“ทรัมป์” ยกเลิกสถานะพิเศษฮ่องกงพร้อมกับคว่ำบาตรจีน

วันนี้ ( 15 ก.ค. 63 )ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ แถลงที่ทำเนียบขาวว่า เขาได้ลงนามในคำสั่งยุติการให้สิทธิพิเศษแก่ฮ่องกง ส่งผลให้ต่อจากนี้ไป ฮ่องกงจะได้รับการปฏิบัติจากสหรัฐ เช่นเดียวกับที่สหรัฐปฏิบัติต่อจีนแผ่นดินใหญ่ โดยฮ่องกงจะไม่ได้รับสิทธิพิเศษใดๆ และไม่ได้รับสิทธิพิเศษทางเศรษฐกิจ รวมทั้งสหรัฐจะเลิกการส่งออกเทคโนโลยีที่อ่อนไหว ให้แก่ฮ่องกงด้วย

ก่อนหน้านี้ สหรัฐได้เริ่มยกเลิกสถานะพิเศษที่ให้แก่ฮ่องกง มาตั้งแต่หลายสัปดาห์ก่อนแล้ว หลังจากที่จีนเริ่มบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ต่อฮ่องกงตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งกำหนดโทษหนักถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิต สำหรับชาวฮ่องกงที่ละเมิดกฎหมายฉบับนี้ 

ส่วนคำสั่งล่าสุดของทรัมป์นี้ จะทำให้ฮ่องกงต้องสูญเสียสิทธิพิเศษในการเสียภาษีศุลกากรในอัตราต่ำพิเศษ ในการส่งออกไปยังสหรัฐ ซึ่งจะต้องส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างฮ่องกงกับสหรัฐอย่างแน่นอน 

ด้านนักวิเคราะห์ชี้ด้วยว่า สถานะของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางการเงินของโลก และในฐานะที่เป็นประตูของจีน ที่เชื่อมต่อไปยังตลาดการเงินอื่นๆ ของโลก ก็จะต้องกระทบกระเทือนเช่นกัน

นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้ลงนามอนุมัติร่างกฎหมายที่มีชื่อว่า “กฎหมายการปกครองตนเองของฮ่องกง” ให้ผ่านเป็นกฎหมายด้วย หลังจากที่ร่างกฎหมายดังกล่าว ได้ผ่านการลงมติอนุมัติ จากรัฐสภาสหรัฐอย่างเป็นเอกฉันท์ไปแล้วเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยกฎหมายใหม่ฉบับนี้มีเนื้อหาคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่จีน ที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนในฮ่องกง

ทรัมป์ระบุว่า กฎหมายคว่ำบาตรจีนนี้ คือการทำให้จีนต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง ซึ่งทรัมป์ระบุว่า “เป็นการกดขี่” จากการที่จีนออกกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่บังคับใช้ต่อฮ่องกง

ทรัมป์ตอบคำถามผู้สื่อข่าวด้วยว่า เขายังไม่มีแผนที่จะพบหารือกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนในขณะนี้

อย่างไรก็ตาม การที่สหรัฐยกเลิกสถานะพิเศษของฮ่องกง กลับจะสร้างปัญหาใหญ่ให้แก่บริษัทของสหรัฐเอง ที่ทำธุรกิจอยู่ในฮ่องกง ซึ่งมีมากกว่า 1,300 บริษัท และพลเมืองอเมริกันที่เคยเดินทางไปยังฮ่องกงโดยไม่ต้องใช้วีซ่า ก็จะต้องเจอกับกฎเกณฑ์การออกวีซ่าที่เข้มงวดมากขึ้นของจีนแผ่นดินใหญ่