รีเซต

ประเมินท่องเที่ยวตรุษจีนไร้ความคึกคัก หลังโควิดยังอยู่ แม้คลายล็อกดาวน์แล้ว

ประเมินท่องเที่ยวตรุษจีนไร้ความคึกคัก หลังโควิดยังอยู่ แม้คลายล็อกดาวน์แล้ว
มติชน
7 กุมภาพันธ์ 2564 ( 11:32 )
45
ประเมินท่องเที่ยวตรุษจีนไร้ความคึกคัก หลังโควิดยังอยู่ แม้คลายล็อกดาวน์แล้ว

นายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) เปิดเผยว่า บรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศขณะนี้ ยังคงไม่มีความคึกคักมากนัก เนื่องจากการระบาดโควิด-19 ในประเทศรอบใหม่นี้ ยังไม่คลายตัวลง และประชาชนส่วนใหญ่ยังกังวลการเดินทางอยู่ โดยหากประเมินแนวโน้มในช่วงเทศกาลตรุษจีนวันที่ 12 กุมภาพันธ์ นี้ มองว่าเริ่มมีสัญญาณการเดินทางของคนบางส่วน แต่ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะคึกคักมากหรือน้อยเท่าใด เพราะยังมีหลายจังหวัดที่อยู่ในกลุ่มความเสี่ยงสูง หรือพื้นที่สีแดง รวมถึงความมั่นใจในการใช้จ่ายของประชาชนยังไม่ชัดเจนมากนัก จึงยังไม่สามารถประเมินภาพได้ชัดเจน ว่าจะเกิดการเดินทางมากหรือน้อยอย่างไร

 

“ตรุษจีนปีนี้ ยังเชื่อว่าจะมีการขยับบ้าง จากการหารือร่วมกับผู้ประกอบการด้วยกัน แต่ในส่วนของจำนวนคงไม่ได้มากมายนัก เพราะเพิ่งมีการคลายล็อกดาวน์ในบางจังหวัด และก็ยังมีอีกหลายจังหวัดที่ต้องควบคุมเข้มข้นอยู่ โดยเฉพาะจังหวัดสมุทรสาคร ในส่วนของการเพิ่มวันหยุดช่วงตรุษจีนขึ้นมา ถือว่าเป็นเรื่องดีในการกระตุ้นให้คนทั่วไปวางแผนการเดินทาง แต่ประเด็นคือ ติดปัญหาการระบาดโควิด-19 ทำให้การเดินทางน่าจะมีไม่มากเหมือนที่คาดกันในช่วงก่อนเกิดการระบาด โดยหากเทียบความคึกคักกับปี 2563 คาดว่าจะไม่แตกต่างกันมากนัก แต่หากเทียบกับปี 2562 ก็น่าจะชะลอตัวลงค่อนข้างสูง” นายอดิษฐ์ กล่าว

 

นายอดิษฐ์ กล่าวว่า สำหรับการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ หากภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ รัฐบาลสามารควบคุมการระบาดโควิด-19 อยู่ แต่ประกาศคลายล็อกดาวน์ทั้งประเทศได้ มองว่าในเดือนมีนาคมนี้ รัฐบาลจะต้องเตรียมโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวที่มีอยู่ ดันออกมาใช้ให้หมด อาทิ เที่ยวเส้นทางคนโสด เที่ยวไทยวัยเก๋า และเราเที่ยวด้วยกัน หรืออาจมีทำโครงการใหม่ๆ ออกมา โดยรัฐบาลจะต้องหารือร่วมกับผู้ประกอบการ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับการกระตุ้นตลาดได้ทันที เมื่อมีการปลดล็อกดาวน์ออกมา ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะจะก่อให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนนี้ ซึ่งถือว่าเป็นฤดูการท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไทย

 

นายอดิษฐ์ กล่าวว่า ในส่วนของการกระตุ้นตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มที่ฉีดวัคซีนต้านไวรัสแล้ว เป็นการจัดทำวัคซีนพาสปอร์ตขึ้น มองว่าหากประเทศไทยสามารถจัดทำไว้ให้เสร็จเรียบร้อยทั้งหมดได้ในทุกขั้นตอน และหากดูผลการประเมินจากนี้ไปอีก 3 เดือน (มีนาคม-พฤษภาคม) ซึ่งเป็นช่วงของการกระจายฉีดวัคซีนทั่วโลก และหากผลการฉีดวัคซีนออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจ เราก็จะสามารถต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มที่มีการฉีดวัคซีนแล้วได้ทันที เนื่องจากรัฐบาลมีการจัดเตรียมรูปแบบการเดินทางเข้ามาของวัคซีนพาสปอร์ตไว้ โดยหากอนุญาตให้ต่างชาติเดินทางเข้ามาแบบไม่ต้องกักตัว 14 วันได้ ผนวกกับการรองรับของตลาดที่มีความพร้อม เชื่อว่าไทยจะกลับเข้าสู่ฤดูการท่องเที่ยวแบบช้าๆ ได้อีกครั้ง ซึ่งขณะนี้มีหลายประเทศแสดงความต้องการเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศจำนวนมาก อาทิ อินเดีย

 

“การเริ่มต้นฉีดวัคซีนในหลายประเทศทั่วโลก และความต้องการเข้ามาท่องเที่ยวของต่างชาติจากหลายประเ ทศนั้น ถือเป็นโอกาสที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะร่วมมือกับผู้ประกอบการภาคเอกชน ในการช่วยกันผลักดันให้เกิดการเปิดประเทศได้ ภายใต้มาตรการรองรับที่รอบคอบ และสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้” นายอดิษฐ์ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง