เจ้าอาวาสแจง เหตุไม่หยุดสวด ชื่นชมแม่ตร. มีคุณธรรม-ทวงสิทธิ์เมียหลวง
เจ้าอาวาสวัดท่าชัย เผยเหตุไม่หยุดสวด ตั้งใจเจริญพระพุทธมนต์ให้จบบท ไม่อยากให้ล่ม ชี้แม่ของตำรวจทำถูกแล้ว ที่กล้าทวงสิทธิ์ให้ลูกสะใภ้
จากกรณีที่ชาวเน็ตได้แชร์คลิปหญิงสาวคนหนึ่งถือทะเบียนสมรสบุกงานแต่งของสามีตนเอง ที่ไปแต่งงานใหม่โดยที่ทั้งสองคนยังไม่ได้หย่าขาดกัน ซึ่งล่าสุดฝ่ายภรรยาหลวง ได้ปรึกษาทนายเพื่อยื่นฟ้องหญิงที่แต่งงานซ้อนแล้ว โดยพบว่า ชาวเน็ตยังแห่แชร์เรื่องราวของแม่ผัว ที่บุกเข้าไปต่อว่าลูกชายกลางงานแต่ง แถมยังตบศีรษะด้วยความโมโหต่อหน้าพระอีกด้วย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
- อ่าน พระมหาไพรวัลย์ ถาม หลวงพ่อทำไมไม่ห้าม ปมแม่บุกตบลูก แต่งงานซ้อน
- อ่าน แม่ผัวแห่งชาติ เปิดใจ ผิดหวังลูกชาย ช่วยสะใภ้ฟ้องเจ้าสาวเตือนแล้วอย่ายุ่ง
- อ่าน ตั้งกรรมการสอบ ตร.แต่งซ้อน พ่อเผยสาวโพสต์ยั่ว จะเอาชนะเมียหลวงให้ได้
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2564 ที่วัดท่าชัย ต.ท่าชัย อ.เมือง จ.ชัยนาท พระครูสมุห์พงศ์ยศ พลญาโณ เจ้าอาวาสวัดท่าชัย เปิดเผยว่า ระหว่างที่กำลังเจริญพระพุทธมนต์ ได้ตั้งใจเจริญพระพุทธมนต์ สำรวมจิตให้เป็นสมาธิมากที่สุดเพื่อให้เกิดพลังแก่พุทธมนต์
ในระหว่างที่กำลังหลับตาสวดอยู่นั้นจิตเริ่มเป็นสมาธิ แต่ก็มีเสียงมากระทบแว่ว ๆ ที่หูซึ่งทีแรกคิดว่าเด็กเถียงกัน สักพักเสียงเริ่มหนักขึ้น จึงลืมตาขึ้นมาก็ตกใจว่ามีอะไรกัน ระหว่างนั้นได้นั่งพิจารณาฟังอยู่พักหนึ่งจนทราบว่าแม่ทางฝ่ายเจ้าบ่าวมาทวงสิทธิ์ของลูกสะใภ้
ซึ่งหน้าที่ในฐานะเราเป็นสงฆ์ จะหยุดสวดตอนนั้นเลยจะถือว่าล่ม เลยตั้งสติสวดมนต์บทนั้นให้จบลงไป และจากในภาพที่เห็น ตัวหลวงพ่อเองก็ได้โบกมือไล่ให้ออกไปข้างนอกเพื่อให้ออกไปเจรจาพูดคุยกันซึ่งทางแม่ของเจ้าบ่าวเห็นคงได้สติแล้วจึงออกไปข้างนอก
พระครูสมุห์พงศ์ยศ กล่าวต่อว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าทางแม่ของเจ้าบ่าวและภรรยาหลวงนั้นทำถูกต้องแล้ว ในหลักของศีลธรรม คุณธรรม หากอาตมาเป็นคนฝ่ายของแม่เจ้าบ่าว ฝ่ายภรรยาหลวง อาตมาก็คงต้องทำแบบนั้นเช่นกัน
ด้วยหลักของศีลธรรม คุณธรรม และความถูกต้อง ต้องชื่นชมแม่ของฝ่ายเจ้าบ่าวที่มีคุณธรรม ความเที่ยงตรงเพราะส่วนใหญ่ที่พบเห็นพ่อแม่จะรักลูกเข้าข้างลูกของตัวเอง ทั้งที่รู้ว่าลูกนั้นกระทำผิด แต่ก็อยากจะปกป้อง แต่เหตุการณ์นี้ กลับเป็นฝ่ายพาภรรยาหลวง และหลาน มาทวงสิทธิ์คืนจากลูกชายของตัวเอง
พระครูสมุห์พงศ์ยศ กล่าวต่อว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดเรื่องขึ้น เพราะตั้งแต่บวชเรียนมา ก็ 16 พรรษาแล้ว ถูกนิมนต์ไปงานแต่งงานมาเป็นร้อย ๆ งาน ก็พึ่งจะเจอเหตุนี้เป็นครั้งแรก
สุดท้ายของฝากถึงญาติโยม ใครนับถือศาสนาพุทธศีล 5 คือพื้นฐานปกติของมนุษย์ที่เป็นพุทธบริษัทเราควรกระทำอะไรไปก็แล้วแต่ควรคำนึงถึงศีลธรรม ซึ่งเหตุการณ์นี้ถือเป็นการผิดศีลข้อที่ 3 ซึ่งชาวพุทธเราไม่ควรกระทำ เพราะจะทำให้เกิดความทุกข์ เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาอีกมากมาย ดังนั้นก่อนที่จะลงมือทำอะไรก็ให้มีสติ คิดก่อนลงมือทำ ไม่ใช่ทำเพราะกิเลสตัณหา ก็ของฝากญาติโยมเอาไว้