จากบทความที่แล้วเราได้พูดถึงเทคนิคการทำพอร์ตไป ใครที่ยังไม่ได้อ่านก็คลิกเข้าไปอ่านได้เลย "เทคนิคทำพอร์ตยื่นเข้ามหาลัย ติดแน่นอน!!" ในบทความนี้ก็จะพูดถึงการสอบสัมภาษณ์ ซึ่งการสอบสัมภาษณ์ก็จะมีอยู่เกือบทุกรอบของการสอบเข้ามหาลัย เราเป็นคนนึงที่มั่นใจมาตลอดว่าถ้าสอบสัมภาษณ์เราทำได้สบายๆ มากก็แค่พูดตอบคำถามจะยากอะไร แต่พอใกล้เวลาสอบกับเกิดอาการกังวลและตื่นเต้นตื่นตระหนกขึ้นมาซะอย่างนั้น ไอคนมั่นอกมั่นใจก่อนหน้านี้มันหายไปไหนก็ไม่รู้ จากเหตุการณ์นั้นทำให้เราไปรวบรวมคำถามสอบสัมภาษณ์ที่อาจโดนถามเอาไว้เยอะมาก พร้อมแนวคำตอบว่าควรตอบแบบไหนดีมาแชร์ให้ทุกคนกัน เราจะเรียงจากคำถามที่มีโอกาสเจอมากสุดไปหาน้อยสุดนะ และก็แนวคำตอบที่เราตอบจะใส่ไว้ในวงเล็บตอนท้ายคำถามแต่ละข้อเลยนะข้อแรกที่จะถูกถามเลยก็คือ ให้เราแนะนำตัวเอง ในส่วนนี้ก็ให้เราตอบไปตามปกติเลย แต่อย่าตอบสั้นจนเกินไป อย่างตอบแค่ชื่อนามสกุลแล้วจบเลย ให้ใช้ชื่อเล่น โรงเรียน หรือลักษณะนิสัยเล็กๆ น้อยๆ ของตัวเองก็ช่วยให้เป็นที่น่าจดจำของกรรมการได้ด้วย ในส่วนของการแนะนำตัวมันเป็นการช่วยให้เราลดความตื่นเต้น แต่สำหรับบ้างที่ก็อาจไม่ถามก็ได้ อย่างของเรากรรมการก็ไม่ได้ให้แนะนำตัวเหมือนกัน มาถึงก็แค่เช็คแค่ว่าชื่อตรงกับใบรายชื่อไหม แล้วยิงเข้าคำถามอื่นเลยคำถามที่ยังไงก็ต้องแน่ๆ เจอทุกคน ก็คือ ทำไมถึงเลือกคณะ/สาขานี้? ก็ให้ตอบเหตุผลจริงๆ ของเรา ไม่ต้องตอบยาว เอาให้รู้เรื่องได้ใจความพอ ตอนที่เตรียมคำตอบก่อนสอบก็ตอบให้ตรงกับเหตุผลที่ใส่เข้าในพอร์ตด้วนนะ อันนี้เป็นคำตอบที่เราตอบไปนะ เอาไปเป็นแนวทางกันได้นะ (หนูชอบทำอาหาร แล้วพอกินไม่หมด เก็บได้ไม่นานก็หมดอายุ ก็เลยทำให้มีความสนใจในกระบวนการแปรรูปและถนอมอาหาร และยิ่งได้มีโอกาสร่วมการแข่งแนวคิดนวัตกรรมอาหารก็ยิ่งทำให้หนูมั่นใจว่าอยากเข้าสาขานี้จริงๆ)(สาขาที่เรายื่นเข้ามันเกี่ยวกับด้านอาหาร) อันนี้จะเป็นคำถามช่วงท้ายเลยนะ โอกาสเจอสูง สองคำถามนี้เตรียมตัวดีๆ หน่อยนะ เพราะมันเป็นคำถามจิตวิทยาหน่อยๆ นั้นก็คือ ถ้าไม่ติดที่นี้จะทำอย่างไร? พยายามตอบให้เห็นถึงความตังใจว่าเราจะเข้าที่นี้ให้ได้ต้องเป็นที่นี้เท่านั้น ถึงแม้ความจริงจะเป็นถ้าไม่ติดก็ไปเข้าที่อื่นหรือไปเรียนอย่างอื่นก็ตามก็อย่าได้ตอบออกไปเลย แต่อย่างเวอร์มากนะ เอาพอดีๆ ( รอบสอง รอบสามก็จะมาใหม่ แต่ถ้ายังไม่ติดอีกหนูก็จะมุ่งมั่นเรียนด้านนี้ต่อ) ได้ยื่นที่ไหนอีกไหม? อันนี้ก็ตามจริงไปเลยว่ายื่นที่ไหนไปบ้าง อย่าโกหกเลยว่ายื่นที่เดียว เพราะ กรรมการดูออก แต่ถ้ายื่นที่เดียวจริงๆ แบบเราพูดไปกรรมการเขาก็รู้ว่าพูดจริง มันจะออกทางน้ำเสียง ท่าทางมาหมดว่าพูดจริง พูดโกหก เพราะตอนเราตอบไปว่ายื่นที่นี้ที่เดียวเลยกรรมการก็ดูตกใจกันจริงๆมีคำถามอะไรไหม? อันนี้เป็นเหมือนคำถามเปิดโอกาสให้เราได้แสดงออกว่าเราอยากเข้าที่นี้จริงๆ แนะนำว่าควรถามสักคำถาม ถามในสิ่งที่สงสัยหรืออยากรู้ไปเลย จะถามสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับคณะ สาขาไปก็ได้ อย่างที่เราเคยเจอมาก็มีถามว่าแถวมหาลัยมีร้านอาหารร้านไหนอร่อย? ช่วยแนะนำหอนอกดีให้ไหม? อาจารย์ที่สอบสัมภาษณ์สอนวิชาอะไรในคณะ? คำถามแนวนี้ก็สามารถถามได้ แต่ดูด้วยก็ดีนะว่ากรรมการคนนั้นเขาจะเล่นกับเราไหม แต่ถ้าไม่มีอะไรจะจริงๆ ก็ตอบว่าไม่มีก็ได้ (ทางคณะมีโครงการปริญญาตรีร่วมกับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ ที่ต้องเดินทางไปในปี 4 อันนี้คือไปเรียนอย่างเดียวหรือไปฝึกงานด้วยคะ? /แผนการเรียนแบบเลือกเรียนกับไม่เลือกเรียนสหกิจต่างกันอย่างไรคะ แล้วสามารถเลือกได้ตอนไหน?)ให้บอกข้อดี ข้อเสียของตัวเอง? ข้อเสียห้ามตอบว่าไม่มีเด็ดขาด!! เพราะมันไม่มีใครในโลกไม่มีข้อเสีย เวลาเลือกตอบข้อเสียก็เลือกข้อที่ดูไม่ส่งผลกระทบกับการเรียนหน่อย หรือจะตอบให้ข้อเสียดูดีไปเลยก็ได้ยิ่งดี เช่น ข้อเสียเป็นคนตื่นสายบ่อย เพราะว่าตอนกลางคืนติวหนังสือจนดึกอย่างนี้เป็นต้น ข้อดีก็ให้เลือกตอบอันที่อาจจะช่วยในการเรื่องเรียนได้ ส่วนใครที่คิดเท่าไหร่ก็หาข้อดีข้อเสียตัวเองไม่เจอ ก็แนะนำให้ไปดูดวง ไม่ต้องถึงขนาดไปเปิดไพ่หรือหาแม่หมอนะ แค่ไปอ่านในเน็ตแบบทายนิสัยตามวันเกิด ราศี ไอไหนที่อ่านแล้วรู้ว่าตรงก็เอามาเขียนเลย (ข้อดี คือ ปรับตัวง่าย ชินกับสภาพแวดล้อมเร็ว เรียนรู้เร็ว ข้อเสีย คือ เวลาตัดสินใจอะไรไปแล้วไม่ค่อยฟังคนอื่น เพราะเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองระดับหนึ่ง)คณะนี้เรียนเกี่ยวกับอะไรบ้าง? เหมือนเช็คว่าเรารู้อะไรเกี่ยวกับคณะบ้างอยากเข้าจริงไหม ก็แนะนำให้ไปเปิดดูรายละเอียดของหลักสูตร ส่วนใหญ่ก็หาได้ตามอินเตอร์เน็ตหรือเว็บของมหาลัย/คณะ จะตอบเป็นวิชาเรียนไปเลย หรือตอบเป็นภาพรวมก็ได้ (เรียนเกี่ยวกับองค์ประกอบ การเปลี่ยนแปลงทางเคมีและทางกายภาพของอาหาร หลักการถนอมอาหาร การแปรรูปอาหาร กระบวนการผลิต การประเมินคุณภาพอาหาร)คณะนี้เรียนยากจะไหวไหม? คำถามนี้เหมือนเช็คความตั้งใจของเรา อย่าตอบว่าไม่ไหวนะ ถึงความจริงจะไม่ไหวก็ตาม ก็ให้ตอบว่าไหวไปก่อน แล้วหาเหตุผลมาเสริมสักหน่อย (ไหวค่ะ ถึงจะเรียนยาก แต่หนูเชื่อว่าหนูก็สามารถพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นได้)ทำไมเราถึงเหมาะกับคณะนี้? (หนูชอบการทดลองและวิทยาศาสตร์ รวมถึงหนูยังสนใจในด้านอาหาร ทั้งการแปรรูป และถนอมอาหาร)ทำไมถึงอยากเข้ามหาลัย? การตอบคำถามแนวนี้ ระวังอย่าให้เป็นการพูดโจมตีหรือพาดพิงมหาลัยอื่นเด็ดขาด (เพราะ มหาลัยนี้เป็นมหาลัยแห่งแรกที่เปิดสอนในหลักสูตรนี้ และที่นี่ก็มีชื่อเสียงเด่นในด้านนี้ รวมถึงมีอุปกรณ์แบะห้องปฏิบัติการที่ครบควรและเอื้ออำนวยแก่การเรียน)มีงานอดิเรกอะไรไหม? แนะนำว่าเวลาตอบให้เลือกเอางานอดิเรกที่เกี่ยวกับหรือเอื้อต่อการเรียนด้วยจะดีมาก แต่ถ้าไม่มีจริงๆ ก็ตอบงานอดิเรกของตัวเองจริงไปเลย แล้วก็อาจมีให้ข้อมูลเพิ่มเติม หรือบอกเหตุผลที่ชอบงานอดิเรกนี้ไปด้วยก็ยิ่งดี (ชอบอ่านหนังสือค่ะ ส่วนใหญ่ก็อ่านหลายแนว แต่ที่ชอบที่สุดจะเป็นแนวปรัชญาหรือจิตวิทยา)บ้านอยู่แถวไหน? เป็นคำถามทั่วไปไม่มีอะไรมาก ก็ตอบความจริงไป กรรมการแค่อยากรู้ว่าจะเดินมาเรียนอย่างไรแค่นั้น ถ้าบ้านอยู่ไกล ก็อาจมีถามเพิ่มว่าไกลนะ เดินทางมาเรียนไหวเหรอประวัติหรือข้อมูลของคณะหรือมหาวิทยาลัย? ถามลองเชิงว่าเราสนใจจะเข้าที่นี้จริงแค่ไหน ก็ควรรู้คร่าวๆ มาบ้าง อย่างเช่นสี สัญลักษณ์ประจำคณะ มหาวิทยาลัย คณบดี อธิการบดีคนปัจจุบันชื่ออะไร เป็นต้น อาจมีถามเพิ่มอย่างรู้จักใครในคณะไหม ก็จำชื่ออาจารย์สักคนไปเผื่อหน่อยก็ดี แล้วก็บอกด้วยว่ารู้จักอย่างไร เช่น รู้จักตอนอาจารย์ไปให้สัมภาษณ์ในรายการนี้ๆ ก็ว่าไป หรือรู้จักตอนมาแนะแนวอย่างงี้คำถามอื่นๆ เพิ่มเติม คิดคำตอบเผื่อๆ เอาไว้ด้วยก็ดีนะอยากประกอบอาชีพอะไร ทำไมถึงอยากทำอาชีพนี้? / มองตัวเองในอีก 5 ปี ข้างหน้าเป็นอย่างไร จบแล้วอยากทำอะไร? (ดูเราว่าได้คิดหรือวางแผนชีวิตเอาไว้แบบไหนบ้าง)คุณสมบัติอะไรที่เหมาะกับอาชีพนี้? (ตอบพวก hard skill กับ soft skill ไปจะดีที่สุด)อะไรที่ทำให้คิดว่าเราแตกต่างจากคนอื่น? (คำถามลองเชิงจิตวิทยา