แม่น้ำสายหลักที่หล่อเลี้ยงเมืองหาดใหญ่ ให้บรรยากาศธรรมชาติ กับเมนูอาหารอีสานหลากชนิด พร้อมอาหารจานเดียว มีรสชาติชวนหลงใหล ในราคาที่เหมาะสมกับความอร่อยจริง ๆ”การเขียนเกริ่นนำโดยใช้การเล่าเรื่องประกอบ การเล่าเรื่องประกอบในการเขียนเกริ่นนำ เป็นวิธีการจูงใจผู้อ่าน ให้เข้าสู่การอ่านเนื้อหาได้มีประสิทธิภาพวิธีหนึ่ง เพราะการเล่าเรื่องจากเหตุการณ์ ประสบการณ์ หรือสถานการณ์ที่เป็นจริงในปัจจุบัน เป็นการบอกเล่าที่มาที่ไปของบทความนั้น ว่า เป็นมาอย่างไร และสามารถเชื่อมโยงเรื่องเล่าในเกริ่นนำนั้น เพื่อเชื่อมโยงไปสู่เนื้อหาที่จะเขียนได้ง่ายขึ้น เพราะเรื่องที่จะนำมาเกริ่นนำ จะต้องมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับเนื้อหาแน่นอน และวิธีการเขียนเกริ่นนำแบบนี้ ก็เป็นวิธีการเขียนที่ง่ายต่อนักเขียนทุกคนตัวอย่างการเขียนเกริ่นนำแบบเล่าเรื่องประกอบ "สงขลา เป็นเมืองพิเศษด้านอาหารการกิน เพราะมีแหล่งทรัพยากรธรรมชาติมากมายทั้งทางทะเล และภาคพื้นการเกษตรทั่วไป ในส่วนของอาหารทะเลนั้น สงขลาก็มีแหล่งผลิตอาหารและแหล่งท่องเที่ยวทะเลที่บริการอาหารการกินมากมาย โดยเฉพาะในตัวอำเภอเมืองสงขลา จะมีร้านอาหารและแหล่งท่องเที่ยวให้แวะลิ้มลองกันมากมาย ในส่วนของเกาะยอ อำเภอเมือง สงขลา เป็นพื้นที่เชื่อมต่อระหว่างอำเภอเมือง กับ อำเภอสิงหนคร โดยมีสะพานเปรมติณสูลานนท์ ทอดยาวให้สองอำเภอได้ไปมาหากัน โดยมีเกาะยออยู่ตรงกลาง และร้านอาหารมากมายในเกาะยอ ก็มีให้เลือกตามใจ ซึ่งหนึ่งในร้านอาหารที่ผู้เขียนแนะนำ คือ ร้านมหัศจรรย์ เกาะยอ ซึ่งตั้งอยู่ในทะเลสาบสงขลา อยู่ในลักษณะแพลอยอยู่ในทะเล บรรยากาศดี วิวทะเลสวยไม่มีคลื่น มีอาหารทะเลเมนูพื้นบ้านรสเด็ด เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของสงขลา"ภาพครอบครัวผู้เขียน ณ ร้านอาหารกลางทะเล ที่ได้มาเป็นเรื่องเล่าในการเขียนเกริ่นนำบทความรีวิวร้านอาหาร ถ่ายภาพโดยเพื่อนของผู้เขียนการเขียนเกริ่นนำ เป็นประตูบานแรกที่เปิดไปสู่ผู้อ่าน จึงความสำคัญต่อการจูงใจให้ผู้อ่านสนใจ ดังนั้นนักเขียนจะต้องมีวิธีการเขียนเกริ่นนำที่มีสไตล์เป็นของตนเอง ซึ่งสามารถเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ได้ ในส่วนตัวของผู้เขียนเอง ก็พยายามพัฒนาความสามารถในการเขียนให้ดีขึ้น จึงขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนในการเขียนบทความที่ต้องใช้ความคิดในการเล่าเรื่องกันนะครับ... โปรดติดตามอ่านบทความต่อไปด้วยนะครับ.. การเขียนบทความเพื่อเผยแพร่สไตล์อาจารย์เปี๊ยก ตอนที่ 3 (การเขียนเนื้อหา) https://creators.trueid.net/node/96053/edit ขอบคุณครับเครดิตภาพปก จาก pixabay