รีเซต

กลุ่มเอไอเอครึ่งปีแรกสุดแกร่ง

กลุ่มเอไอเอครึ่งปีแรกสุดแกร่ง
ทันหุ้น
19 สิงหาคม 2564 ( 11:39 )
37

 

ทันหุ้น-กลุ่มบริษัทเอไอเอ ครึ่งแรกเติบโตต่อเนื่องท่ามกลางวิกฤติโควิด สาขาในต่างประเทศรักษาการเติบโตได้ที่ตัวเลขสองหลัก ส่งผลให้มูลค่าธุรกิจใหม่ของกลุ่มโต 22% เป็นเงิน1,814 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่เอไอเอ ประเทศจีน ยังทำผลงานได้ดีต่อเนื่อง หลังเปิดตัวสาขาใหม่ที่ เสฉวน และเตรียมเปิดอีกแห่งในหูเป่ย ส่วนเอไอเอประเทศไทย แผนยูนิต ลิงค์ และแผนคุ้มครองหนุนVONB โต 52%

 

นายหลี่ หยวน ชยอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า ผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกนั้น เอไอเอมีการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ที่แข็งแกร่งมากถึงร้อยละ 22 ที่ 1,814 ล้านเหรียญสหรัฐ และเพิ่มขึ้นสูงกว่าช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โรคระบาดในครึ่งปีแรกของปี 2563ยกเว้นฮ่องกงที่ข้อจำกัดด้านการเดินทางยังคงส่งผลกระทบต่อยอดขายจากนักท่องเที่ยวชาวจีนแผ่นดินใหญ่

 

การเติบโตของVONBช่วยสนับสนุนการเติบโตในส่วนของกำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษี (OPAT) เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 เป็น 3,182 ล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่าของเงินกองทุนส่วนเกินอยู่ที่ 17.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 4.4 พันล้านดอลลาร์ จากวันที่ 31 ธันวาคม 2563 โดยมีมูลค่าหุ้นตามมูลค่าธุรกิจ (EV Equity) คิดเป็น 70.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 จากวันที่ 31 ธันวาคม 2563และส่วนของผู้ถือหุ้นที่จัดสรรไว้เพิ่มขึ้นถึงระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

 

สถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก สะท้อนให้เห็นได้จากการเพิ่มขึ้นของเงินกองทุนส่วนเกิน และ Group LCSM ด้วยอัตราส่วนร้อยละ 412 ผลประกอบการที่แข็งแกร่งทำให้คณะกรรมการประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.6 เป็น 38.00 เซนต์ฮ่องกงต่อหุ้น

 

เอไอเอ ประเทศจีน ยังคงเป็นประเทศที่ส่งมอบมูลค่าธุรกิจใหม่ให้แก่กลุ่มบริษัทเป็นมูลค่าที่มากที่สุด และยังมีการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่อย่างแข็งแกร่งถึงร้อยละ 20 ด้วยการเปรียบเทียบบนพื้นฐานที่เหมือนกัน นอกจากนี้ เอไอเอ ยังมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในการขยายตลาดสู่ภูมิภาคในประเทศจีน แผ่นดินใหญ่ ด้วยการเปิดตัวสาขาใหม่ในมณฑลเสฉวน และการได้รับการอนุมัติจากทางการในการเตรียมเปิดสาขาใหม่ในมณฑลหูเป่ย

 

แม้ว่ามาตรการการเดินทางยังคงจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศจีน แผ่นดินใหญ่ ธุรกิจของเราในฮ่องกงมีการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่อยู่ที่ร้อยละ 16 ซึ่งเป็นสัดส่วนจากลูกค้าภายในประเทศ โดยเป็นผลมาจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์อย่างตรงเป้าหมาย รวมถึงการเติบโตของผลิตภัณฑ์ใหม่ สำหรับสาขาในมาเก๊า ยอดขายจากนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน แผ่นดินใหญ่ ยังคงมีสัดส่วนคิดเป็น 1 ใน 3 ของจำนวนเบี้ยประกันภัยรับปีแรกทั้งหมดของครึ่งปีแรกประจำปี 2564อันเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของแผนการเยือนรายบุคคล (Individual Visit Scheme)

 

ธุรกิจในประเทศไทย ประสบความสำเร็จอย่างมาก ด้วยการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่สูงถึงร้อยละ 52 เปรียบเทียบกับในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 ซึ่งเป็นผลมาจากความสำเร็จในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ผสมผสานในด้านความคุ้มครอง และผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน หรือยูนิต ลิงค์

 

สำหรับมูลค่าธุรกิจใหม่ของ เอไอเอ สิงคโปร์ สูงขึ้นร้อยละ 32เมื่อเทียบปีต่อปี แม้จะมีมาตรการกักตัวที่เข้มข้นในเดือนพฤษภาคม นอกจากนี้ เอไอเอ มาเลเซีย มูลค่าธุรกิจใหม่เติบโตได้ร้อยละ 89ในขณะที่ยังคงเห็นผลกระทบของการแพร่ระบาดในหลายตลาด แต่ในตลาดอื่นๆ ของเอไอเอยังคงมีการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่เป็นตัวเลขสองหลัก

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง