บริษัททั่วโลกปลดคนรับ ศก.แผ่ว-กระแส AI

บริษัทรายใหญ่หลายแห่งทั่วโลกประกาศปรับลดจำนวนพนักงานลงเพื่อควบคุมรายจ่าย ท่ามกลางความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน ประกอบกับการที่บริษัทเทคโนโลยีให้ความสำคัญกับ AI เริ่มนำระบบอัตโนมัติมาใช้งานมากขึ้น

“รอยเตอร์ส” ระบุว่า บริษัทอเมริกันประกาศลดพนักงานมากกว่า 25,000 ตำแหน่งในเดือนตุลาคม ซึ่งไม่นับรวมการประกาศปลดพนักงาน 48,000 คน ของบริษัทจัดส่งพัสดุ UPS ที่เพิ่งเกิดขึ้น ส่วนในยุโรปมีบริษัทลดพนักงานรวมกันราว 20,000 คน รวมถึง “เนสท์เล่” ที่มีแผนปลดพนักงานทั่วโลกมากถึง 16,000 ตำแหน่ง

ขณะนี้สหรัฐฯ ยังไม่ได้เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานล่าสุด เนื่องจากเผชิญกับการปิดบริการของรัฐบาลกลาง หรือชัตดาวน์ ที่ยาวนานเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ประเทศ นักลงทุนจึงให้ความสนใจกับประกาศเลิกจ้างของบริษัทต่าง ๆ แม้ว่าการลดพนักงานในช่วงปลายปีจะเป็นเรื่องปกติ และอาจใช้เวลานานในการดำเนินการ

“อดัม ซาร์ฮาน” CEO ของ “ฟิฟตี้ พาร์ก อินเวสต์เมนต์” ระบุว่า นักลงทุนกำลังตั้งคำถามว่านี่หมายถึงอะไร ซึ่งการจ้างงานครั้งใหญ่ของ “แอมะซอน” สะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังชะลอตัว ไม่ได้แข็งแกร่งขึ้น เพราะไม่มีบริษัทใดลดคนจำนวนมากในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจดี

“แอมะซอน” เตรียมลดจำนวนพนักงานองค์กรราว 14,000 ตำแหน่ง หลังจากมีกระแสข่าวว่าอาจปลดพนักงานมากถึง 30,000 ตำแหน่ง ส่วนห้าง “ทาร์เก็ต” รวมถึง “พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล” (P&G) และบริษัทอื่น ๆ ก็มีแผนลดจำนวนพนักงานหลายพันคน

สาเหตุของการลดพนักงานของหลายบริษัทมาจากการปรับโครงสร้างเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ แต่สำหรับ “แอมะซอน” และ “ทาร์เก็ต” ที่พุ่งเป้าพนักงานออฟฟิศ สะท้อนถึงความเสี่ยงที่มาจากระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI 

“แบงก์ ออฟ อเมริกา” ระบุว่า อาชีพที่น่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ งานระดับเริ่มต้นที่จะถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติได้