สวัสดีผู้อ่านทุกท่านจ้า เนื่องด้วยผู้เขียนไปพักผ่อนที่ต่างจังหวัดแล้วก็ผู้เขียนเองก็นำหนังสือมาอ่านด้วย เป็นหนังสือที่ผู้เขียนเล็งว่าจะอ่านเพราะน่าสนใจที่จะอ่านดู แถมเนื้อหาคร่าวๆ ดูเป็นประโยชน์มาก โดยหนังสือที่ผู้เขียนจะมารีวิว นั่นคือ “พลังของคนที่กล้าทำอะไรคนเดียว”หนังสือชื่อว่า “พลังของคนที่กล้าทำอะไรคนเดียว” เป็นหนังสือจากผู้ที่เขียนหนังสือที่เคยเขียนหนังสือสุดยอดนิยมที่ชื่อว่า “เลิกเป็นคนดีแล้วจะมีความสุข” ผู้เขียนเองก็ยังไม่ได้อ่านหนังสือ “เลิกเป็นคนดีแล้วจะมีความสุข” เลย ไว้มีโอกาสจะซื้อมารีวิวให้ฟังจ้าผู้อ่านกำลังอยากทำอะไรได้ตัวคนเดียวหรือเปล่า ผู้เขียนก็คือหนึ่งในคนที่ทำอะไรคนเดียว โดยเนื้อหาก็น่าสนใจมากและมันใช้ได้จริงสำหรับคนที่อยากมีพลังทำอะไรคนเดียว เนื้อหาในเล่มไม่ใช่ให้ทุกๆ คนต้องไปแบบฉายเดี่ยวนะ แต่ว่าเอาไว้เป็นแนวทางในการค้นหาตัวเอง ได้อยู่กับตัวเอง พัฒนาตัวเอง ผู้เขียนจะมาสรุปในมุมของผู้เขียนว่าหลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้จบ จะมีทั้งเอามาจากหนังสือบ้าง จากมุมมองผู้เขียนบ้าง จะได้อะไรกลับมาบ้าง เอาคร่าวๆ นะ ถ้าพร้อมแล้ว ลุยกันเลยจ้าเป็นตัวเองดีที่สุด เป็นประโยคคำพูดที่ผู้อ่านคงได้ยินมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งว่าการที่เป็นตัวของตัวเองเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ด้วยทุกวันนี้สังคมเรามีคนมากมายรอบตัวหรือไกลตัวเราที่มีเส้นทางที่ดูสวยหรูและดูมีอนาคต และทางบ้านหรือคนใกล้ตัวก็อยากให้เราอยากเป็นคนนั้นคนนี้เพื่อให้เป็นเจ้าคนนายคน หรือ ทำคอนเท้นต์ผลงานลงโซเชียลแล้วบอกทำแบบคนนั้นสิ คนนี้สิ รุ่งแน่นอน หรือลองแก้ตรงนี้นะ ดีแน่นอน การรับฟังคนอื่นเป็นสิ่งที่ดีก็จริงแต่อย่ามากจนเกินไปจนสูญเสียเสน่ห์ความเป็นตัวเองไม่ต้องทำตามใครไปซะทั้งหมด จนทำให้รู้สึกกดดัน คนใกล้ตัวมีสามีภรรยาแต่งงานกัน ได้ออกรถคันใหม่ ได้ทำอาชีพที่มั่นคง เงินดี สิ่งเหล่านี้เราไม่จำเป็นต้องไปทำตามใครเลย เราจะแต่งงานตอนไหน จะรวยตอนไหน ก็ไม่จำเป็นต้องรีบทำเลย ปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคตดีกว่า ไม่ต้องรีบร้อน ไม่งั้นจะเสียความเป็นตัวเอง เหมือนมีเทรนด์ใหม่ที่ใครไม่ทำก็ถือว่าตามไม่ทันเทรนด์ ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องตามไปหมดทุกอย่างก็ได้การหลุดกรอบจากสิ่งเดิมที่ทำซ้ำๆ ออกจากบ้านไปที่แปลกๆ บ้าง สถานที่ที่อยากไปตั้งแต่เด็กแต่ยังไม่มีโอกาสไป ก็ลองไปดู ผู้เขียนเองก็ได้ประสบการณ์ ความรู้มาเยอะเวลาไปสถานที่ที่ไม่คุ้นเลย ได้รู้ว่าไปยังไง นั่งรถอะไร สถานที่นั้นมีอะไร เผื่อวันนึงจะชวนเพื่อหรือพ่อแม่ไปบ้าง หรือการลาออกจากงานด้วยเหตุผลที่ว่าไม่ใช่สิ่งที่อยากทำจริงๆ ทำแล้วรู้สึกไม่ใช่ทางแม้จะเป็นสถานที่ที่ดีแต่อยู่แล้วไม่ได้ทำให้ตัวเองดีขึ้นๆ แล้วหางานใหม่ที่ตรงใจหรือทำตามความฝัน ก็จะช่วยได้มากขึ้นจากการหลุดกรอบเดิม หรือสังคมเดิมๆ ที่อยู่เหมือนแต่ตามเพื่อนหรือคนอื่นๆ ไปวันๆ จนค้นหาตัวเองไม่เจอ ก็ออกมาเจอสังคมใหม่ เช่น งานศิลปะ งานเกม งานคอสเพลย์ เราอาจจะได้เจอสังคมใหม่ที่สดชื่นและดีกว่าเดิมก็ได้การทำตามใจตัวเองดีกว่าการฝืนตัวเองให้ทำอะไรที่ใจไม่อยากทำจริงๆ บางทีเราอาจจะมีช่วงเวลาที่ไม่คิดอะไรมาก ยังไงก็ได้ แต่ว่ามันก็ไม่ใช่ทุกอย่างที่เราจะบอกว่ายังไงก็ได้ บางอย่างเราก็มีคำตอบในใจอยู่แล้ว แต่ว่าบางทีต้องฝืนด้วยเพราะเหตุผลบางอย่าง แต่ว่าการไม่โกหกตัวเองและทำตามที่ใจต้องการ คือ สิ่งที่ดีที่สุด ฝืนตัวเองบางทีก็กดดันและอาจไม่มีความสุข รู้สึกเบื่อได้จัดสรรสิ่งที่จำเป็นและไม่จำเป็น ทุกคนมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน และการจัดสรรว่าทำอะไรกี่ชั่วโมง กี่นาทีดีก็สำคัญมาก ถ้าเราอยากพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นก็ให้จัดเวลาว่าเราจะใช้เวลาพัฒนาตัวเองเท่าไหร่ เล่นโซเชียล งานอดิเรกควรทำกี่นาทีดี เพื่อให้เราได้มีวินัยในการรับผิดชอบมากขึ้นพูดตรงๆ จากใจจริง ในระหว่างที่อยากทำอะไรคนเดียว อยากใช้เวลาอยู่กับตัวเองเยอะๆ แต่ก็มีคนชวนให้ไปทำอะไรต่างๆ นาๆ ถ้าเราไม่สะดวกจริงก็ให้บอกไปตรงๆ ได้เลย พร้อมเหตุผลด้วยจะดีมาก ผู้เขียนนึกถึงกรณีนึงที่พี่โต้ง Illslick เคยเล่าให้น้าเน็กผ่านรายการ Nake And The City ว่า มีคนให้ไปเล่นคอนเสิร์ตแต่พี่โต้ง Illslick ตอนนั้นกำลังทำเพลงอยู่และอยากจะทุ่มเทกับเพลง และปฏิเสธงานที่มีคนชวนให้ไปเล่นคอนเสิร์ต และบอกเหตุผลไปตรงๆ ว่าทำไม แต่ว่าผู้เขียนเองไม่ใช่จะแบบปฏิเสธไปทั้งหมด ก็จะมีไปตามคำชวนบ้าง หรือบางทีก็บอกตรงๆ ว่าขอเวลาถึงเท่านี้นะและเราก็ไปใช้เวลากับตัวเองต่อไปทำอะไรคนเดียว จะมีคนมาช่วยเราเสมอ อย่างเช่นบทความนี้ ผู้เขียนก็ทำคนเดียว ซึ่งบทความบางเรื่อง ผู้เขียนก็มีเพื่อนอาสาไปช่วยด้วยบ้าง แม้ส่วนใหญ่ผู้เขียนจะเป็นเขียนบทความ ดูแลคนเดียว แต่การทำอะไรคนเดียว จะมีสิ่งดีๆ ตามมาเสมอ อย่างแน่นอน ดีน้อย ดีมาก อย่างน้อยมันก็คือเรื่องดีชีวิตของเรา เราตัดสินใจเองทั้งหมด เราสามารถเลือกเส้นทาง มีตัวเลือกที่มีตัวเราเลือกได้ ยกตัวอย่าง เช่น เลือกเสื้อผ้าที่จะสวมใส่ หรือ พ่อแม่ชวนไปตลาด เราสามารถเลือกว่าจะไป หรือ ไม่ไป ก็ได้เหมือนกัน ถ้าเราไป เราก็ไปกินขนม อร่อยๆ ซื้อของติดตัว เลือกได้ว่าเราต้องการอะไร แต่ถ้าเราไม่ไปก็จะเหมือนสุ่มกาชา แบบว่าพ่อแม่อาจซื้อของมาฝากเรา อาจเป็นของที่ชอบไม่ชอบ อันนี้แล้วแต่ดวง หรือ อาจจะไม่ได้ซื้ออะไรกลับมาฝากเลยก็ได้ เส้นทางของเราก็มีสิทธิ์เลือกว่าเราจะเดินทางซ้ายหรือขวา แต่ละทางย่อมแตกต่างกัน แล้วแต่จะเลือกเลยจ้าคนเดียวก็เฟี้ยวได้ การอยู่คนเดียวเรามักจะคุ้นเคยว่าเป็นสิ่งที่น่ากลัว เวลาที่เราไม่มีเพื่อน หรือเพื่อนน้อย ไม่ได้แปลว่า ชีวิตจะมืดมนเลย เพราะ การอยู่คนเดียว ทำอะไรคนเดียว มีข้อดีหลายต่อหลายอย่างเลย เราสามารถมีอิสระได้เสมอ ต่างกับการไปกับเพื่อนหรือใครที่อาจจะมีข้อจำกัดและการตกลงกันและกัน แต่ไม่ใช่ว่าการมีเพื่อนไปไหนมาไหนเป็นสิ่งที่มีข้อเสีย เพราะ เพื่อนสามารถช่วยเราได้ในยามฉุกเฉิน เดือดร้อน อุ่นใจเสมอ เราทำอะไรคนเดียว ยังไงก็มีเพื่อนอาสาช่วยจ้าผู้เขียนเจอหนังสือนี้ครั้งแรกก็ที่ร้านหนังสือ และเพิ่งรู้ว่าเป็นคนทำเดียวกับหนังสือเล่มที่ชื่อว่า “เลิกเป็นคนดีแล้วจะมีความสุข” ซึ่งช่วงนั้นผู้เขียนก็ไม่ได้ซื้อเพราะช่วงนั้นกำลังทรัพย์ยังไม่เอื้ออำนวย จนมีโอกาสมีเงินพอซื้อก็จัดมาเลย ซึ่งผู้เขียนซื้อช่วงลดราคาพอดี หนังสือเล่มนี้ เหมาะสำหรับคนที่อยากจะพัฒนาตัวเองเป็นอย่างยิ่ง สำหรับอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่ก็ต้องใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยเน้อ เนื้อหาในหนังสือลึกมากๆ และผู้เขียนใช้เวลาเป็นวันๆ กว่าจะอ่านจบ อ่านบทไหน อ่านส่วนไหนเสร็จก็พักและพร้อมเมื่อไหร่ก็อ่านต่อ ไม่รีบอ่านจนเกินไป โดยรวมผู้เขียนรู้สึกว่าคุ้มค่าที่ได้อ่าน และหลายอย่างมีประโยชน์มาก สิ่งที่ผู้เขียนสรุปคร่าวๆ ไม่ใช่ทั้งหมดที่ผู้เขียนได้รับหลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้ เพราะเนื้อหามันอัดแน่นหลายๆ อย่างที่เต็มไปด้วยประโยชน์ในการมีพลังทำอะไรคนเดียว ผู้เขียนมองว่าการทำอะไรตัวคนเดียวมันทำให้เราจัดการตัวเองได้ดี ได้ค้นหาตัวเอง แต่ถึงอย่างงั้นสังคมเราทุกวันนี้ก็ยังต้องมีเพื่อนหรือคนที่รักเพื่อให้เราได้พึ่งพาช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ต่อให้เราคิดว่าอยู่คนเดียว แต่ว่าก็ยังมีคนที่ยังรักเราและอยากเห็นเราได้มีชีวิตที่มีความสุขเน้อ เพราะ การอยู่คนเดียว จะช่วยดึงดูดใครสักคนมาได้นั่นเองจ้า ขอบคุณผู้อ่านทุกๆ ท่าน ที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ด้วยจ้า ผู้เขียนอาจจะมีผิดพลาดหรือบกพร่องตกหล่นบ้างก็ต้องขอโทษไว้ด้วยเน้อ ถ้าชื่นชอบบทความนี้ เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ก็สามารถแชร์บอกต่อให้คนอื่นด้วยเน้อ เพื่อให้ผู้เขียนมีกำลังใจเขียนบทความต่อๆ ไปด้วย ขอบคุณจ้ารูปภาพปกทำโดย Canvaรูปภาพประกอบบางส่วนผู้เขียนถ่ายเองจ้ารูปภาพบางส่วนจาก Freepik : ภาพประกอบ 1 ภาพประกอบ 2 ภาพประกอบ 3 ภาพประกอบ 4 ภาพประกอบ 5 ภาพประกอบ 6 ภาพประกอบ 7 ภาพประกอบ 8รูปภาพบางส่วนจาก Unsplash : ภาพประกอบ 9 ภาพประกอบ 10ช่องทางการติดตามของผู้เขียนFacebook: AmmarinJTwitter (X): @AmmarinJเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !