สิงห์บุรีเริ่มวิกฤต น้ำทะลักใกล้ถึงเขตเมือง ล่าสุดเขื่อนเจ้าพระยา ตีธงแดง ระบายเพิ่มอีก

สิงห์บุรี – สถานการณ์น้ำสิงห์บุรี เริ่มวิกฤตน้ำเกือบเข้าเมือง หลายจุดต้องปล่อยน้ำลงทุ่ง ล่าสุดเขื่อนเจ้าพระยา จากชัยนาท ตีธงแดง ระบายเพิ่มอีก 3,000 บ.ม./วิ  

เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำ ที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท จุดสำคัญของการบริหารจัดการน้ำลงสู่ภาคกลาง พบว่า น้ำที่ไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยาผ่านจุดวัดน้ำค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปริมาณน้ำฝนจากทางตอนบนประเทศ วัดได้อัตรา 3,094 ลบ.ม./วิ โดยระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ล่าสุด วัดได้ +17.67 เมตร ระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชนริมตลิ่งใน3อำเภอเหนือเขื่อนเจ้าพระยาคือ อ.เมืองชัยนาท อ.วัดสิงห์ และ อ.มโนรมย์

ขณะที่ เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ได้ปรับเพิ่มอัตราการระบายไปที่ 2,988 ลบ.ม./วิ เพื่อรักษาสมดุลของน้ำเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน และ เพื่อชะลอน้ำเหนือไว้ในลำน้ำเหนือเขื่อน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพื้นที่ท้ายเขื่อน ซึ่งจากการระบายน้ำในเกณฑ์ดังกล่าวส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนยกระดับขึ้นกว่า 30 ซ.ม. ใน 24 ชม. เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ผ่านมา วัดได้ +17.03 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เอ่อล้นสูงกว่าตลิ่ง 69 ซ.ม. ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่เขื่อนเจ้าพระยา มีการปรับระดับการแจ้งเตือนจากธงเหลือง ในสถานการณ์เฝ้าระวัง ขึ้นเป็นธงแดง ซึ่งเป็นสถานการณ์เข้าขั้นวิกฤต ทำให้ชาวบ้านต้องอพยพขึ้นมานอนริมถนนสายต่างๆกันมากขึ้น โดยเฉพาะถนนคันคลองมหาราชที่ปัจจุบันมีกว่า 1,300 ครัวเรือนที่ต้องขึ้นมานอนริมถนน

โดยคาดการณ์ว่า ระดับน้ำพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จะสูงขึ้นได้อีก 15-20 ซ.ม.ใน 24 ชม.ข้างหน้า ส่วนพื้นที่เหนือเขื่อนใน อ.เมืองชัยนาท อ.วัดสิงห์ อ.มโนรมย์ ระดับน้ำจะเอ่อล้น ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอีก

ทั้งนี้ เขื่อนเจ้าพระยา มีแผนคงการระบายน้ำไว้ในเกณฑ์ 2,900-3,000 ลบ.ม.ในช่วงตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคมเป็นต้นไป เพื่อพร่องน้ำในพื้นที่เหนือเขื่อนที่กำลังเต็มความจุลำน้ำ และลดผลกระทบต่อพื้นที่ริมตลิ่งเหนือเขื่อน แต่จะกระทบกับจังหวัดต่างๆในพื้นที่ท้ายเขื่อน ที่ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นได้อีก

ล่าสุด ที่ จ.สิงห์บุรี สถานการณ์น้ำ โดยเฉพาะในแม่น้ำเจ้าพระยา เริ่มเข้าสู่ภาวะวิกฤต น้ำเกือบเอ่อล้นเข้าตัวเมืองสิงห์บุรี โดยไหลบ่าจากริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ข้ามฝั่งถนนเส้นสิงห์บุรี – ชัยนาท สายเก่า หลายจุด เข้าสู่คลองชลประทาน ตั้งแต่ ตำบลทับยา ตำบลบางกระบือ ไล่เรียงมาจนถึงเขต อบจ.สิงห์บุรี ซึ่งน้ำไหลแรงมาก และบางจุดเอ่อล้นจนเกือบเข้าพื้นที่เศรษฐกิจของตัวเมืองจังหวัดสิงห์บุรีแล้ว แต่ทางเทศบาลและ อบจ.สิงห์บุรี ได้นำหินดินมาปิดกั้นน้ำที่บริเวณแยกศาลหลักเมือง

ส่วน อีกพื้นที่ที่น่ากังวล คือหมู่บ้านประวีน ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ประชาชนอาศัยอยู่ค่อนข้างหนาแน่น กว่า 1,000 ครัวเรือน ได้เกิดการทรุดตัวของคันดินบริเวณคอสะพานข้ามคลองชลประทานทางเข้าหมู่บ้าน จึงทำให้น้ำไหลบ่าเข้าท่วมในหมู่บ้าน ไปแล้ว 3 ซอย ได้แก่ ซอย 30 ซอย 28 และซอย 27 ทางเจ้าหน้าที่เร่งอุดและจะดำเนินการผันน้ำลงทุ่งต่อไป ท่ามกลางการการเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ด้าน พื้นที่ ต.พระงาม อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี น้ำได้ไหลบ่าข้ามถนนลงทุ่งนาหลายจุด แต่พื้นที่หน้าบริเวณโรงงานน้ำดื่มแห่งหนึ่ง น้ำได้ไหลเชี่ยวมาก จนเกิดอุบัติเหตุกับคุณลุงท่านหนึ่ง ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่ากระแสน้ำมา แต่สู้กระแสน้ำไม่ไหวถูกน้ำพลัดตกลงไปยังคลองหน้าโรงงานพร้อมกับรถจักรยานยนตร์ แต่โชคยังดีที่มีผู้คนบริเวณนั้นเห็นเหตุการณ์ และได้รีบช่วยคุณลุงขึ้นมาจากน้ำได้ทัน

ส่วนอีกจุดหนึ่งคือ บริเวณแม่น้ำน้อย บริเวณหลังวัดพิกุลทอง ต.ถอนสมอ อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี น้ำได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางสามเณรของวัดพิกุลทองก็ได้ช่วยกันบรรจุกระสอบทรายเพื่อกันน้ำไม่ให้เข้าวัด