“พิชัย” ดันปี68 เป็นปีทองการส่งออก

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนา “โอกาสไทย เวทีไทย เวทีโลก” ว่า รัฐบาลประกาศเดินหน้าขับเคลื่อนการส่งออกไทยในช่วงครึ่งปีหลัง สู่การเป็น “ปีทองของการส่งออก” อย่างแท้จริง พร้อมชี้แนวโน้มเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการส่งออกที่เติบโตต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งขยายตัวถึง 10.5% และในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2568 ขยายตัวสูงถึง 14.9%   ในเดือนพฤษภาคมโตถึง 18.4%  

สะท้อนถึงแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่มีการลงทุนใหม่เข้ามามากและการเจรจาการค้าอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะกับสหรัฐฯ ที่เริ่มประสานตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ซึ่งเราได้เริ่มเจรจาภาษีกับทางสหรัฐแล้ว เมื่อเสร็จสิ้นจะชี้แจงรายละเอียดให้ทราบ 

นอกจากนี้ ยังเดินหน้าผลักดันการเจรจา FTA อย่างต่อเนื่อง โดยภายในปีนี้คาดว่าจะสามารถสรุป FTA กับสหภาพยุโรปได้สำเร็จ ขณะเดียวกันยังอยู่ระหว่างการเจรจา FTA กับเกาหลีใต้ อาเซียนแคนาดา และ UAE เพื่อสร้างแต้มต่อทางการค้าให้ผู้ประกอบการไทย

สำหรับการแก้ไขปัญหาผลไม้ล้นตลาด นายพิชัยระบุว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ออกมาตรการเชิงรุก 7 มาตรการ 25 แผนงาน และล่าสุดร่วมมือกับสายการบินแอร์เอเชีย นำผลไม้เกษตรกรขายเมนูอาหารและเครื่องดื่มเสิร์ฟบนสายการบินกว่า 1,000 ตัน และส่งเสริมผ่านห้างค้าปลีกสมัยใหม่ รวมถึงจัดเทศกาลผลไม้ในระดับประเทศ เพื่อกระจายสินค้าเกษตรออกสู่ตลาด

ขณะเดียวกันยังได้ลงนามความร่วมมือกับร้านอาหารไทยในต่างประเทศภายใต้โครงการ “Thai SELECT” ซึ่งได้รีแบรนด์ใหม่ติดดาวเทียบชั้น Michelin Star เพื่อให้สื่อสารได้ชัดเจนขึ้นและเชื่อมโยงการท่องเที่ยว โดยใช้ร้านอาหารไทยเป็นโชว์รูม โดยในเดือนหน้าจะมีการจัดกิจกรรมโปรโมตในนิวยอร์ก

ในด้านการเชื่อมโยงตลาดต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ มีแผนเชื่อมโยงสำนักงานพาณิชย์จังหวัดกับทูตพาณิชย์ เพื่อส่งเสริมให้สินค้าในแต่ละจังหวัดให้สามารถออกสู่ตลาดโลกโดยตรง พร้อมเตรียมพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อเชื่อมโยงการค้าแบบครบวงจร

สำหรับความท้าทายด้านสินค้าเกษตร เช่น ข้าวและมันสำปะหลัง ซึ่งได้รับผลกระทบจากราคาตลาดโลก นายพิชัยเผยว่า กระทรวงฯ ได้เร่งเปิดตลาดใหม่ เช่น แอฟริกาใต้ พร้อมทั้งเร่งเจรจาขายข้าวเพื่อให้ข้าวไทยยังคงได้รับความนิยม สามารถรักษาราคาตลาดไว้ได้

นอกจากนี้ ยังได้เร่งจัดการกับปัญหาสินค้าด้อยคุณภาพและธุรกิจที่ผิดกฎหมาย โดยดำเนินคดีไปแล้วกว่า 57,739 คดี และอยู่ระหว่างการตรวจสอบบริษัทนอมินีทั่วประเทศ กว่า 46,918 บริษัททั่วประเทศ