อังกฤษ เตือนมีประวัติ "แพ้รุนแรง" ไม่ควรฉีดวัคซีนโควิด

วันนี้( 10 ธ.ค.63) สำนักกำกับดูแลยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ หรือ MHRA ของอังกฤษ ประกาศเตือนผู้ที่มีประวัติแพ้ยา อาหาร หรือ วัคซีนอย่างรุนแรง ไม่ควรฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์และบริษัทไบโอเอ็นเทค เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่จำนวน 2 คน แสดงอาการแพ้ หลังฉีดวัคซีนชุดแรกร่วมกับอีกหลายพันคน เมื่อวันที่ (8 ธ.ค.) โดยทั้งสองมีประวัติเป็นภูมิแพ้รุนแรง และขณะนี้กำลังพักฟื้น ขณะที่ MHRA กำลังตรวจสอบกรณีดังกล่าว 

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา MHRA เป็นหน่วยงานแรกของโลก ที่รับรองวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ ขณะที่สำนักงานอาหารและยาของสหรัฐฯ หรือ FDA และองค์การยาของสหภาพยุโรป หรือ EMA กำลังประเมินข้อมูลของวัคซีนดังกล่าว 

ด้านแคนาดาเป็นประเทศที่ 3 ต่อจากอังกฤษและบาห์เรน ที่อนุมัติให้ใช้วัคซีนของไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทค โดยสัปดาห์หน้าจะได้รับวัคซีนชุดแรก 30,000 โดส และจะมีการฉีดวัคซีนเข็มแรกให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ ขณะที่บุคคลทั่วไปจะเริ่มฉีดวัคซีนได้เดือนเมษายนปีหน้า และคาดว่าชาวแคนาดาทุกคนจะได้รับการฉีดวัคซีนครบภายในสิ้นเดือนกันยายนปีหน้า ส่วนประเด็นเรื่องอาการแพ้ยา สาธารณสุขแคนาดา แนะนำให้ผู้ที่ไม่มีประวัติการแพ้ยาเข้ารับวัคซีนก่อน ส่วนผู้ที่มีประวัติแพ้ยาต้องแจ้งกับเจ้าหน้าที่ เพื่อให้มีการติดตามอาการอย่างใกล้ชิด 

กลุ่มพันธมิตรวัคซีนเพื่อประชาชน หรือ พีวีเอ เตือนว่า ประชาชนในประเทศยากจนมีแนวโน้มที่จะไม่ได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 เป็นเวลานานอีกหลายปี เนื่องจากกลุ่มประเทศร่ำรวยได้พากันกักตุนวัคซีนดังกล่าวมากเกินความจำเป็น โดยแคนาดา เป็นประเทศที่มีการกักตุนวัคซีนมากที่สุดในโลก พีวีเอ เปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้ วัคซีนจำนวนร้อยละ 96 ของไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทค และวัคซีนทั้งหมด 100% ของโมเดอร์นาได้ถูกประเทศร่ำรวยจับจองแล้ว ขณะที่บริษัทแอสตร้าเซนเนก้า และมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ให้คำมั่นว่าจะจัดสรรวัคซีนจำนวนร้อยละ 64 ให้แก่ประเทศที่กำลังพัฒนา

สำหรับสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้ผู้ติดเชื้อใกล้แตะ70ล้านคนแล้ว ล่าสุดอยู่ที่กว่า 69.3 ล้านคน เสียชีวิต กว่า1.5 ล้านราย สหรัฐฯติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวานนี้ติดเชื้อไปกว่า 2.2 แสนคน ส่งผลยอดติดเชื้อทั้งประเทศพุ่งไปกว่า 15.8 ล้านคน เสียชีวิตกว่า 2.9 แสนราย รองลงมาคืออินเดีย ติดเชื้อกว่า 9.7 ล้านคน เสียชีวิตกว่า 1.4 แสนราย ส่วนบราซิลติดเชื้อกว่า 6.7 ล้านคน เสียชีวิตกว่า 1.7 แสนราย

ส่วนอาเซียน อินโดนีเซียมีผู้ติดเชื้อสูงสุดกว่า 5.9 แสนคน เสียชีวิตรายวันเมื่อวานนี้เพิ่มขึ้นถึง 171 ราย นับเป็นสถิติการเสียชีวิตรายวันสูงที่สุดนับตั้งแต่มีการระบาด ส่งผลยอดรวมเสียชีวิตทั้งประเทศเพิ่มไปที่ 18,171 ราย ขณะที่ เมียนมา การระบาดยังรุนแรงต่อเนื่อง ล่าสุดผู้ติดเชื้อเพิ่มไปกว่า1แสน 3 พันคน เสียชีวิต 2,174 ราย

เกาะติดข่าวที่นี่