เราจะเห็นตัวละครผู้ชายหลายๆคนในประเทศเอเชียหลายๆประเทศเช่น ประเทศญี่ปุ่น ประเทศเกาหลีใต้ ประเทศจีน หรือแม้แต่ประเทศไทย ใช้ความรุนแรงเป็นปกติ เช่น การตะคอก การตะโกน การทำร้ายร่างกายผู้หญิง การข่มขืนผู้หญิง หรือแม้แต่การขืนใจและบังคับให้ผู้หญิงจูบด้วยโดยไม่ได้ขออนุญาตหรือความยินยอมใจจากผู้หญิง แต่ทุกอย่างคือเรื่องที่ให้อภัยได้ เมื่อผู้ชายรักเรา เมื่อผู้ชายมีปมน่าเศร้าในวัยเด็กที่ทุกคนต้องอยากให้อภัยหรือฉากที่ผู้ชายทุบตีทำร้ายข้าวของเมื่อควบคุมอารมณ์ไม่ได้ และไม่เคยพูดขอโทษเลย แค่จูงมือเราไปนั้นไปนี้ หรือลากเราไปนั้นไปนี้ และทำเหมือนนี้คือเรื่องหวานซึ้งที่โรแมนติก หรือแม้แต่การที่ผู้ชายต่อยผู้ชายด้วยกันเองและไม่มีกฏหมายข้อไหนมาคุ้มครองเหยื่อที่ถูกทำร้ายร่างกาย ซึ่งสิ่งนี้คงเป็นสิ่งที่ถูกพิจารณาว่าเป็นเรื่องตลกมากเลยในวัฒนธรรมตะวันตกที่ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมของมนุษย์และการให้เกียรติกันและการที่ผู้ชายในหนังปกป้องผู้หญิงมากเกินไปจนเรียกได้ว่าก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวเพราะการเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเด็กๆ เช่น การที่เพื่อนผู้หญิงไปเดท เพื่อนผู้ชายสอดแนมเพื่อนผู้หญิง ด้วยการโทรไปหาเธอตอนเดท แอบมองเธอกับคู่เดทของเธอ และแม้แต่ตอนที่เพื่อนผู้หญิงมีปัญหากับคู่เดทของตัวเอง พระเอกก็เข้าไปหาที่บ้านของคู่เดทผู้หญิงโดยไม่มีการนัดล่วงหน้า ไม่มีขอการอนุญาตในการเจอ แต่กลับบอกให้คู่เดทเลิกกับผู้หญิงทันทีที่เขาเปิดประตูหรือการที่ผู้ชาย ปากเสียและทำไม่ดีกับผู้หญิงที่ตัวเองสนใจ เพื่อให้เธอหันมามองเขาในฐานะผู้ชายคนหนึ่งที่เธอพึ่งพาได้ หรือกล่าวโทษว่าการที่เขาเป็นแบบนี้ก็เป็นความผิดของเธอ และทำให้ผู้หญิงสงสัยและมานั่งหาคำตอบว่ามันเป็นความผิดของเธอจริงๆงั้นเหรอ โดยที่เขาไม่เคยพูดคำว่าขอโทษหรือยอมรับความผิดของตัวเองแม้แต่สักเรื่องที่ตัวเองทำเลย ซึ่งสิ่งนี้นับว่าเป็นสิ่งที่น่ารำคาญ ปวดหัว และทำให้คนดูรู้สึก clingy มากๆในหนังโรแมนติกคอเมดี้และผู้ชายในหนังจะทำทุกอย่างเพื่อดึงดูดความสนใจของเราเพราะว่า Boy would be Boy และเราจะเห็นฉากความรุนแรงต่างๆ ผ่านสีหน้า น้ำเสียง ท่าทางและการกระทำที่คุกคามและควบคุมผู้หญิง เช่น การแอบดูโทรศัพท์มือถือ การเช็คโซเชียลมีเดีย การสะกดรอยตาม การมาหาที่บ้านโดยไม่ได้ขออนุญาต การทำลายข้าวของ การขับรถชนคนข้างหน้า การกล่าวโทษและทำให้ผู้หญิงอับอาย ความรุนแรงที่ผู้ชายแสดงออกเหล่านี้จากวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่คือเรื่องที่ปกติของหนังและซีรีส์เอเชียในมุมมองของผู้เขียนไม่ว่าจะเป็น Toxic Masculinity (ผู้ชายเป็นใหญ่) หรือ Toxic Feministy (ผู้หญิงเป็นใหญ่) ก็เป็นความรุนแรงที่ทำให้ชีวิตมีปัญหาทั้งนั้น เพราะมันมีพฤติกรรม abusive และแนวโน้มที่จะหาทางออกด้วยความรุนแรงหรือ violence เข้ามาเกี่ยวข้องสูง และมีแนวโน้มที่จะ victim blaming and shaming ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อเพศไหนทั้งนั่นที่โดน ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง มีแบบสำรวจจากประเทศในแถบเอเชียว่าผู้ชายมากกว่า 74.4% เคยลงไม้ลงมือทำร้ายร่างกายของผู้หญิงและแฟนของตัวเองจริงๆ เรื่องนี้จึงเป็นปัญหาใหญ่ที่สื่อควรให้ความสำคัญและรับผิดชอบในการผลิตหนังและซีรีส์หรือสื่อบันเทิงมากกว่านี้ ขอขอบคุณเครดิตรูปภาพ หน้าปก / Canvaรูปภาพประกอบที่ 1 / 2 / 3 / 4 โดย Alexas_Fotos / Pixabayอัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !