วัคซีนเด็ก 5-11 ปี ถึงไทยแล้ว เริ่มฉีดเข็มแรก 31 ม.ค. เผยอาการที่มักพบ
ข่าววันนี้ 26 ม.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวในการแถลงข่าว สำหรับแนวทางการบริหารจัดการวัคซีน covid19 สำหรับเด็กอายุ 5 - 11 ปีซึ่งเป็นกลุ่มใหม่ที่คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อนุญาตให้ฉีดได้และตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข โดยวัคซีนก็เป็นสูตรสำหรับเด็กโดยเฉพาะฝาสีส้มซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนจาก อย.แล้ว ซึ่งขณะนี้วัคซีนล็อตแรก 300,000 โดส ส่งมาถึงประเทศไทยแล้ว ที่เหลือ จะทยอยส่งเข้ามาโดยไตรมาสแรกจะส่งมาทั้งหมด 3.5 ล้านโดส จากยอดทั้งหมด 10 ล้านโด้ส จะเริ่มฉีดวันที่ 31 ม.ค.นี้
ทั้งนี้การฉีดแบ่งเป็น 2 อย่างคือ 1. ฉีดที่โรงพยาบาล และ 2. ฉีดที่โรงเรียน โดยใช้ระบบเดิม ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งนี้ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยและมีคำแนะนำว่าเด็กที่เสี่ยงอาการรุนแรงคือเด็กอ้วน เด็กที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง เด็กที่เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง เด็กที่เป็นมะเร็ง และเด็กที่ภูมิคุ้มกันต่ำ เด็กที่เป็นเบาหวาน เด็กที่เป็นโรคทางพันธุกรรม กลุ่มอาการดาวน์ซินโดรม การบกพร่องทางประสาทอย่างรุนแรง เด็กที่มีพัฒนาการล่าช้า เป็นต้น
โดยเด็กกลุ่มนี้จะมีกุมารแพทย์เป็นผู้พิจารณาดำเนินการฉีดวัคซีน เน้นการฉีดที่โรงพยาบาลเป็นหลัก สำหรับกำหนดการจะมีการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 2 ครั้งห่างกัน 3 -12 สัปดาห์ ส่วนการฉีดที่โรงเรียนห่างกัน 8 สัปดาห์ เพื่อให้กุมารแพทย์เป็นผู้ตัดสินใจในช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับเด็ก ย้ำการฉีดเป็นไปตามความสมัครใจของผู้ปกครองไม่มีการบังคับเด็ดขาด
ขณะที่อาการข้างเคียงจากการฉีดวีคซีนที่สามารถพบได้คือ ไข้ หนาวสั่น ปวด บวม แดงบริเวณที่ฉีด ซึ่งเมื่อเทียบกับการฉีดในเด็กโต จากข้อมูลสหรัฐอเมริกาเกิดผลข้างเคียงในเด็กเล็กค่อนข้างน้อยเพราะปริมาณที่ฉีดมีปริมาณน้อยกว่า ดังนั้นผู้ปกครองจะได้ไม่ต้องกังวลใจมากนัก