Jโล่งใจคลายล็อกหนุนธุรกิจ จ่อเปิดศูนย์ใหม่-Q4สดใส
ทันหุ้น - J ใจชื้น คลายล็อกดาวน์ หนุนยอดเช่าพื้นที่หวนสดใส ปั้นศูนย์ใหม่ย่านคู้บอนเพิ่ม ปูทางโกยเงินระยะยาว พร้อมส่งซิก Q4/2564 ฟอร์มแจ๋วกว่าช่วง Q3/2564 อานิสงส์พอร์ตลูกค้าขยายตัว เปิดศูนย์ใหม่หนุน บิ๊ก "สุพจน์ สิริกุลภัสสร์ " ปักหมุดปี 2564 ผลงานไฉไลกว่าปีก่อนที่มีกำไรราว 56 ล้านบาท รับแรงหนุนค่าเช่าสดใส-ธุรกิจพัฒนาอสังหาช่วยเสริมเพิ่ม
นายสุพจน์ สิริกุลภัสสร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J เปิดเผยว่า จากประเด็นที่ล่าสุดทางศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ศบค.) ได้มีอนุมติผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยพิจารณาผ่อนคลายร้านอาหารให้สามารถนั่งรับประทานได้ 50 % (ในส่วนของร้านอาหารที่ติดแอร์) และกิจการในส่วนต่างๆ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 เป็นต้นไปนั้นบริษัทมองถือเป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจ เพราะช่วยสนับสนุนร้านค้าต่างๆ ภายในศูนย์การค้าชุมชน (คอมมูนิตี้มอลล์) กลับมาเปิดให้บริการได้ และทำให้รายได้ในส่วนของค่าเช่าของธุรกิจปรับตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ ปัจจุบันทาง J มีพื้นที่เช่าทั้งหมดราว 4.2 หมื่นตารางเมตร จากทั้งหมด 4 โครงการ แบ่งเป็น JAS URBAN (ศรีนครินทร์), The JAS (วังหิน), The Jas (รามอินทรา) และโครงการ JAS Village Amata-Chonburi รวมทั้งมีแนวทางพัฒนาโครงการใหม่ๆ เพิ่มเติม หวังสนับสนุนการเติบโตในอนาคต ซึ่งยังไม่นับรวมธุรกิจพื้นที่เช่าโครงการศูนย์มือถือครบวงจรภายใต้ชื่อ IT Junction ที่เข้ามาเสริมด้วย
ขณะเดียวกันล่าสุดบริษัทได้มีการทุ่มเงินลงทุนราว 300ล้านบาท เพื่อก่อสร้างศูนย์การค้าชุมชนแห่งใหม่ "ถนนคู้บอน" กรุงเทพฯ ขนาดพื้นที่เช่าราว 1.7 หมื่นตารางเมตร ซึ่งรูปแบบส่วนของที่ดินนั้นจะเป็นสิทธิการเช่าที่ดินระยะเวลา 30ปี เนื้อที่ดินทั้งหมด 21 ไร่ 1 งาน 95.8 ตารางวา ปัจจุบันการก่อสร้างถือว่าคืบหน้าไปค่อนข้างมากแล้ว
แย้ม Q4 ฟอร์มแจ่ม
โครงการดังกล่าวยังถือเป็นศูนย์การค้าที่มีพื้นที่พัฒนาใหญ่ที่สุดของบริษัท และเป็นคอมมูนิตี้มอลล์แห่งที่ 5 ของบริษัท โดยการเปิดให้จองพื้นที่ในช่วงที่ผ่านมาพบว่า ล่าสุดมีตัวเลขการจองพื้นที่ในศูนย์ดังกล่าวแล้วประมาณ 90% และคาดน่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ช่วงธันวาคม 2564
นายสุพจน์ กล่าวเสริมว่า ในแง่แนวโน้มผลงานไตรมาส 4/2564 บริษัทประเมินว่าน่าจะปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจนจากช่วงไตรมาส 3/2564เนื่องจากธุรกิจมีอัตราเช่าพื้นที่ปรับตัวสูงขึ้น หลังร้านค้าภายในคอมมูนิตี้มอลล์ต่างๆ ของธุรกิจกลับมาเปิดให้บริการได้ตามปกติ ผลมาจากการคลายล็อกดาวน์ของภาครัฐ ประกอบกับธุรกิจจะมีการรายได้จากศูนย์การค้าชุมชนแห่งใหม่ในย่าน “คู้บอน”ที่เปิดให้บริการช่วงปลายปีนี้เข้ามาเสริมด้วย
ปีนี้ผลงานพุ่งต่อ
อย่างไรก็ดี ในปี 2564 บริษัทตั้งเป้าผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปี 2563 ที่มีกำไรราว 56 ล้านบาท เนื่องจากมองทิศทางรายได้ในส่วนของค่าเช่าในโครงการต่างๆ จะกลับมาฟื้นตัว ประกอบกับธุรกิจจะมีการรับรู้โครงการ JAS Village Amata-Chonburi เข้ามาเต็มปี รวมทั้งยังมีธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายเข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนสนับสนุนภาพรวมธุรกิจขยายตัวต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้ บริษัทยังมีมาตรการป้องกันการกระจายไวรัสในศูนย์การค้า อาทิเช่น การบริการเจลแอลกอฮอล์ในจุดของศูนย์การค้า การทำความสะอาดลิฟต์ทุกชั่วโมง และการตรวจคัดกรองพนักงานของผู้เช่าก่อนเข้างาน เพื่อให้ลูกค้าได้มั่นใจต่อการดำเนินงานของศูนย์การค้า และการปฏิบัติตามมาตรการของภาครัฐ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในพื้นที่ศูนย์ค้าชุมชนในทำเลต่างๆ ของธุรกิจ