สหรัฐฯ "ยุติชัตดาวน์" ที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์แล้ว หลังรัฐสภาผ่านร่างกฎหมายงบประมาณ

รัฐสภาสหรัฐฯ ลงคะแนนเสียงผ่านร่างกฎหมายงบประมาณแล้วนับเป็นการ “สิ้นสุดชัตดาวน์” หรือการปิดทำการของรัฐบาลกลางที่ดำเนินมานานกว่า 43 วันและกลายเป็นการชัตดาวน์ที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ ซึ่งการลงคะแนนเสียงผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวจากทั้งสมาชิกของเดโมแครตและรีพับลิกันสำเร็จด้วยคะแนนเสียง 222 ต่อ 209 เสียง

การปิดระบบการทำงานของรัฐบาลกลางครั้งประวัติศาสตร์นี้ส่งผลกระทบในวงกว้างโดยเฉพาะทำให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางจำนวนมากไม่ได้รับเงินเดือนหลายงวด รวมถึงยังทำให้มีผู้โดยสารติดค้างอยู่ตามสนามบินเนื่องจากหลายสายการบินของสหรัฐฯ ต้องลดตารางการเดินทางตามคำสั่งของรัฐบาลในช่วงวิกฤตชัตดาวน์ นอกจากนี้ยังทำให้ประชาชนจำนวนมากต้องต่อแถวรับอาหารจากศูนย์แจกจ่ายเพื่อนำกลับไปเลี้ยงครอบครัว

ด้าน สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร ทอม โคล ผู้ดำรงตำแหน่ง ประธานคณะกรรมาธิการงบประมาณของสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกัน กล่าวว่าต่อรัฐสภาว่าเขาเคยบอกไปแล้วเมื่อ 43 วันที่แล้ว จากประสบการณ์อันขมขื่น ว่าการปิดทำการรัฐบาลนั้นมันไม่เคยได้ผลและไม่เคยบรรลุเป้าหมายที่ได้ประกาศไว้ ซึ่งหลังจากผ่านร่างกฎหมายเพื่อยุติการชัตดาวน์ก็เกิดเสียงปรบมือดังกึกก้องในรัฐสภา โดยสมาชิกสภาบางคนถูกเห็นว่ากำลังกอดและจับมือกันด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า ในขณะที่บางคนก็ลุกออกจากห้องไปทันทีหลังจากการลงคะแนนสิ้นสุดลง

อย่างไรก็ตาม หลังจากกลับมาประชุมร่วมกันของสมาชิกรัฐสภาที่กรุงวอชิงตันดี.ซี.เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กลางเดือนกันยายน เกือบทุกเสียงจากพรรครีพับลิกันรวมถึงสมาชิกพรรคเดโมแครตบางส่วน ได้ลงมติเห็นชอบกับร่างกฎหมายฉบับนี้ซึ่งจะนำไปสู่เส้นตายงบประมาณรอบใหม่ของสภาคองเกรสในวันที่ 30 มกราคม แต่โครงการสำคัญบางส่วนที่ได้รับผลกระทบจากการปิดทำการรอบที่ผ่านมา จะไม่ต้องเผชิญการต่อสู้ทางการเมืองอีกในระยะใกล้นี้ เพราะร่างกฎหมายได้จัดสรรงบประมาณให้หน่วยงานหลักบางแห่งดำเนินงานได้จนถึงสิ้นปีงบประมาณ 2026