รีเซต

SHRลุยไฮซีซันท่องเที่ยว อังกฤษ-มัลดีฟส์ฟื้นธุรกิจ

SHRลุยไฮซีซันท่องเที่ยว อังกฤษ-มัลดีฟส์ฟื้นธุรกิจ
ทันหุ้น
15 ตุลาคม 2564 ( 11:42 )
137
SHRลุยไฮซีซันท่องเที่ยว อังกฤษ-มัลดีฟส์ฟื้นธุรกิจ

ทันหุ้น - SHR ส่งซิกไตรมาสสุดท้ายสัญญาณบวก เล็งธุรกิจโรงแรมอังกฤษ-มัลดีฟส์ กลับมาฟื้นตัวรับไฮซีซัน แถมคลายล็อกดาวน์อังกฤษ ไทย มอริเชียส เริ่มเปิดให้บริการเดือนต.ค.เป็นต้นไป พร้อมต่อยอดโปรเจ็กต์ Crossroads เกาะ 3 ตามแผน คาดแล้วเสร็จกลางปี 2566

 

นางสาวศมิษฐา  ทินนาม  ประธานเจ้าหน้าที่บริการเงิน บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR เปิดเผยถึง ภาพรวมสถานการณ์การท่องเที่ยวในช่วงไตรมาสสุดท้ายปี 2564 มองว่าจากการกระจายวัคซีนที่ต่อเนื่องและรวดเร็วของอังกฤษทำให้สถานการณ์แพร่ระบาดเริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้ในช่วงปลายปี 2564 มีโอกาสที่จะเริ่มกลับมามีการท่องเที่ยวมากขึ้น นอกจากนี้การควบคุมโรคระบาดอย่างเข้มข้นในช่วงที่ผ่านมาไม่สามารถจัดกิจกรรมในช่วงเทศกาลคริสต์มาสมาเกือบ 2 ปี ทำให้ปีนี้อาจเปิดให้มีการเฉลิมฉลองได้มากขึ้น

 

อังกฤษ-มัลดีฟส์เปิดเที่ยว

 

ประกอบกับไตรมาส 4ของทุกปีเข้าสู่ช่วงไฮซีซันท่องเที่ยงของอังกฤษและมัลดีฟส์ ซึ่งทั้ง 2 โลเคชั่นดังกล่าวคิดเป็นมากกว่า 70-80%ของพอร์ตรายได้รวม ถือเป็นปัจจัยเข้ามาช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวให้กลับมามีความคึกคักมากขึ้น ปัจจุบันโรงแรมในมัลดีฟส์กลับมาเปิดให้บริการได้เต็ม 100%ด้านโรงแรมในสาธารณรัฐมอริเชียส (Mauritius) เปิดให้บริการแล้วตั้งแต่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะเดียวกันจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ในไทยเริ่มคลี่คลายมากขึ้น ทำให้มีความเป็นไปได้ที่ปลายปีนี้อังกฤษจะปลดล็อกไทยออกจากบัญชีสีแดง

 

นอกจากนี้รัฐบาลไทยได้ปลดล็อกการเดินทางนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นต้นไป โดยไม่ต้องกักตัวในกรณีที่ผู้เดินทางรับวัคซีนครบโดสแล้ว และเดินทางเข้าประเทศไทยโดยทางอากาศจากประเทศที่กำหนดว่าเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ อย่างน้อย 10 ประเทศ เช่น อังกฤษ สิงคโปร์ เยอรมนี จีน และอเมริกา และตั้งเป้าจะเพิ่มจำนวนประเทศให้มากขึ้นอีกภายในวันที่ 1 ธันวาคม 2565 นั้นมองว่าส่งผลเชิงบวกให้กับการท่องเที่ยวโดยเฉพาะในทำเลหลักที่บริษัทมีโรงแรมอยู่ภายใต้การบริหารทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ ภูเก็ต เกาะสมุย และเกาะพีพี เป็นต้น

 

จากปัจจัยดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าผลการดำเนินงานในไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 มีทิศทางกลับมาปรับตัวที่ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ดีด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ที่กินระยะเวลามายาวนานเกือบ 2 ปีเต็ม คาดว่าเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่อาจต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ดังนั้นแล้ว  Bottom Line ในไตรมาสสุดท้ายปีนี้ของบริษัทจะยังคงมีผลติดลบอยู่ และอาจต่อเนื่องไปจนถึงกลางปี 2565 โดยในช่วง 6เดือนแรกปีนี้บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 1,530.21 ล้านบาท และมีผลขาดทุนที่ 882.33 ล้านบาท

 

อย่างไรก็ดีในช่วงไตรมาส 4/2564 บริษัทยังเดินแผนการขายโรงแรมในประเทศอังกฤษบางทำเลที่มีอัตราผลตอบแทนที่ต่ำเพิ่มเติม 4-6 โรงแรม โดยนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันมีการจำหน่ายออกไปแล้ว 2 แห่ง ซึ่งปลายปี 2564จนถึงปี2565 คาดว่าจะมีการจำหน่ายออกเพิ่มเติมอีกราว 3-4 แห่ง เพื่อให้ครบตามกำหนดของแผนที่วางไว้ เพื่อนำเงินที่ได้มาใช้รองรับการปรับปรุงและขยายการลงทุนในส่วนอื่นๆ ให้กับโรงแรมที่เป็นดาวเด่น 4-5 แห่ง ของพอร์ตอังกฤษ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อไป รวมถึงบริษัทยังคงเดินหน้าลงทุนโรงแรม Crossroads เกาะที่ 3 ในมัลดีฟส์ต่อเนื่อง เบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2564 นี้ และคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการได้กลางปี 2566

 

โค้งส่งท้ายรับไฮซีซัน

 

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า คาดว่า SHR จะยังคง Outperform หุ้นอื่นในกลุ่มต่อไปในไตรมาส 4/2564 เพราะรายได้จากธุรกิจโรงแรมของบริษัทเกินครึ่งมาจากอังกฤษ และมัลดีฟส์ โดยในอังกฤษได้ทยอยผ่อนคลายเกณฑ์การเดินทางลงตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม 2564 ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันไม่ได้ก่อให้เกิดความกังวลต่อภาระของโรงพยาบาล

 

ด้านมัลดีฟส์ มีการยกเลิกมาตรการคุมโควิด-19 ชุดสุดท้ายเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2564 และผลการดำเนินงานของโรงแรมในไตรมาส 4/2564 น่าจะได้แรงหนุนจากการเข้า High Season จึงยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ประเมินราคาเป้าหมายที่ 5.20 บาท

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง