รีเซต

สมุทรสาครพบผู้ป่วยโควิดใหม่ 304 ราย ด้านผู้ว่าฯปู ไลฟ์ส่งท้ายห่วงวัคซีนเด็กนักเรียน

สมุทรสาครพบผู้ป่วยโควิดใหม่ 304 ราย ด้านผู้ว่าฯปู ไลฟ์ส่งท้ายห่วงวัคซีนเด็กนักเรียน
มติชน
19 กันยายน 2564 ( 13:16 )
26
สมุทรสาครพบผู้ป่วยโควิดใหม่ 304 ราย ด้านผู้ว่าฯปู ไลฟ์ส่งท้ายห่วงวัคซีนเด็กนักเรียน

 

เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงาน สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด 19 ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร จากการรายงานข้อมูลของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร เมื่อเวลา 24.00 น. ของวันที่ 18 กันยายน 2564 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 304 ราย จำแนกเป็นผู้ติดเชื้อจากค้นหาเชิงรุก 32 ราย และผู้ติดเชื้อที่มาจากการเข้ารับการตรวจในโรงพยาบาลอีก 272 ราย ในจำนวนนี้เป็นคนที่อยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร 214 ราย ที่เหลือเป็นคนนอกจังหวัดอีก 58 ราย ด้านผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมดรวม 103,450 ราย รักษาหายเพิ่ม 148 ราย รวมมีผู้กลับบ้านได้แล้ว 93,481 ราย อยู่ระหว่างการรักษาอีก 9,186 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตรายวันจำนวน 5 ราย รวมมีผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 783ราย

 

 

 

 

สำหรับควันหลงส่งท้ายความห่วงใยจากนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ที่ยังคงมีต่อพี่น้องชาวจังหวัดสมุทรสาครนั้น จากการไลฟ์สดอำลารายการไม่แพ้แน่นอน ก็ได้พูดถึงความเป็นห่วงเกี่ยวกับเรื่องของวัคซีนเด็กนักเรียน และการบูสเตอร์เข็ม 3 ให้กับผู้ที่เคยได้รับวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม ซึ่งจังหวัดสมุทรสาครน่าจะเป็นจังหวัดที่มีผู้ได้รับวัคซีนซิโนแวค 2 เข็มมากที่สุด เพราะเป็นจังหวัดแรกๆ ของประเทศไทยที่มีการฉีดวัคซีนซิโนแวคเพื่อป้องกันและลดความรุนแรงจากการติดเชื้อโควิด 19 นับตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา

 

 

โดยนายวีระศักดิ์ ได้กล่าวไว้ในรายการไม่แพ้แน่นอนช่วงตอนหนึ่งว่า แม้ปัจจุบันจังหวัดสมุทรสาครจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อโดยรวมกว่าแสนราย แต่ที่น่าภูมิใจ คือวันนี้สมุทรสาครไม่ติด 10 อันดับจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดแล้ว จึงน่าภูมิใจอย่างยิ่งว่าเราทำได้อย่างไร แต่คำตอบก็มาจากการที่เราเคร่งครัดในมาตรการผ่อนคลายต่าง ๆ ของทางส่วนกลาง และยังยืดถือมาตรการป้องกันเป็นหลักด้วย ในส่วนของวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ตามเป้าหมาย 70 เปอร์เซ็นต์ของประชากร มีหลายฝ่ายออกมาให้ข้อมูลว่าแม้ฉีดได้ครบตามเป้าหมายก็ยังไม่สามารถเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ได้ เพราะเชื้อมีการกลายพันธุ์และเพิ่มความรุนแรงของโรค ซึ่งก็อยากให้ทุกคนฉีดวัคซีนให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ สำหรับตัวเลขของ สมุทรสาคร จากเป้าหมาย 7 แสนคนนั้น ตอนนี้ฉีดไปได้รวม 6.7 แสนคนแล้ว ซึ่งยังมีคนที่อายุต่ำกว่า 18 ปีลงมายังไม่ได้รับวัคซีนเลย ดังนั้นเป้าหมาย 7 แสนคนไม่น่าจะพอ ต้องขยับให้มากขึ้นกว่าเดิม

 


นายวีระศักดิ์ฯ บอกอีกว่า สิ่งที่ยังน่าเป็นห่วงอยู่ในขณะนี้คือ เรื่องของวัคซีนเด็กนักเรียน หรือเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีลงมา โดยเด็กส่วนใหญ่ในกลุ่มเป้าหมายนี้ยังไม่ได้รับวัคซีนเลย ดังนั้นเราต้องเร่งหาวัคซีนมาเพื่อฉีดให้กับเด็กนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย จะได้เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง และทำให้สามารถเปิดโรงเรียนเพื่อการศึกษาของเด็กทุกคนได้เหมือนเดิม อีกทั้งยังมีเรื่องของวัคซีนบูสเตอร์เข็ม 3 ให้กับพี่น้องชาวจังหวัดสมุทรสาครด้วย ซึ่งกลุ่มเป้าหมายคือ ผู้ที่เคยได้รับวัคซีนซิโนแวคไปแล้ว 2 เข็ม โดยแต่เดิมทางจังหวัดสมุทรสาครเคยตั้งเป้าจะเริ่มวันที่ 1 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป แต่เมื่อกระทรวงสาธารณสุขประกาศให้วันที่ 24 กันยายน เริ่มณรงค์ฉีดวัคซีนบูสเตอร์เข็ม 3 พร้อมกันทั่วประเทศเนื่องในวันมหิดลนั้น ทางจังหวัดสมุทรสาครก็ขอให้เดินหน้าเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องไปเลย เพื่อที่จะได้เป็นการฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่มเป้าหมายได้อย่างครอบคลุมควบคู่ไปกับการฉีดวัคซีนเข็ม 1 เข็ม 2 ของรัฐบาล และวัคซีนซิโนฟาร์มของ อบจ.สมุทรสาคร

 

 

นายวีระศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายในรายการด้วยว่า สำหรับการฉีดวัคซีนเฉพาะคนไทยนั้น เข็มที่ 1 ประมาณ 6 แสนคน และเข็มที่ 2 ประมาณ 2.8 แสนคน ส่วนแรงงานต่างชาติ ประมาณ 2.5 หมื่นคน จากตัวเลขทั้งหมด 2.7 แสนคน วันนี้ได้เปิด Walk-in ฉีดวัคซีนให้คนไทย และเปิดให้แรงงานต่างชาติในโรงงานที่ทำ FAI เข้ามาฉีดวัคซีนตามที่นัดหมายกับโรงพยาบาลแต่ละแห่ง ตรงนี้เป็นส่วนหนึ่งที่คิดว่า ตอนนี้เป็นช่วงนาทีทองที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพื่อทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ขึ้นให้ได้ จังหวัดสมุทรสาครจะฉีดวัคซีนให้ครบแค่ 70 เปอร์เซ็นต์คงไม่ได้แล้ว ต้องทำให้ได้มากกว่านั้นต้องไปให้ถึง 80 – 90 เปอร์เซ็นต์ หรือถ้าให้ดีที่สุดคือ ต้องครบ 100 เปอร์เซ็นต์ในประชากรกลุ่มเป้าหมายนั่นเอง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง