Inditex เจอพิษ "ภาษีทรัมป์" ฉุดยอดขาย "Zara" l การตลาดเงินล้าน

ความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่พุ่งสูงและเศรษฐกิจที่ชะลอตัวซึ่งเกิดจากการกำหนดภาษีศุลกากรที่ไม่แน่นอนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ทำให้ความกระตือรือร้นในการจับจ่ายซื้อของในสหรัฐฯ และตลาดขนาดใหญ่อื่น ๆ ลดลงไป

ตัวเลขที่ออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้ ส่งผลให้หุ้นของ Inditex ร่วงลงร้อยละ 4.6 ในวันพุธ และสะท้อนให้เห็นผลกระทบของความตึงเครียดด้านการค้าโลกต่ออุตสาหกรรมฟาสต์แฟชั่นก่อนการประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 2

กอร์ก้า การ์เซีย ทาเปีย หัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ของ Inditex ในสเปนกล่าวในการพบปะนักลงทุนว่า สภาพแวดล้อมด้านภาษีศุลกากรนั้นคาดเดาได้ยาก แต่ Inditex ก็อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวได้ ด้วยสถานะระดับโลก บริษัทจึงมีประสบการณ์มากมายในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาในการจัดการการเปลี่ยนแปลงของระบบภาษีศุลกากร พร้อมเสริมว่าช่องทางการขายและ การจัดหาวัตถุดิบที่หลากหลาย และการให้ความสำคัญกับการจัดหาแหล่งซื้อโดยตรง ของ Inditex ทำให้บริษัทมีความยืดหยุ่น และช่วยได้มากเมื่อต้องเผชิญกับภาษีของสหรัฐฯ

Inditex รายงานว่ายอดขายในช่วงฤดูร้อนเริ่มต้นได้ช้ากว่าปกติ โดยรายได้ที่ปรับตามสกุลเงินเติบโตขึ้นร้อยละ 6 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมถึง 9 มิถุนายน เมื่อเทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 7.3 และลดลงจากการเติบโตร้อยละ 12 ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

รายได้ในไตรมาสแรกที่สิ้นสุดวันที่ 30 เมษายนอยู่ที่ 8,270 ล้านยูโร ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ของ LSEG คาดการณ์ไว้โดยเฉลี่ยที่ 8,360 ล้านยูโร 

โดยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 ในไตรมาสนี้ เป็น 1,300 ล้านยูโร และบริษัทคาดว่าอัตรากำไรจะเติบโตคงที่ในปี 2568 ด้วยผลการดำเนินงานระดับ มั่นคง

Inditex ไม่ได้ให้คำอธิบายสำหรับการเติบโตของยอดขายที่อ่อนแอ ในแถลงการณ์ บริษัทเรียกผลการดำเนินงานว่ามั่นคง หลังจากที่ระบุว่า แข็งแกร่งมาก ในการประกาศผลประกอบการครั้งก่อนในเดือนมีนาคม เมื่อยอดขายประจำปีเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.5

วิลเลี่ยม วู้ดส์ นักวิเคราะห์ของ เบิร์นสไตน์ กล่าวว่าเราจำเป็นต้องถอยกลับมาหนึ่งก้าว และมองว่าการเติบโตในระดับเลขตัวเดียวกลาง ๆ นั้นถือว่าค่อนข้างดีแล้วในสภาพแวดล้อมแบบนี้

คู่แข่งของ Inditex ก็ประสบกับช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ซบเซาเช่นกัน ยอดขายของ H&M ประสบปัญหา โดยเติบโตเพียงร้อยละ 1 ในเดือนมีนาคม เทียบกับร้อยละ 4 ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน รายได้เดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์เติบโตร้อยละ 2 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดย H&M จะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่สองในวันที่ 26 มิถุนายน

นักวิเคราะห์ของ Bernstein กล่าวว่า ฝนที่ตกหนักในตลาดบ้านเกิดของ Inditex อย่างสเปน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 15 ของยอดขายทั่วโลก น่าจะส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทเช่นกัน หลังสเปนประสบกับฤดูใบไม้ผลิที่ฝนตกชุกที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ โดยกรุงมาดริดมีปริมาณน้ำฝนมากกว่าปกติถึง 3 เท่าในฤดูกาลนี้

Inditex ระบุด้วยว่าความผันผวนของตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจะส่งผลกระทบมากกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ โดยคาดการณ์ว่ายอดขายในปี 2568 จะได้รับผลกระทบเชิงลบร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับร้อยละ 1 ที่คาดการณ์ไว้ในเดือนมีนาคม

ออสการ์ การ์เซีย มาเซราส ซีอีโอของ Inditex กำลังทดสอบแบรนด์เลฟตี้ส์ (Lefties) ราคาย่อมเยา ที่เน้นกลุ่มคน Gen Z ในตลาดอื่น ๆ นอกจากสเปน โปรตุเกส และเม็กซิโก นอกจากนี้ Inditex ยังวางแผนที่จะเปิดร้านใหม่สำหรับแบรนด์ Oysho ในเนเธอร์แลนด์อีกด้วย