รัสเชียลดการส่งก๊าซไปยังยุโรป อียูหวั่นสำรองก๊าซไม่ทันฤดูหนาว
ยุโรปกำลังจะเผชิญวิกฤตพลังงานที่ตึงเครียดขึ้นกว่าเดิม เนื่องจาก Gazprom บริษัทพลังงานของรัสเซียระบุว่า มีแผนที่จะลดปริมาณการส่งก๊าซผ่านท่อนอร์ด สตรีม 1 ที่มายังเยอรมนีลง
---รัสเซียลดปริมาณการส่งก๊าซ---
Gazprom บริษัทพลังงานของรัสเซียระบุว่า มีแผนที่จะลดปริมาณการส่งก๊าซผ่านท่อนอร์ด สตรีม 1 ที่มายังเยอรมนีลงราว 20% ตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม เวลา 11.00 น. ตามเวลายุโรป เพราะจำเป็นต้องระงับการปฏิบัติการของ Gas Turbine หรือกังหันก๊าซของ Siemens Energy จากคำแนะนำของหน่วยงานที่กำกับอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ ท่อส่งก๊าซ นอร์ด สตรีม 1 มีศักยภาพในการส่งก๊าซราว 55 พันล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี และถือเป็นท่อส่งก๊าซหลักของรัสเซียที่เชื่อมยุโรปแห่งเดียวและใหญ่ที่สุด
ขณะที่การลดการส่งก๊าซครั้งนี้ จะทำให้ปริมาณการส่งลดลงเหลือ 33 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งถือว่าลงไปกว่าครึ่งของการส่งก๊าซที่ลดไปแล้วก่อนหน้านี้
---เยอรมนีกล่าวหา ‘ปูติน’ เล่นเกมที่ไม่ซื่อสัตย์---
ขณะที่เยอรมนี เผยว่า ไม่มีเหตุผลทางเทคนิคใด ๆ เพียงพอต่อการลดการส่งก๊าซรอบใหม่นี้ โดยโรเบิร์ต ฮาเบ็ค รัฐมนตรีเศรษฐกิจของเยอรมนีกล่าวว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน กำลังเล่นเกมที่ไม่ซื่อสัตย์ เขากำลังพยายามทำให้การสนับสนุนยูเครนอ่อนแอลง และนำความแตกแยกมาสู่สังคมของเรา เขาจึงต้องปั่นให้เกิดความไม่แน่นอนและทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้น เรากำลังรับมือเรื่องนี้อย่างเป็นเอกภาพ
ทั้งนี้ สหภาพยุโรป หรือ อียู กำลังหาทางลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซีย หลังรัสเซียเปิดปฏิบัติการทางทหารในยูเครน และอียูได้กล่าวหารัสเซียว่า แบล๊คเมล หรือหักหลังด้านพลังงาน แต่ทำเนียบเครมลินระบุว่า การส่งก๊าซที่ลดลงเป็นผลมาจากการซ่อมบำรุงและการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกเอง
ด้านบรรดานักการเมืองในยุโรปต่างคาดการณ์ว่า รัสเซียอาจตัดการส่งก๊าซในช่วงฤดูหนาวนี้ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจเยอรมนีถดถอย และราคาสินค้าผู้บริโภคพุ่งสูงขึ้น จากเดิมที่ราคาอาหารและพลังงานก็พุ่งสูงอยู่แล้ว
ด้วยเหตุนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เยอรมนีจึงได้ประกาศให้ความช่วยเหลือมูลค่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แก่ Uniper บริษัทนำเข้าก๊าซสัญชาติเยอรมันรายใหญ่สุดที่นำเข้าก๊าซจากรัสเซีย
---เซเลนสกี เรียกร้องให้ยุโรปตอบโต้ “สงครามก๊าซของรัสเซีย” ---
ส่วนประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เรียกร้องยุโรปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ให้ร่วมกันตอบโต้สิ่งที่เรียกว่า “สงครามก๊าซของรัสเซีย”
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีเคยส่งสัญญาณเรื่องการตัดลดการส่งก๊าซมาแล้ว โดยเตือนชาติตะวันตกว่า การเดินหน้าคว่ำบาตรรัสเซียเสี่ยงที่จะทำให้ราคาพลังงานพุ่งขึ้นอย่างหายนะสำหรับผู้บริโภคทั่วโลก
ก่อนหน้านี้ ในเดือนมิถุนายน รัสเซียได้ลดปริมาณก๊าซที่ส่งผ่านท่อนอร์ด สตรีม 1 ลงไปเหลือที่เพียง 40% โดยอ้างว่า ได้รับ กังหันก๊าซกลับมาช้า หลังมีการนำไปให้บริการโดย Siemens Energy ในแคนาดา
หลังจากนั้นในเดือนกรกฎาคม รัสเซียปิดท่อส่งก๊าซนอร์ด สตรีม 1 เป็นเวลา 10 วันสำหรับการซ่อมบำรุงประจำปี และเมื่อกลับมาให้บริการ การส่งก๊าซยังกลับมาอยู่ที่ระดับ 40%
ที่ผ่านมา รัสเซียได้ระงับการส่งก๊าซไปยังโปแลนด์ เดนมาร์ก ฟินแลนด์ บัลแกเรีย และเนเธอร์แลนด์ไปแล้ว หลังชาติเหล่านั้นปฏิเสธที่จะชำระค่าก๊าซด้วยเงินสกุลรูเบิ้ล และยังตัดส่งการส่งก๊าซไปยังหลายชาติแล้ว
ภาวะชะงักงันดังกล่าว ทำให้เกิดความกังวลว่าหลายประเทศในยุโรป อาจไม่สามารถกักเก็บก๊าซสำรองได้ทันก่อนฤดูหนาว ซึ่งจะมีการใช้ก๊าซในปริมาณที่มาก
ทั้งยังทำให้เกิดความกังวลว่า อาจจะต้องใช้มาตรการปันส่วนก๊าซ โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อียูเสนอชาติสมาชิกให้ลดการใช้ก๊าซลงให้ได้ 15% ระหว่างเดือนสิงหาคมนี้ ไปจนถึงมีนาคมปีหน้า โดยเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ รัสเซียคือผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่อันดับสองของโลก ตามหลังเพียงซาอุดิอาระเบีย และยังเป็นผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติรายใหญ่สุดของโลก โดยยุโรปนำเข้าก๊าซจากรัสเซียมากถึง 40% และน้ำมันอีก 30% ของปริมาณการใช้ทั้งหมด
————
แปล-เรียบเรียง: ธันย์ชนก จงยศยิ่ง
ภาพ: Reuters