ก็ให้ตอบข้อดีของเราไป แต่อย่าพาดพิงผู้อื่น หรือพูดให้คนอื่นดูไม่ดีเด็ดขาด)คาดหวังอะไรจากคณะนี้? (อยากรู้ว่าเราเลือกคณะนี้ทำไม แล้วจะเก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์อะไรไปมากน้อยแค่ไหน)วิชาที่ชอบที่สุด วิชาไหนยากสุด ทำไม? (ลองเชิงหน่อยๆ ว่าเราจะเรียนไหวไหม อย่างถ้าไม่ชอบคำนวณ แล้วไปเข้าคณะที่มีคำนวณงี้ ทางกรรมการก็อาจมีการเตือนหรือถามสักเล็กหน่อย แต่ถ้ามั่นใจว่าไปไหว ก็ตอบกรรมการไปอย่างมั่นใจว่าไหว)ถ้าสอบสัมภาษณ์ผ่านได้เรียนที่นี้ จะทำอะไรให้คณะบ้าง? (คำถามที่ให้เราแสดงถึงการมีจิตอาสาในตัว ก็ตอบไปก่อน ส่วนจะได้ทำจริงๆ ไหมก็อีกเรื่อง)เคยร่วมกิจกรรมอะไรของโรงเรียนบ้าง? (การถามถึงการมีจิตอาสาของเรา ว่าเราเป็นเด็กที่มีจิตอาสาไหม)ภาษาที่ 3 มีไหม?ถ้าติดที่นี้จริงมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายไหม? (อันนี้แค่ถามสถานะทางการเงินของที่บ้าน ถ้าที่บ้านมีปัญหาด้านการเงิน ทางกรรมการจะได้พูดเสนอเรื่องทุนการศึกษาให้ ไม่มีอะไรมาก)สุดท้ายถ้าเจอคำถามที่ตอบไม่ได้จริงๆ ก็ให้ตอบไปประมาณว่า ในส่วนนี้ยังไม่ได้ศึกษามา อาจยังมีข้อมูลไม่เพียงพอ และก็อันนี้สำหรับใครที่จะเข้าเกี่ยวกับสายสุขภาพหรือแพทย์ควรดูพวกชีวะ แล้วก็ติดตามข่าวสารไว้บ้างนะ อย่างรุ่นพี่เราตอนไปสอบสัมภาษณ์คณะแพทย์ก็ถูกถามเกี่ยวกับโรคระบาดปัจจุบันเกิดจากอะไร มีแนวทางการรักษาอย่างไร หรือให้อธิบายกระบวนการทำงานของเม็ดเลือดขาว เป็นต้น คำถามประเภทปรายเปิด อันนี้พี่เราโดนถามตอนสอบสัมภาษณ์ว่า มีแนวทางการแก้ปัญหาเรื่องการขาดแคลนอาหารอย่างไร ปัญหาเรื่องความเท่าเทียมจะแก้ปัญหาอย่างไรดี พวกนี้เป็นคำถามปรายเปิด ไม่มีถูกผิด ก็ให้ตอบตามความคิดไปเลยพร้อมเหตุผลสนับสนุน แต่ไม่ต้องห่วงคำถามแนวนี้กรรมการไม่ค่อยถามกันนัก แต่ถ้าถามขึ้นมาก็ขอให้ตั้งสติดีๆ แล้วตอบเท่าที่คิดออกตอนนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดเลยคือต้องมีสติ ต่อให้ตื่นเต้นแค่ไหนก็ขอให้ดึงสติตัวเองไว้ให้ได้มากที่สุดเครดิตภาพภาพที่ 1 ถ่ายโดย Anna Shvetsภาพที่ 2 ถ่ายโดย Andrea Piacquadioภาพที่ 3 ถ่ายโดย Alex Greenภาพที่ 4 ถ่ายโดย Tima Miroshnichenkoภาพปกภาพถ่ายโดย Anna Shvetsอัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !