มีหลักฐานการค้นคว้าอย่างชัดเจนว่า บรรพบุรุษของแมวถือกำเนิดขึ้นกว่า 50 ล้านปีมาแล้ว เราเข้าใจกันดีว่าแมวคือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมท่ไม่กินเนื้อสัตว์ แต่จริง ๆ แล้วมันก็กินเนื้อเป็นอาหารเช่นกัน เพียงแต่มันมีวิวัฒนาการมาเรื่อย ๆ จนเริ่มมีลักษณะคล้ายแมวในปัจจุบัน แต่เมื่อ 10 ล้านปีก่อน แมวจะมีขนาดและรูปร่างใกล้เคียงกับแมวป่าที่มีเขี้ยวขนาดใหญ่ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ Dinistis ต่อมาแมวก็เริ่มมีวิวัฒนาการต่อไปเรื่อย ๆ จนมีลักษณะที่กลายมาเป็นแมวบ้านในยุคปัจจุบัน ซึ่งต้นกำเนิดของแมวบ้านนั้นก็มาจาก "เสือไซบีเรียน" นั่นเองถ้าจะบอกว่าแมวขนสั้นหน้ายาวมีจมูกคือแมวพันธ์ทั้งหมด จริง ๆ ก็ไม่ถูกซะทั้งหมด เพราะยุคเริ่มแรกของแมวขนสั้นนั้นเริ่มที่อียิปต์ ซึ่งทุกคนก็น่าจะรู้ว่าชาวอิยิปต์นั้นนับถือแมว และก็เป็นแมวที่มีขนสั้นซะส่วนใหญ่ ต่อมาก็มาเป็นยุโรป ยุคกลาง ที่มีแมวเป็นสัตว์เลี้ยงของแม่มด และมาที่จีนและญี่ปุ่น ในลักษณะของแมวกวัก มาเนกิเนะโกะ ที่กล่าวมานั้นส่วนใหญ่ก็ขนสั้นหมดเลย1. ถิ่นฐาน และจุดเริ่มต้นที่แตกต่างแมวไทย เริ่มโด่งดังจนเป็นที่รู้จักตอนไหน? เริ่มต้นจากที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือรัชการที่ 5 ทรงพระราชทาน แมววิเชียรมาศแต้มสีครั่ง ให้กับ Mr. Owen Gould ซึ่งเป็นกงศุลอังกฤษประจำกรุงเทพมหานคร เมื่อปี พ.ศ. 2427 ต่อมาแมวไทยคู่นี้ได้ถูกส่งเข้าประกวดในงานแมวที่ The Crystal Palace ณ ประเทศอังกฤษ และได้รับรางวัลชนะเลิศในการประกวด ทำให้ชาวอังกฤษเริ่มสนใจเลี้ยงแมวไทยมากขึ้นมาถึงปัจุบัน เราจะเห็นได้ว่าราสามารถพบเจอแมวขนสั้นหน้าไทยได้ในหลาย ๆ ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นประเทศในแถบเอเชีย อเมริกา หรือแม้แต่ยุโปป สาเหตุก็เพราะ หลังจากการประกวด เมื่อปี พ.ศ 2427 นั้นแมวไทยก็เริ่มมีชื่อเสียง เพราะพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.5) ได้พระราชทานแมวไทย ให้กับประเทศเพื่อนบ้าน รวมไปถึงประเทศอื่น ๆ ทำไมแมวไทยของเรากระจายตัวไปทั่วทุกมุมโลกนั่นเองCr. ข้อมูลเผ่าพันธ์ของแมว จาก https://sites.google.com/site/61wonderfulofcats2556/maew-ma-cak-hinแมวพันธุ์ไทย ที่นิยมเลี้ยง เช่น ขาวมณี, วิเชียรมาศ, สีสวาด, ศุภลักษณ์, โกญจา, แซมเสวตร เป็นต้นแมวต่างประเทศมีแค่แมวเปอร์เซียหรอ?จริง ๆ แล้วพันธ์ต่างประเทศมีหลากหลายพันธ์ เช่น แมวอเมริกัน ชอร์ตแฮร์ ตัวใหญ่ อกและขาใหญ่ หูกลมมนแมวสก็อตติช โฟลด์ ใบหน้าคล้ายนกฮูก ใบหูพับ แมวเอ็กโซติก พันธ์ผสมระหว่างอเมริกาและเปอร์เซีย หน้าจะบูด จมูกจะหัก แต่น่ารักไม่แพ้ใครแมวเบงกอล จะคล้ายลูกเสือดาว เพราะเกิดจากการผสมพันธ์ของแมวดาวและแมวบ้าน พันธ์อียิปต์เชียนมัวร์ แต่ที่นิยมเลี้ยงในไทยมาก ๆ ก็เห็นคงจะเป็น แมวเปอร์เซีย ซึ่งก็มีถิ่นกำเนิดอยู่แถบเปอร์เซีย ตะวันออกกลาง หรือก็คืออิหร่านกับตุรกีในปัจจุบัน หัวกลมแก้มเต็ม ขนยาวฟูพอง และจมูกหัก2. ลักษณะการกิน / อาหารแมวต่างประเทศต้องการ อาหารเม็ดที่ให้พลังงานและสารอาหารที่ครบถ้วนในแต่ละวัน ส่วนใหญ่จะนิยมให้ทั้งอาหารเม็ดและอาหารเปียก แต่เเมวไทยจะชอบกินปลาทูเป็นชีวิตจิตใจกันแทบทุกตัว แต่สิ่งที่เข้าใจกันผิด ๆ มา คือ แมวสามารถกินก้างได้ ก็เลยขยำข้าวกับก้างไปอย่างชะล่าใจ แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่เลย เพราะหากไปเจอก้างแข็ง ๆ หรือใหญ่มาก ๆ ก็อาจจะติดคอ หรือ ทะลุหลอดอาหารของแมวได้ แต่สิ่งที่แมว 2 ประเภทนี้เหมือนกันเลยก็คือ แมวชอบอาหารที่มี "กลิ่น" หอม หรือกลิ่นที่โดดเด่นเตะจมูก นั่นคือสาเหตุที่ทั้งอาหารเม็ดและอาหารเปียก หรือแม้แต่ขนมแมวเลียนั้นจะมีกลิ่นที่หอมมาก ๆ นั่นเอง3. ลักษณะนิสัยนิสัยแมวต่างประเทศ จะค่อนข้างช่างประจบประแจง เข้าหาผู้คน อ่อนโยน ร่าเริง และซุกซน ซึ่งจะต่างกับแมวไทย ที่ค่อนข้างจะรักอิสระ อยากอยู่บ้านก็จะอยู่ อยู่เงียบ ๆ ไม่ค่อยเล่น วันไหนไม่อยากเล่นต่อให้เดินไปเกาคางก็ไม่สนใจ นอนนิ่งไม่ไหวติง วันไหนอยากเที่ยวเตร่ก็หายไปทั้งวันเลย อยากกลับก็จะกลับมาเอง 4. การเลี้ยงดูแมวไทยอยู่ที่ไหนก็ได้ ร้อนหรือหนาวก็ไม่มีปัญหา จะดูแลอย่างใกล้ชิดหรือปล่อยอยู่บ้านลำพังก็สบาย ๆ แต่แมวต่างประเทศส่วนใหญ่จะคุ้นชินกับอากาศที่เย็นสบาย อาจจะยกเว้นแมวเบงกอล และยิ่งเป็นเเมวเปอร์เซียแล้วต้องดูแลเป็นพิเศษ ไม่ควรปล่อยให้อยู่ในที่ที่มีอากาศร้อนเกินไป ด้วยความขนยาวมากและต้นกำเนิดไม่ใช่ในเขตร้อน จึงทำให้ไม่สามารถทนความร้อนได้เท่ากับแมวพันธุ์พื้นบ้านของไทย อีกทั้งแม้จะมีความอินดี้บ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็จะอดมองหาคนให้อยู่ด้วยไม่ได้ อาจจะไม่ต้องนั่งใกล้แต่รู้สึกอุ่นใจที่รู้ว่าในพื้นที่นี้ยังมีเจ้าของอยู่ด้วยนะ ซึ่งจะแตกต่างจากแมวไทยที่คนจะอยู่หรือไม่ก็อยู่ได้ไม่สนใจใคร5. ราคาแมวไทยถึงแม้จะเป็นไทยแท้ก็ยังราคาไม่สูงเท่าเปอร์เซีย อาจเป็นเพราะเราคนไทยอยู่ที่ไทย แมวต่างประเทศจึงแพงมาก เช่นเดียวกับที่ต่างประเทศ ในบ้านเขาแมวไทยแท้ ๆ ก็ราคาสูงมาก ๆ เช่นกัน เปอร์เซียที่คนนิยมเลี้ยงก็คือ พันธ์ุเกรดเพ็ด (PET Quality) ที่จมูกยื่นออกมาบ้าง หน้าไม่บี้ ออกแนวหน้าตุ๊กตา ซึ่งราคาจะประมาณ 5,000-35,000 บาท ราคาจะขึ้นอยู่กับเกรดของสายพันธุ์ ยิ่งลักษณะสวยมาก แท้มาก ๆ ก็จะราคาสูงมาก นอกจากนี้ยังมีราคานำเขา คือนำเข้ามาจากต่างประเทศเลย ก็จะราคามากกว่า 35,000 บาท ไปจนถึงหลักแสนนั้นเอง หวังว่าคนที่กำลังจะคิดเลี้ยงแมว ไม่รู้จะเลี้ยงแมวพันธุ์ไหนดีคงจะได้ข้อสรุปตัดสินใจสักทีนะคะ แต่ไม่ว่าจะพันธุ์ไหน ต้นกำเนิดชาติใด หากคิดจะเลี้ยงแล้วก็ขอให้เลี้ยงด้วยความรักตลอดไป อย่ารัก ๆ ทิ้ง ๆ ขอให้คิดดี ๆ ก่อนว่าพร้อมในการเลี้ยงพวกเขาจริง ๆ ใช่ไหม จะได้ไม่เกิดเรื่องเศร้าใจทิ้งน้องตามถนน และถ้าหากชอบบทความนี้ อย่าลืมแชร์ออกไปนะคะ หรืออยากจะติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ของเรา ก็สามารถติดตามได้เพจเฟสบุ๊ค แบกกล้องชิวเที่ยวไปเรื่อย ได้เลยค่ะ หรือช่องทางยูทูป ทางชาแนล หญิงเถื่อน Traveler ก็ได้เช่นกันจ้าเขียนและถ่ายภาพโดย : หญิงเถื่อน