"HMPRO" โบรกฯ แนะกลยุทธ์ลงทุน มอง 2H67 เผชิญความท้าทายศก.ชะลอตัว
#ทันหุ้น - บล.โกลเบล็ก ส่องหุ้น HMPRO งวด Q2/67 มีกำไร 1,622 ลบ. ทรงตัว YoY แต่หดตัว 5%QoQ และต่ำกว่าตลาดคาด 4% งวด Q2/67 มีรายได้ 17,398 ลบ. -2%YoY -2%QoQ โดยหดตัว YoY จากกำลังซื้อที่ชะลอลงสะท้อน SSSG ของโฮมโปร -7%YoY ประกอบกับโฮมโปรสาขาราชพฤกษ์มีลูกค้ามาใช้บริการลดลง เนื่องจากมีการปรับปรุงถนนข้างหน้าโครงการ รวมทั้งงดการจัดงาน HomePro Fair ที่เชียงใหม่
เทียบกับช่วงเดียวกับปีก่อนหน้าที่มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ขณะที่หดตัว QoQ เนื่องจากไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเหมือน Q1/67 (Easy E-receipt) และเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนตั้งแต่ช่วงกลาง พ.ค. ทั้งนี้ช่วง Q2/67 เปิดสาขาใหม่ 2 แห่ง คือ โฮมโปรสาขาลำพูนและเมกาโฮมสาขาอุดรธานี ส่งผลให้มีสาขาทั้งสิ้น 1) โฮมโปร 90 สาขา 2) โฮมโปรเอส 5 สาขา 3) เมกาโฮม 28 สาขา และ 4) โฮมโปรที่มาเลเซีย 7 สาขา ส่วน %GPM และ %SG&A ทรงตัวที่ระดับ 26.3% และ 20.4% ตามลำดับ
ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นกลางต่อแนวโน้ม 2H67 ซึ่งมีโอกาสดีขึ้นเล็กน้อย HoH แนวโน้ม SSSG เดือน ก.ค. 67 ยังคงติดลบ 5-6% โดยหลักมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลงต่อเนื่องสะท้อนจากดัชนี CCI เดือน ก.ค. ปรับลงสู่ระดับ 57.7 จาก 58.9 ในเดือนก่อนหน้า
นอกจากนี้คาด Q3/67 มีโอกำสอ่อนตัวลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาลที่เป็นช่วงหน้าฝน และยังได้รับผลกระทบจากโฮมโปรสาขาราชพฤษ์ที่มีการซ่อมถนนหน้าโครงการตั้งแต่ช่วงปลายปี 66
ส่วนช่วง Q4/67 แม้จะปรับตัวดีขึ้น QoQ และเข้าสู่ช่วง High Season ของธุรกิจ แต่คาดจะมีผลกระทบจากการที่บริษัทงดจัดงาน HomePro Fair เนื่องจากต้นทุนค่าเช่าสถานที่เพิ่มขึ้นและใช้กระแสเงินสดในการจัดงานเยอะ แต่หันไปจัดงานส่งเสริมการขายตามสาขาแทน
อย่างไรก็ตาม ช่วง 2H67 มีแผนขยายสาขาใหม่อีก 5 แห่ง แบ่งเป็น Q3/67 เปิดโฮมโปร 2 แห่ง และเมกาโฮม 1 แห่ง และ Q4/67 เปิดโฮมโปร 2 แห่ง ส่วนแนวโน้ม %GPM คาดครึ่งปีหลังมีโอกาสปรับดีขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจาก Product Mix ที่เปลี่ยนจากเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ภายในบ้าน ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 67 ราว 6,908 ลบ. +7%YoY ซึ่ง 1H67 มีกำไร 3,335 ลบ. +3%YoY คิดเป็น 48% ของประมาณการดังกล่าว
ประเด็นเพิ่มเติม
1) ชะลอแผนการลงทุนในประเทศเวียดนาม หลังจากที่ทดลองตลาดเวียดนามมา 2 ปี พบปัญหาเรื่องการหาที่ดินในการเปิดสาขา ค่าเช่าพื้นที่สูง และอุปสงค์เกี่ยวกับอุปกรณ์ตกแต่งบ้านต่ำ
2) การขยายสาขาหลังจากนี้ส่วนใหญ่จะเป็นรูปแบบ Hybrid (HomePro และ MegaHome) และมีแผนปรับสาขาเดิมให้เป็นรูปแบบ Hybrid ราว 10 สาขา ซึ่งมีข้อดีคือไม่ต้องหาฐานลูกค้าใหม่
3) มาตรการ Digital Wallet ได้ผลประโยชน์ทางอ้อม เนื่องจากบริษัทอยู่ในกลุ่ม 2nd Tier ที่ไม่ได้รับเงินโดยตรงจากประชาชน แต่จะได้รับจากร้านที่เป็น 1 st Tier มาสั่งซื้อสินค้าจากบริษัท จึงทำให้คาดจะได้รับผลประโยชน์จากมาตรการดังกล่าวไม่มาก
4) Market Place – “TEMU” ผบห.มองไม่กระทบ TEMU เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจากจีน ที่ขายสินค้าราคาถูกมาก เนื่องจากเป็นการดีลโดยตรงกับโรงงานของประเทศจีน และมีการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ผบห.มองไม่กระทบ เนื่องจากคนละกลุ่มลูกค้าและส่วนใหญ่เป็นสินค้าไม่มีแบรนด์ซึ่งอาจไม่ต้องใช้การพิจารณาในการสั่งซื้อ และบริษัทสัดส่วนกลุ่มสินค้าดังกล่าวไม่มาก โดยมองกระทบกับผู้ระกอบการที่ขายสินค้าใน Platform Online มากกว่า
ความเห็นฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นกลางต่อผลประกอบการ Q2/67 และแนวโน้ม 2H67 ที่อาจถูกกดดันจากภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่ชะลอลง อย่างไรก็ตาม คาดหวังปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ Digital Wallet ช่วง Q4/67 ที่แม้จะได้ประโยชน์ทางอ้อม แต่คาดจะทำให้กำลังซื้อโดยภาพรวมดีขึ้น นอกจากนี้ ราคาหุ้นปรับตัวลง 30%YTD สะท้อนผลประกอบการที่อ่อนแอไปส่วนหนึ่งแล้ว ขณะที่ Valuation ปัจจุบัน PE เพียง 16.5x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 30x และราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 12.70 บาท มี Upside 55% อย่างไรก็ตาม แนะนำ “ทยอยซื้อ” เนื่องจากคาดผลประกอบการ Q3/67 มีโอกาสอ่อนตัวลงอีก