ทองคำพุ่งสูงสุดรอบ 8 ปี ‘แม่ทองสุก’ ย้ำมีโอกาสไปต่อสูง เชื่อเห็นราคาแตะ 27,500 บาท

นายณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประธานบริหารกลุ่มบริษัทในเครือ เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก เปิดเผยว่า ขณะนี้ราคาทองคำปรับขึ้นทำระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 8 ปี โดยราคาทองคำแท่งรับซื้ออยู่ที่ 26,400 บาท ขายออกที่ 26,600 บาท ส่วนราคาทองรูปพรรณขายออกที่ 27,100 บาท รับซื้อที่ 25,923.60 บาท และราคาทองคำสปอตอยู่ที่ 1,750 เหรียญต่อออนซ์ ซึ่งสามารถทะลุแนวต้านสำคัญที่ 1,745 เหรียญต่อออนซ์ได้แล้ว จึงประเมินว่ามีโอกาสสูงที่ราคาทองคำจะยังไปต่อได้ โดยให้ระดับสูงสุดอยู่ที่ 27,000-27,500 บาท สำหรับบรรยากาศการซื้อขายทองคำในขณะนี้ ยังไม่ค่อยมีลูกค้านำทองมาขายมากนัก แม้จะมีเข้ามาบ้าง แต่ก็ไม่ได้มากเท่าครั้งที่ทองปรับขึ้นในครั้งล่าสุดที่ผ่านมา ซึ่งแนะนำให้รอทยอยขายทำกำไรหลังทองคำปรับขึ้นแตะระดับ 27,000 บาทขึ้นไป

นายณัฐพงศ์กล่าวว่า ปัจจัยสนับสนุนให้ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้นหลักๆ คือ สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ยังไม่สามารถจบลงได้ แม้ภาพรวมในประเทศไทยจะดูดีขึ้น แต่ในฝั่งสหรัฐอเมริกาหรือสภาพยุโรป (อียู) ยังไม่สามารถคลายตัวได้มากนัก รวมถึงการที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาเปิดเผยว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงในช่วงขาลง ขณะที่เฟดยังยืนยันจะไม่ใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ ทั้งที่เศรษฐกิจสหัฐดูไม่สดใสมากนัก

ซึ่งต้องติดตามต่อว่า เฟดจะไม่ใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบจริงหรือไม่ เนื่องจากช่วงต้นปีก็ออกมาบอกว่าจะไม่มีการปรับลดดอกเบี้ยลง แต่ก็มีการปรับลดลงแบบฉุกเฉินในช่วงที่ผ่านมา ทั้งยังมีเรื่องความตึงเครียดของสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ออกมาเปิดเผยว่า สหรัฐอาจตัดความสัมพันธ์ทั้งหมดกับจีน ซึ่งหากเกิดสงครามการค้ารอบใหม่ขึ้นอีก จะยิ่งซ้ำเติมผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการระบาดโควิด-19 มากขึ้น และความกังวลการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่อาจจะช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้

“วิกฤตเศรษฐกิจในขณะนี้ สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนสูงมาก เนื่องจากมีทิศทางว่าจะยืดเยื้อและยาวกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยเบื้องต้นประเมินว่าจะอยู่ไปอีก 6 เดือน ถึง 1 ปีเต็ม นักลงทุนจึงมองว่าจากการที่เริ่มนำเงินไปลงทุนในหุ้นที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยง ก็หันกลับมาลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งนอกจากทองคำ ก็เป็นพันธบัตรรัฐบาล แต่เมื่อพันธบัตรรัฐบาล ให้ผลตอบแทนที่ต่ำลง อีกทั้งยังมีค่าบริการในการจัดเก็บเบื้องต้นด้วย นักลงทุนจึงเน้นสะสมทองคำกันเพิ่มขึ้น โดยปัจจัยสนับสนุนให้ราคาทองคำปรับขึ้น นอกจากโควิด-19 แล้วยังมีตัวเลขการว่างงาน และการขายปลีกที่ปรับลดลงมากของสหรัฐ สะท้อนให้เห็นถึงภาวะวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นขณะนี้ ส่วนปัจจัยที่จะทำให้ราคาทองคำลง มาจากการค้นพบวัคซีนต้านไวรัสได้เร็วกว่าที่คาดไว้ หรือหลายประเทศทั่วโลกสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้มากขึ้นเร็วกว่าที่ประเมินไว้ ซึ่งขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณดังกล่าว เพราะแม้ภาพรวมสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยจะดูดีขึ้น แต่ในสหรัฐ และอีกหลายประเทศยังแย่อยู่ จึงคาดว่าน่าจะยังไม่สามารถกลับมาปกติได้ในระยะสั้นๆ นี้” นายณัฐพงศ์กล่าว