“ฟิลิปปินส์” ยังไม่ทันฟื้น ไต้ฝุ่น “ฟงวอง” จ่อถล่มซ้ำ คาดลูกนี้แรงกว่า “คัลแมกี”!

ฟิลิปปินส์เตรียมรับมือพายุไต้ฝุ่น “ฟงวอง” ซึ่งคาดว่าจะทวีกำลังขึ้นเป็นพายุรุนแรงระดับเทียบเท่าเฮอริเคนระดับ 4 ก่อนขึ้นฝั่งทางตอนเหนือของประเทศในวันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายนนี้ หลังจากพายุ “คัลแมกี” เพิ่งถล่มพื้นที่ตอนกลางของประเทศเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่และคร่าชีวิตประชาชนไปแล้วกว่า 114 ราย

มีการประเมินจากสำนักพยากรณ์อากาศว่า “พายุฟงวอง” จะมีกำลังแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว และขึ้นฝั่งในระดับเป็นไต้ฝุ่นกำลังแรง คาดว่าพายุลูกนี้จะเคลื่อนที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ มุ่งสู่เกาะลูซอน รวมถึงหมู่เกาะ บาตาเนส และ บาบูยัน โดยจะทำให้เกิดฝนตกหนักตั้งแต่ วันอาทิตย์ที่ 9 ถึงวันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน คาดการณ์ปริมาณฝนรวมอาจสูงถึง 450 มิลลิเมตร และอาจมากสุดถึง 900 มิลลิเมตร (36 นิ้ว) ซึ่งมีความเสี่ยงสูงต่อ น้ำท่วมฉับพลัน ดินถล่ม และความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐาน

ส่วนความเร็วลมคาดว่าจะสูงถึง 260 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอาจแตะระดับสูงสุดที่ 290 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ลมแรงขนาดนี้สามารถพัดถล่มบ้านเรือน เสาไฟฟ้า และสร้างความเสียหายรุนแรงในวงกว้าง รวมถึงคลื่นพายุซัดฝั่ง (storm surge) ตามชายฝั่งตอนเหนือของเกาะลูซอน บาตาเนส และบาบูยัน

และหลังจากพายุเคลื่อนออกจากฟิลิปปินส์แล้ว คาดว่าพายุจะเคลื่อนต่อไปยัง “ไต้หวัน” ช่วงวันที่ 10–13 พฤศจิกายน โดยฝนจะตกหนักทางตอนใต้และตะวันออกของเกาะ ปริมาณฝนรวมอาจสูงถึง 300 มิลลิเมตร และอาจมากสุดถึง 600 มิลลิเมตร (24 นิ้ว) ซึ่งเสี่ยงเกิดน้ำท่วมและดินถล่มในหลายพื้นที่ คาดว่าความเร็วลมสูงสุดในไต้หวันจะอยู่ที่ 160–190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งอาจทำให้เกิดไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง ความเสียหายต่อบ้านเรือน และผลกระทบต่อการคมนาคมขนส่ง 

รายงานจาก CNN ระบุว่า จากเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้จากพายุ “คัลแมกี” ในพื้นที่ตอนกลางของฟิลิปปินส์ มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 114 คน และสูญหายอีกกว่า 26 คน ขณะที่ องค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น (JAXA) รายงานว่า ปริมาณฝนระหว่างวันที่ 2–4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สูงกว่า 610 มิลลิเมตร (24 นิ้ว) ในบางพื้นที่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยระบุว่า มีประชาชนหลายแสนคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน ขณะที่รัฐบาลฟิลิปปินส์เตรียมแผนอพยพเพิ่มเติมและประกาศเตือนภัยล่วงหน้าในหลายจังหวัดของเกาะลูซอน เพื่อรับมือกับพายุลูกใหม่ที่กำลังจะมาถึง