ขสมก. เล็งประกาศทีโออาร์จ้างเอกชนเดินรถ พ.ค.นี้ ย้ำจ้าง 6 พันบาท/คัน ต่ำกว่าราคาทุน

ข่าววันนี้ นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยถึงกรณีที่ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ขสมก. ยื่นหนังสือคัดค้านกลุ่มทุนเข้ายึดเส้นทางรถเมล์ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ถึงนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ว่า ขณะนี้ ขสมก.อยู่ระหว่างการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก. ระยะสั้น เนื่องจากปัจจุบันขสมก. อยู่ระหว่างรอเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบแผนฟื้นฟูฯ ปี 2562 (ฉบับปรับปรุง) โดยรูปแบบการทำแผนระยะสั้นมีระยะเวลาดำเนินการ 2 ปี ระหว่างที่รอการพิจารณาแผนฟื้นฟูฯ ฉบับปรับปรุงแล้วเสร็จ ซึ่งจะใช้วิธีการจัดหารถให้บริการโดยการจ้างเอกชนมาวิ่งรถตามระยะทาง ซึ่งเอกชนจะต้องจัดหารถปรับอากาศ และพนักงาน มาให้บริการ โดยเขตการเดินรถทั้ง 8 เขต ของ ขสมก.จะเป็นผู้ดำเนินการบริหารตารางการเดินรถ และกำหนดความถี่ในการให้บริการเดินรถ
สำหรับงบประมาณในการดำเนินการจ้างเอกชนเดินรถ นั้น ขสมก.จะใช้งบประมาณ จากรายได้ในการบริหารการเดินรถ เช่น ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถโดยสารสาธารณะ และค่าใช้เกี่ยวกับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น ส่วนกรณีที่สหภาพฯ ขสมก.ตั้งข้อสังเกตว่า การเหมาจ้างให้เอกชนมาเดินรถ คันละ 6,000 กว่าบาทต่อวัน สูงเกินกว่าความเป็นจริงหรือไม่ นั้น หากคิดต้นทุนตามข้อเท็จจริง รถขสมก.ครีมแดง มีค่าใช้จ่ายต้นทุนต่อคันต่อวัน เกิน 6,000 บาท แบ่งเป็น ค่าเหมาซ่อม 1,400 บาทต่อคัน ค่าเชื้อเพลิงหากคิดค่าดีเซลอยู่ที่ลิตรละ 28-30 บาท อยู่ที่ 2,600 บาทต่อกิโลเมตร ค่าจ้างคนขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสาร ขสมก. 3,000 บาทต่อคันต่อวัน แต่หากจัดหารถใหม่ จะมีต้นทุนดำเนินการใกล้เคียงกับการขอเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ (พีเอสโอ)
“เบื้องต้นคณะกรรมการ (บอร์ด) ขสมก.ได้พิจารณาเห็นชอบแผนฟื้นฟูฯ ระยะสั้น ในการจ้างเอกชนมาวิ่งรถตามระยะทาง นำร่องจำนวน 224 คัน จากทั้งหมด 400 คัน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยปัจจุบัน อยู่ระหว่างเตรียมจัดทำเอกสารประกวดราคา (ทีโออาร์) คาดว่าจะประกาศประกวดราคาได้ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ หลังจากนั้น จะดำเนินการจัดหารถได้ภายในเดือนกันยายน-ตุลาคม 2565 หากมีผู้คัดค้านอาจทำให้ระยะเวลาการประกวดราคาขยับออกไปได้” นายกิตติกานต์ กล่าว
ทั้งนี้ หลังจากประกาศประกวดราคาแล้วเสร็จ ขสมก.ต้องดำเนินการขอใบอนุญาตเดินรถจากกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) โดยกำหนดหลักเกณฑ์ว่าภายในระยะเวลา 1 ปี ต้องบรรจุรถใหม่ไม่น้อยกว่า 30% ซึ่งขณะนี้มีเส้นทางการเดินรถจำนวน 107 เส้นทาง ในจำนวนนี้บรรจุรถโดยสารให้บริการแล้ว 17 เส้นทาง และเหลือรถที่ต้องบรรจุฯ อีก 90 เส้นทาง ส่วนกรณีที่ขสมก. จะเก็บค่าโดยสาร 30 บาทต่อคนต่อวัน โดยไม่จำกัดจำนวนเที่ยวการเดินทาง นั้น ราคาดังกล่าวอยู่ในแผนฟื้นฟูฯ ที่ยังไม่ได้รับการเห็นชอบจากครม. โดยยืนยันว่า จะยังใช้ราคาปกติรถครีมแดง 8-10 บาท ส่วนรถปรับอากาศ 15-25 บาทตามระยะทาง ทั้งนี้ ปัจจุบันขสมก. มีผู้โดยสาร 5-6 แสนคนในวันธรรมดา และ 3-4 แสนคนในวันหยุด ซึ่งแตกต่างจากปี 2562 ที่มีผู้ใช้บริการ 9
นอกจากนี้ ขสมก.ยังมีปัญหาเรื่องการขาดทุนสะสมต่อเนื่อง อยู่ที่ 1.3 แสนล้านบาท โดยมีค่าใช้จ่ายทั้งหมดเฉลี่ย 4,000 ล้านบาทต่อปี ได้แก่ ต้นทุนในการซ่อมบำรุงรถ 1,600 ล้านบาทต่อปี ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง 1,200 ล้านบาทต่อปี ค่าก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) 512 ล้านบาทต่อปี และค่าบุคลากร 1,500 ล้านบาทต่อปี