ศปถ.เผยสถิติอุบัติเหตุทางถนน 4 วัน 'เชียงใหม่-สงขลา' อุบัติเหตุสะสมสูงสุด ประสานจังหวัดเพิ่มความเข้มข้น
ศปถ. เผย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ‘เชียงใหม่-สงขลา’ พร้อมประสานจังหวัดเพิ่มความเข้มข้น ลดปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนน
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 2 มกราคม ที่ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) กรมป้องกันและบรนเทาสาธารณภัย นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมกรมคุมประพฤติ ในฐานะประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 แถลงว่า ศปถ.รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 1 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่ 4 ของการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่ปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 713 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 80 ราย ผู้บาดเจ็บ 709 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ 43.06 ขับรถเร็ว ร้อยละ 35.20
นายวิตถวัลย์กล่าวว่า ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 81.74 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง 66.06 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 34.22 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 40.39 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 00.01-04.00 น. ร้อยละ 30.01 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด อยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 21.67 ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,908 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 61,428 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 460,054 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 98,530 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 26,682 ราย ไม่มีใบขับขี่ 25,111 ราย
นายวิตถวัลย์กล่าวว่า โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ สงขลา (28ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพฯ และเชียงราย (จังหวะละ 5 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ สงขลา (30 คน)
“สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 4 วันของการรณรงค์ (29-1 ม.ค. 64 ) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,365 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 267 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 2,362 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 11 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ และสงขลา (จังหวัดละ 87 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา (16 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (92 คน)” นายวิตถวัลย์กล่าว
นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง เปิดเผยว่า จากข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2564 พบว่า ดื่มแล้วขับเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าร้อยละ 43.06 และเวลา 00.01-04.00 น. เป็นช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 30.01 ประกอบกับในวันนี้คาดว่าประชาชนบางส่วนเริ่มทยอยเดินทางกลับ เพื่อหลีกเลี่ยงความหนาแน่นของการจราจรในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของวันหยุดช่วงเทศกาลปีใหม่ ขณะที่บางส่วนยังคงเฉลิมฉลองอยู่ในพื้นที่
นายอรรษิษฐ์กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนได้ประสานจังหวัดเข้มข้น ดูแลทั้งเส้นทางสายหลักและสายรองอย่างต่อเนื่อง เน้นย้ำให้จุดตรวจ จุดสกัด และด่านชุมชนกวดขันวินัยจราจรตาม 10 มาตรการหลัก พร้อมเข้มงวดการเรียกตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่ เพื่อคุมเข้มผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนน
ด้านนายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เปิดเผยว่า จากภาพรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วง 4 วันที่ผ่านมา พบว่า การขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดและการเมาสุรา เป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุทางถนนและเสียชีวิต ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 ได้ประสานจังหวัดกวดขัน การใช้ความเร็วปรับแผนเพิ่มจำนวนจุดตรวจบนเส้นทางสายตรงที่มีระยะทางยาว รวมถึงเพิ่มความถี่ ในการเรียกตรวจให้สอดคล้องกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อประเมินความพร้อมของผู้ขับขี่ โดยเฉพาะพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ เพื่อมอบความปลอดภัยเป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน