จุดบกพร่อง! ที่ระวัง COVID-19 จนเกินไป แต่ทำไมยังอาจเสี่ยงติดโรค?! การป้องกันโรคติดต่อโดยทั่วไปที่เราคุ้นเคยกันดีของโรคที่ติดต่อกันในระบบทางเดินหายใจ มักมีข้อปฏิบัติพื้นฐานให้เริ่มจากการแยกของใช้ส่วนตัว ไอจามให้ปิดปากปิดจมูกเพื่อป้องกันสารคัดหลั่งต่าง ๆ แพร่กระจายไปยังผู้ที่ใกล้ชิด แต่เมื่อเกิดโรคระบาด COVID-19 ขึ้นเกือบทุกประเทศทั่วโลก ระดับของการป้องกันตัวจากการติดเชื้อจึงเพิ่มมากขึ้นตามระดับความรุนแรงของอัตราการติดต่อที่เกิดขึ้นได้ง่ายจนน่าตกใจ แม้หลาย ๆ คนพอทราบแนวปฏิบัติให้ห่างไกลจากโรคติดต่อ แต่ด้วยความเคยชินหรือเพราะขาดความรู้ในบางจุด แม้ระมัดระวังเป็นอย่างดีแต่กลับมีความเสี่ยงที่จะนำพาเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายได้โดยไม่รู้ตัว จุดบกพร่องในการระวัง COVID-19 ที่คนมักปฏิบัติกันโดยไม่รู้ตัวมีอะไรบ้าง ตามมาดูกัน 1. ระแวงคนนอก แต่ลืมระวังคนใกล้ตัว การกระทำเช่นนี้ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดไปซะทีเดียวและค่อนข้างจะมีเหตุผลพอสำหรับการคิดและทำเช่นนี้ การระมัดระวังบุคคลภายนอกที่เราไม่อาจทราบได้ว่าไปทำอะไรที่ไหนอย่างไรมา มีความเสี่ยงที่จะแพร่เชื้อมาสู่ร่างกายเราหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับทุกคน แต่สำหรับบุคคลใกล้ชิดอย่างเช่น ครอบครัว เพื่อนฝูง หลาย ๆ คนยังคงปฏิบัติตัวเช่นเดิมตามลักษณะความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น เช่น การรับประทานอาหารร่วมช้อน การหยิบยืมของใช้ส่วนตัวกันไปมา ซึ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 อาจก่อให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อในลักษณะกลุ่มบุคคลใกล้ชิดได้ แม้คนในครอบครัวจะไม่มีประวัติเรื่องความเสี่ยง แต่การเฝ้าระวังอย่างเหมาะสมเป็นเรื่องที่ควรกระทำ ทั้งยังได้ฝึกเรื่องสุขอนามัยพื้นฐาน ป้องกันโรคติดต่ออื่น ๆ ได้อีกเช่นกัน ขอบคุณภาพ : cheng feng on Unsplash เข้าถึงจาก https://unsplash.com/photos/HmL5JPc3wzU 2. กักตัว 14 วันสังเกตอาการ แต่ออกไปข้างนอกไม่ไกลเท่าไหร่ก็ถือว่ายังกักตัวอยู่ ความคิดเช่นนี้ถือว่านำความเสี่ยงมาสู่สุขภาพอย่างแท้จริง โดยเฉพาะหากคุณเป็นผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง การกักตัวอย่างน้อย 14 วันเป็นอย่างต่ำเพื่อสังเกตอาการก่อนที่จะไปพบแพทย์เพื่อตรวจยืนยันอีกครั้ง หลายคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงยังคงออกไปในสถานที่ใกล้ ๆ โดยมีความเข้าใจว่าไม่ผิดข้อปฏิบัติ เช่น ออกไปจ้อกกิ้งในหมู่บ้าน เดินไปซื้ออาหารที่หน้าปากซอย นัดเพื่อนหรือคนใกล้ชิดมาหาหรือมาเยี่ยมเยียน การปฏิบัติเช่นนี้ในช่วงเฝ้าระวังโรคจึงอาจนำความเสี่ยงเรื่องของการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสไปสู่บุคคลอื่นโดยที่เราไม่รู้ตัว ทางที่ดีแม้ว่าเราจะมั่นใจว่าไม่ติดโรคแน่นอน แต่หากเป็นผู้ที่เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยง เช่น ติดต่อทำงานกับชาวต่างชาติหรือผู้ที่เดินทางเป็นประจำ เดินทางไปต่างประเทศใกล้ชิดกับสนามบินหรือไปในประเทศเสี่ยง ซึ่งล้วนแต่เป็นกลุ่มเสี่ยงสูงที่จะติดโรคระบาด ฉะนั้น การเฝ้าระวังสังเกตอาการควรจะเป็นไปอย่างเคร่งครัดแม้ไม่มีอาการของโรคแสดงออก ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อคนรอบข้างที่จะเกิดขึ้นนั่นเอง ขอบคุณภาพ : Shane on Unsplash เข้าถึงจาก https://unsplash.com/photos/OAWBDIvXKKg 3. ล้างมือสะอาดครบจบขั้นตอนด้วยสบู่ แต่ไม่เช็ดให้แห้ง แม้ว่าคุณจะล้างมือให้สะอาดทุกซอกทุกมุมแค่ไหนแต่กลับยังละเลยการเช็ดมือให้แห้งด้วยกระดาษชำระหรือผ้าที่สะอาด หรือเลือกที่จะสะบัดน้ำออกพอเป็นพิธี นั่นกลับยิ่งเป็นการเพิ่มโอกาสให้เชื้อแบคทีเรียและไวรัสเกาะติดและเจริญเติบโตได้บนมือของเรา เมื่อมั่นใจว่าล้างมือสะอาดเป็นที่เรียบร้อย ควรซับมือให้แห้งด้วยทิชชู จากนั้นทิ้งให้เป็นที่เป็นทาง หากสถานการณ์จำเป็นมีเหตุให้ต้องใช้ห้องน้ำสาธารณะ หลังล้างมือจนสะอาดเรียบร้อย ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องเป่ามือเพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อโรคในอากาศ พกกระดาษหรือทิชชูส่วนตัวของเราในการทำความสะอาดมือ เพื่อลดความเสี่ยงในการปนเปื้อนเชื้อผ่านการสัมผัสให้มากที่สุด ขอบคุณภาพจาก : 莎莉 彭 on Unsplash เข้าถึงจาก https://unsplash.com/photos/CJPAJ-YaaHI 4. สวมหน้ากากอนามัย แต่สลับใส่ถอดตลอดทั้งวัน หากคิดจะสวมใส่หน้ากากอนามัยเป็นเครื่องป้องกัน ให้พึงตระหนักไว้เสมอว่าต้องมีความอดทนเป็นอย่างสูง หน้ากากอนามัยไม่ว่าจะชนิดใดก็ตาม เมื่อสวมใส่ย่อมทำให้ผู้สวมรู้สึกหายใจลำบาก ร้อน อึดอัด ทำให้บางครั้งต้องถอดออกมาเพื่อสูดอากาศตามปรกติ แต่หน้ากากอนามัยนั้นแม้เป็นเครื่องป้องกันแต่กลับปนเปื้อนสิ่งสกปรกได้ง่าย การสลับใส่ถอดตามความสะดวกเข้าว่าจะเป็นการเพิ่มโอกาสติดเชื้อเข้าสู่ร่างกายโดยไม่ทันรู้ตัว ทางที่ดีหากเราเป็นผู้ที่ไม่มีประวัติเสี่ยงหรือไม่ได้กำลังเป็นหวัด มีอาการไอหรือจามก็ไม่จำเป็นที่จะต้องสวมหน้ากากอนามัย เพียงงดเว้นจากการไปในที่สาธารณะ เลือกที่จะอยู่บ้านก็สามารถลดความเสี่ยงการติดเชื้อ ดีกว่าสวมหน้ากากอนามัยออกไปข้างนอกแล้วใช้ไม่ถูกวิธี เป็นอันตรายต่อสุขภาพอีกทางหนึ่งเช่นกัน จุดบกพร่องดังกล่าวที่มาจากวิธีดูแลรักษาตัวเองในสถานการณ์ระบาดของโรค COVID-19 นี้เป็นสิ่งที่เราควรศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมอยู่เสมอเพื่อสร้างความเข้าใจไปในแนวทางที่ถูกต้อง การดูแลรักษาตัวเพื่อหลีกเลี่ยงและลดความเสี่ยงในการติดเชื้อเป็นสิ่งสำคัญ ที่สำคัญเหนือไปกว่านั้นคือการยึดแนวปฏิบัติที่ถูกต้องและเหมาะสมในการดูแลสุขภาพ ข่าวและข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตนั้นมีให้เสพอย่างฉับไวและทันการ ผู้เสพควรเลือกช่องทางการติดตามอย่างมีวิจารณญาณและรอบคอบ ยกตัวอย่าง การฟังข่าวและสอบถามจากหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรง เช่น กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อการปฏิบัติตนที่ถูกต้องและดำเนินชีวิตได้อย่างปลอดภัยทั้งกับตัวคุณเองและบุคคลรอบข้าง ภาพปก : Sharon McCutcheon on Unsplash เข้าถึงจาก https://unsplash.com/photos/dW6FP74AhIU