ยุคนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่า เอไอ เป็นคำที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันเรามากขึ้นทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นในมือถือ เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ คอมพิวเตอร์ โปรแกรมต่าง ๆ และในทุกแวดวงด้วย ไม่ว่าจะเป็นในวงการอุตสาหกรรม การแพทย์ รวมทั้งในภาคเกษตรก็ตาม เริ่มมีการพัฒนาโปรแกรม และ Application ที่เข้ามาช่วยเหลือในภาคเกษตรไม่ว่าจะเป็นในระดับองค์กรใหญ่ รวมถึงในระบบผู้ใช้เกษตรกรโดยทั่วไป ซึ่งวันนี้จะขอแนะนำ Application อีกหนึ่งตัวที่ช่วยเหลือเกษตรกรได้อย่างมาก ๆ นั่นก็คือ ฟาร์มเอไอ ภาพโดย Anurit Srikhomkham จาก https://web.facebook.com/MrLiab ฟาร์มเอไอ คือ Application อัจฉริยะที่เข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรในการวางแผนในการเพาะปลูกแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนในฟาร์ม สภาพแวดล้อม การประเมินผลผลิต รวมทั้งที่น่าสนใจคือชุมชนออนไลน์ที่แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ซึ่งกันและกัน ถือว่าเป็น KM ขนาดใหญ่ที่ช่วยเกษตรกรได้อย่างดีมาก ๆ จะมีรายละเอียดอย่างไร เรามาเรียนรู้ไปด้วยกันครับ ภาพโดย Anurit Srikhomkham จาก Application : ฟาร์มเอไอ เรื่องการ Download ทางผู้เขียนคงไม่ได้แนะนำอะไรมากมายเพราะเชื่อว่าผู้อ่านสามารถ download กันได้ผ่าน Play Store โดยค้นคำว่า ฟาร์มเอไอ และหลังจากนั้น สามารถเข้ามาลงทะเบียนซึ่งสะดวกมากสามารถผ่าน Line หรือ Facebook ได้เลย โดยจะดึงข้อมูลมาลงทะเบียนให้โดยอัตโนมัติไม่ต้องกรอกเลย และสามารถเริ่มใช้งาน เข้าสู่หน้าเมนูหลักของ Application ได้เลย ภาพโดย Anurit Srikhomkham จาก Application : ฟาร์มเอไอ โดยเรื่องแรกที่ ฟาร์มเอไอ จะให้เราตั้งค่าคือการตั้งค่าแปลงที่เราเพราะปลูกนั่นเอง โดยเริ่มจากการเลือกพืชที่ปลูก สายพันธุ์ที่ปลูก เนื้อที่เท่าไหร่ ใช้ระบบน้ำแบบไหน เพื่อนำไปเป็นการประมวลผลผ่านระบบเอไอ ที่จะให้คำเสนอแนะแก่เจ้าของแปลงได้นั่นเอง ซึ่งเราสามารถเพิ่มกิจกรรมที่เราทำกับแปลง รวมถึงการเพิ่มแปลงได้มากกว่าหนึ่งแปลง หากเรามีการปลูกหลาย ๆ พืช หรือหลายพื้นที่หลายพันธุ์ ซึ่งง่ายต่อการบริหารจัดการเอามาก ๆ เลย ภาพโดย Anurit Srikhomkham จาก Application : ฟาร์มเอไอ ฟังก์ชั่นที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างใน ฟาร์มเอไอ ก็คือสภาพอากาศนั่นเอง ซึ่งสามารถดูสภาพอากาศแบบรายวัน รายเดือน ได้ด้วย ทำให้ช่วยในการประเมินการเพาะปลูก การวางแผนเรื่องน้ำ และการวางแผนในช่วงต่าง ๆ ของการปลูกพืช เช่นการเปิดตาดอกช่วงไหน ตั้งอยู่ที่สภาพอากาศเป็นสำคัญ บางพืชต้องแห้ง ต้องชื้น เหมาะสมแตกต่างกันไป ส่วนนี้ทำให้เกษตรกรไม่ต้องอาศัยโชค แต่อาศัยองค์ความรู้และเอไอเข้ามาช่วยได้อย่างเต็มที่นั่นเอง ภาพโดย Anurit Srikhomkham จาก Application : ฟาร์มเอไอ ฟาร์มเอไอ ยังมีฟังก์ชั่นประเมินผลผลิตให้อีกด้วย ซึ่งตอนนี้มีการประเมินในบางพืชเท่านั้นที่ระบบได้มีการเก็บข้อมูลเอาไว้ อาทิเช่น ข้าวแต่ละพันธุ์ในแต่ละช่วงฤดู ประเมินผลผลิตให้เราเทียบเคียงกับต้นทุนที่เราลงไป ถือว่าเป็นการใช้เอไอ มาประเมินความเสี่ยงได้อย่างน่าทึ่งเลยทีเดียว ภาพโดย Anurit Srikhomkham จาก Application : ฟาร์มเอไอ ฟังก์ชั่นชุมชน เป็นฟังก์ชั่นที่ผู้เขียนชอบมากที่สุด เพราะว่าเป็นการรวบรวบองค์ความรู้ต่าง ๆ จากผู้พัฒนาระบบและสังคมออนไลน์ผ่าน ฟาร์มเอไอ ที่ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยมีเมนูย่อยหลายหมวดหมู่ คำถาม, ความรู้, ปัญหา, และการแจ้งเตือน ซึ่งเป็นการสร้าง KM ในกลุ่มคนที่สนใจในเรื่องเดียวกันให้เกิดประโยชน์สูงสุดอีกด้วย แถมยังเพิ่มเมนู ขายผลผลิตที่ช่วยเป็นตลาดกลางให้กับผู้บริโภค และผู้ผลิตให้ซื้อขายกันโดยตรวจ โดยปราศจากพ่อค้าคนกลาง และไม่ต้องโดนหักหัวคิว หรือค่าธรรมเนียมอีกด้วย ภาพโดย Anurit Srikhomkham จาก Application : ฟาร์มเอไอ และหัวใจหลักในการพัฒนา Application ก็คือการสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้รับฟังความคิดเห็นเพื่อไปพัฒนาต่อ ซึ่งฟาร์มเอไอทำได้อย่างยอดเยี่ยมมากเพราะว่ามีเมนูช่วยเหลือ หรือ มีคำถาม คุยกับเรา ซึ่งเป็นการพูดคุยแลกเปลี่ยนซักถามข้อมูลหรือเสนอความคิดเห็นเพื่อพัฒนา ฟาร์มเอไอต่อไป ภาพโดย Anurit Srikhomkham จาก https://web.facebook.com/MrLiab ทางผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกรยุคใหม่ หรือยุคเก่า สามารถเอา ฟาร์มเอไอ ไปประยุกต์กับภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เราได้เคยทำการเกษตรมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย ให้พัฒนาและปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีในปัจจุบัน เพื่อลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิตต่อไป แล้วผู้เขียนจะสรรหา Application ดี ๆ มาช่วยเหลือเกษตรกรอีก แล้วเจอกันในบทความหน้าครับ