สวัสดีค่ะ หนูชื่อมิ้ม เป็นนิสิตวิศวกรรมสำรวจ จุฬาฯ วันนี้จะมาเล่าถึง LIDAR เทคโนโลยีใหม่ที่กำลังมาแรงในช่วงนี้ ที่ช่วยให้ผู้คนอยู่ได้แบบสะดวกสบายยิ่งขึ้น มาดูกันว่า LIDAR นั้นคืออะไร มีหลักการทำงานอย่างไร และมีประโยชน์กับพวกเรายังไงในชีวิตประจำวัน LiDAR (Light Detection and Ranging) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้เลเซอร์ในการวัดระยะทางและสร้างภาพ 3 มิติของสิ่งแวดล้อมรอบตัว ซึ่งเทคโนโลยีนี้ถูกนำไปใช้ในหลายอุตสาหกรรมเพื่อทำให้ชีวิตสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น การทำงานของ LiDAR หลักการทำงานของ LiDAR คือการส่งเลเซอร์ไปยังวัตถุ และคำนวณเวลาที่แสงสะท้อนกลับมาเพื่อวัดระยะทาง จากนั้นระบบจะรวบรวมข้อมูลจากหลายจุดเพื่อสร้างภาพ 3 มิติที่มีรายละเอียด เทคโนโลยีนี้สามารถทำงานได้ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน รวมถึงสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย เช่น ฝนตกหรือหมอก ทำให้เป็นเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับการใช้งานในหลายสถานการณ์ LiDAR ในชีวิตประจำวัน หนึ่งในตัวอย่างที่สำคัญของการนำ LiDAR มาใช้ในชีวิตประจำวันคือในอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเฉพาะในระบบรถยนต์ไร้คนขับ เทคโนโลยี LiDAR ช่วยให้รถสามารถสร้างแผนที่ 3 มิติของสภาพแวดล้อมรอบตัว และตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ ทำให้การขับขี่มีความปลอดภัยมากขึ้น ลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ LiDAR ยังถูกนำมาใช้ในสมาร์ทโฟนสมัยใหม่ เพื่อช่วยในการถ่ายภาพแบบ 3 มิติและการใช้แอปพลิเคชันเสมือนจริง (AR) ซึ่งเพิ่มความสะดวกในการใช้งานในชีวิตประจำวัน ซึ่งเราจะมายกตัวอย่างดังนี้ 1. การวางแผนเมืองและสิ่งแวดล้อม LiDAR ยังถูกใช้ในการวางแผนและพัฒนาเมือง เทคโนโลยีนี้ช่วยให้นักวางแผนสามารถสร้างแบบจำลอง 3 มิติของสิ่งก่อสร้างและโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้สามารถวางแผนเส้นทางจราจรและระบบสาธารณูปโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในการวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงต่อภัยพิบัติ เช่น น้ำท่วม และแผ่นดินไหว ซึ่งช่วยให้การจัดการเหตุฉุกเฉินเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ 2. LiDAR กับการสำรวจโบราณคดี ในวงการโบราณคดี LiDAR ช่วยในการสำรวจพื้นที่ที่เข้าถึงได้ยาก โดยสามารถตรวจพบโบราณสถานที่ถูกปกคลุมอยู่ใต้พืชพรรณหรือดิน ตัวอย่างเช่น การค้นพบโบราณสถานในป่าทึบโดยไม่ต้องขุดค้น ทำให้นักวิจัยสามารถศึกษาประวัติศาสตร์ได้โดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม 3. ประโยชน์ในภาคเกษตรและสิ่งแวดล้อม ในด้านการเกษตร LiDAR ถูกนำมาใช้ในการตรวจสอบพืชผลและสภาพดิน ทำให้เกษตรกรสามารถจัดการทรัพยากรได้ดีขึ้น เพิ่มผลผลิต และลดการสูญเสีย นอกจากนี้ LiDAR ยังช่วยในการตรวจสอบป่าไม้ วัดขนาดและปริมาณทรัพยากรธรรมชาติ ทำให้การจัดการสิ่งแวดล้อมยั่งยืนยิ่งขึ้น จากที่ได้เล่าไป เรามาสรุปกันได้ว่า LiDAR เป็นเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเราในหลายมิติ ตั้งแต่การพัฒนาระบบขนส่ง การสำรวจโบราณคดี ไปจนถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีนี้ทำให้ชีวิตของเราสะดวกสบายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และจะยังคงมีบทบาทสำคัญในอนาคตของพวกเราอย่างมาก! แหล่งอ้างอิงรูปภาพ : ภาพปกและภาพที่ 1 : unsplash โดย Mika Baumeister ภาพที่ 2 : unsplash โดย Samule Sun ภาพที่ 3 : unsplash โดย Norbert Braun ภาพที่ 4 : unsplash โดย Daria from TaskArmy.nl เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !