เลี้ยงไก่ชนไก่ชนหรือไก่ตีเป็นกีฬาพื้นบ้านไทย ๆ ที่เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย อย่างตามบ้านนอกในหน้าเทศกาลบางเทศกาลอาจมีการชนไก่เป็นส่วนกระกอบของงานนั้น ๆ ด้วย อย่างเช่นในหน้ากฐิน เรียกว่างานกฐินบ้านนอกถ้าไม่มีการชนไก่งานนั้นรับรองไม่ครื้นเครงแน่นอน แต่วันนี้ผมจะยังไม่เล่าเรื่องเกี่ยวกับการชนไก่ เอาไว้ในโอกาสต่อ ๆ ไป แต่วันนี้ผมจะมาเล่าเรื่องของการเลี้ยงไก่ไว้ชนครับบ้านพี่เขบผมแกเลี้ยงไก่มาหลายปีแล้ว อาจจะยังเรียกไม่ได้ว่าแกอยู่ในระดับมืออาชีพ คือแกเลี้ยงเล่น ๆ พอให้เพลิดเพลินแต่มันก็เป็นอาชีพที่เสริมรายได้อย่างหนึ่ง และไก่แกก็มีมากมายเป็นร้อย ๆ ตัว ล้วนแต่ไก่ตีล้วน ๆ ทั้งเลี้ยงเอาไว้ตีเองและเอาไว้สำหรับขายให้คนที่ต้องการนำไปชนไก่ในงานบุญกฐิน และอาจจะต่อกด้วยเดิมพันเล็ก ๆ น้อย ๆ มันเป็นกีฬาที่ใคร ๆ ก็ชอบ แต่การจะเลี้ยงเองนี้บางคร้งก็แสนลำบากครับ สู้ซื้อเอาดีกว่า ถ้าไปขุนตีหรือชนแล้ว ถ้าหากชนะก็เลี้ยงต่อไป ถ้าหากแพ้ก็ลงหม้อต้ม มันเป็นกฎเหล็กของเซียนไก่เลยล่ะ (ฮ่า) เลี้ยงไก่ชนนี้ไม่ได้ เลี้ยงง่าย ๆ เหมือนเลี้ยงไก่บ้าน ๆ ทั่ว ๆ ไป ที่เลี้ยงเอาไว้ลงหม้ออย่างเดียว ด้วยเหตุนี้การเลี้ยงไก่ชนจึงค่อนข้างแตกต่างจากเลี้ยงไก่หม้อ(เลี้ยงเอาไว้ขายกินเนื้อ) ไก่ชนนี้จะเลี้ยงแบบปล่อยปละละเลยเหมือนไก่บ้านไม่ได้ เพราะคนเลี้ยงต้องคอยเอาใจใส่ดูแลอย่างดี ตั้งแต่เรื่องอาหารการกิน ที่อยู่อาศัย อย่างเช่นไก่ตีพันธ์ดี ๆ จำเป็นต้องเลี้ยงอย่างดีและแยกไว้ต่างหาก เวลาซ้อม หลังซ้อมทุก ๆ วันต้องล้างหน้าไก่ โดยเอาผ้าชุบน้ำ แตะกระเบื้องร้อน ๆ ที่วางไว้บนเตาไฟ โปะตามหน้าไก่ทุกวัน อย่างนี้เรียกว่าล้างหน้าไก่ ต้องทำทุกวัน จนกว่ารอยแผลจากการซ้อมจะหายไป จนหน้ากลับมางามดั่งเดิมว่างั้นแล้วเรื่องอาหารการกินนี้ ไก่ที่ราคาแพง ๆ บางทีอาจต้องเลี้ยงดีสักหน่อย แล้วแต่สูตรใครก็สูตรใคร แต่ส่วนมากจะข้าวเปลือก หรืออาจจะหัวอาหาร แต่หัวอาหารจะทำให้ไก่ตีนี้อ้วน และที่สำคัญจะทำให้มันล้าง่ายเวลาไปต่อกรกับคู่ต่อสู้บนสังเวียน ส่วนมากจะให้แค่ข้าวเปลือก ข้าวโพด และอาจจะมีการถ่ายท้องบ้างเป็นบางโอกาส สมุนไพรที่ใช้นั้นก็แล้วแต่อีก อาจจะใบตำลึง ลูกตำลึงบ้างบวกกับบรเพชร ถ่ายบ่อย ๆ จนขี้เขียวไปเลย ไก่ถ้าบำรุงบริเพ็ดบ่อย ๆ จะกำลังดี เหมือนนักมวย ถ้ากินไม่เป็นไปเจอคู่ชกที่บำรุงดีก็อาจกระโดดลงเวทีไม่ทันทีเดียว ฉะนั้นการเลี้ยงดูปูเสื่อนี้จึงสำคัญต่อมาเรื่องของการผสมพันธ์ุ ไก่ตีนี้ไม่เหมือนไก่หม้อหรือไก่บ้านทั่ว ๆ ไป การผสมพันธ์ุจะปล่อยให้ผสมตามธรรมชาติไม่ได้เพราะมันอาจเกิดการกลายพันธ์ุได้ เช่นอยู่ดี ๆ ไก่ตีก็กลายเป็นไก่โต้งไปเลย ด้วยเหตุนี้เจ้าของผู้เลี้ยงจึงจำเป็นต้องสร้างเรือนหอไว้ให้พวกไก่ที่เลี้ยงไว้โดยเฉพาะเลยแล้วการคัดพันธ์ุนี้ก็สำคัญ อย่างตัวผู้ ตัวที่จะได้รับโอกาสเข้าเรือนหอบ่อย ๆ ส่วนมากจะเป็นสายพันธ์ุที่ดี เรียกว่ามีประวัติการต่อสู้เป็นที่น่าพอใจว่างั้น หากเมื่อนับจากโคตรเหง้าเหล่าตระกูลของมัน ตัวเมียก็เหมือนกัน เมื่อคัดเลือกตัวที่จะผสมพันธ์ุได้แล้ว ก็นำพวกมันเข้าเรือนหอและคอยส่งข้าวส่งน้ำพวกมันทุกวัน จนกว่าไก่ตัวเมียจะออกไข่และเริ่มฟักไข่ จากนั้นตัวผู้จึงจะได้อิสรภาพ กระบวนการนี้อาจใช้เวลาที่นานมาก บางทีอาจเป็นเดือน ๆ และเมื่อไก่ที่ผสมฟักหมดแล้ว เราจึงนำออกมาอนุบาลและเลี้ยงดูต่อไป อ่านมาถึงตรงนี้ผู้อ่านอาจจะคิดว่ายาก แต่จริง ๆ ก็ไม่ได้ยากยากถ้าหากมีใจรัก เพราะมันไม่ได้เลี้ยงไว้ต้ม แต่มันเลี้ยงไว้ชนโดยเฉพาะ และบางตัวอาจมีราคาแพงมาก แค่ฟักออกมาตัวละเป็นพัน ๆ ก็มี แต่ที่บ้านพี่เขยผมนี้ขายไม่แพงขนาดนั้น แกขายตัวโต ๆ ตัวหนึ่ง 500 บาทเอง อย่างต่ำ ส่วนตัวที่แพง ๆ แล้วแต่จะคุยกันได้ แต่เจ้าที่ไก่แพง ๆ แกย้ายไปแล้ว คือเสี่ยนิด หนองมน ชมพูทอง(อดีตนักมวยดัง)บ้านติดกันกับบ้านผมนี่เอง ผมเป็นคนไปทำคอกไก่ให้แกเอง บางตัวราคาเป็นแสนเลย ฮ่า ๆ มิน่าแกถึงได้ย้ายที่ แกคงกลัวใครมาขโมยไก่แก ฮา แต่ไม่ใช่ผมหรอก และทั้งหมดนี้ก็คือการเลี้ยงไก่ชนครับ เอาไว้โอกาสหน้าผมจะนำเรื่องไก่ตีนี้มาเล่าสู่กันฟังในโอกาสต่อ ๆ ไป ขอบคุณและสวัสดีครับผม เรื่องและภาพโดยผู้เขียน ลูกอิสาน