PRIMEลุยไฟฟ้าแสงอาทิตย์ ชูเป้ากำลังผลิตแตะ1,800เมก

#PRIME #ทันหุ้น – PRIME เดินหน้าขยายกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ แตะ 1,800 เมกะวัตต์ ภายในปี 2570 ทั้งในและต่างประเทศ จากปัจจุบันกำลังการผลิตรวม รวม 300.4 เมกะวัตต์ เผยอยู่ระหว่างก่อสร้างโครงการในไต้หวันเพิ่มกว่า 30 เมกะวัตต์ และมองหาตลาดใหม่ๆ ต่อยอด
นายสมประสงค์ ปัญจะลักษณ์ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PRIME เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทในช่วง 6 เดือน ปี 2565 เท่ากับ 395.45 ล้านบาท ลดลง 12.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อน มี EBITDA เท่ากับ 259.06 ล้านบาท ลดลง 16.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เเละมีกำไรสุทธิเท่ากับ 97.05 ล้านบาท ลดลง 47.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน มีกำไรเบ็ดเสร็จ 163.51 ล้านบาท ลดลง 21.3%
ลุยกำลังการผลิตเพิ่ม
โดยรายได้หลักของบริษัท ยังคงมาจากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Power Plant) ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก โดยโรงไฟฟ้าทั้งหมดมีการทำสัญญาผลิตและขายไฟฟ้า (PPA) ให้แก่ รัฐวิสาหกิจของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ได้แก่ ประเทศไทย ญี่ปุ่น ไต้หวัน และกัมพูชา กำลังการผลิต (Installed Capacity) รวม 300.4 เมกะวัตต์ กำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 257.5 เมกะวัตต์
โดยในระยะ 5 ปีต่อจากนี้ (2566-2570) บริษัทตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้า ที่ 1,800 เมกะวัตต์ โดยในปี 2566 จะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 360 เมกะวัตต์, ปี 2567 ที่ 800 เมกะวัตต์, ปี 2568 ที่ 1,200 เมกะวัตต์ และในปี 2569 ที่ 1,400 เมกะวัตต์ ตามลำดับ
ศึกษาซื้อกิจการต่อยอด
ในด้านธุรกิจใหม่ๆ ได้แก่ ธุรกิจขายไฟฟ้าจากระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานเเสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (Private PPA) ธุรกิจรับเหมาติดตั้งไฟฟ้าพลังงานเเสงอาทิตย์ (EPC) และธุรกิจจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์เกี่ยวกับพลังงาน (Trading) นั้นยังคงมีการเติบโตและการพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง แต่อาจมีความล่าช้าในการรับรู้รายได้ซึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 และปัญหาห่วงโซ่อุปทาน ทั่วโลกเกี่ยวกับชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
นอกจากนี้บริษัทยังศึกษาการเข้าซื้อกิจการใหม่ มากกว่าหนึ่งธุรกิจ แต่ปัจจุบันยังไม่สามารถระบุรายละเอียดได้
สำหรับปัจจัยที่ช่วยให้บริษัทในการเติบโตมากขึ้นนั้นมาจากประเทศไทยได้มีการรณรงค์ลด คาร์บอน เครดิต ซึ่งมีการผลักดันอย่างมากในปัจจุบัน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งสอดคล้องกับบริษัทที่ทำธุรกิจพลังงานสะอาด นอกจากนี้บริษัทยังศึกษาเกี่ยวกับโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ ซึ่งปัจจุบันมีการจัดตั้งบริษัทเพื่อทำธุรกิจนี้โดยเฉพาะ
ขยายต่างแดนหนุนโต
ส่วนการขยายการเติบโตในต่างประเทศ อาทิ ไต้หวัน ที่กำลังให้ความสำคัญกับพลังงานสะอาด และเป็นประเทศที่มีการเติบโตสูง ปัจจุบันบริษัทมีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในไต้หวันแล้ว และได้ทำการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้วประมาณ 30 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างก่อสร้างอีกกว่า 30 เมกะวัตต์ โดยบริษัทตั้งเป้าจะขยายกำลังการผลิตในประเทศไต้หวันไม่ต่ำกว่า 300 เมกะวัตต์ ในอนาคต ซึ่งบริษัทมองการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่มากกว่า 50 เมกะวัตต์ขึ้นไป ตามความชำนาญของบริษัทและการมีพันธมิตรทางธุรกิจมากขึ้น
ขณะที่ในประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นประเทศที่กำลังขยายภาคธุรกิจ บริษัทได้เข้าไปขยายธุรกิจพลังงานทางเลือก โดยมองหาโครงการขนาดมากกว่า 50 เมกะวัตต์ขึ้นไป ซึ่งร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่น และยังมองหาตลาดในประเทศใหม่อย่างต่อเนื่อง ในเซาต์อีสเอเชีย เพื่อขยายการเติบโตเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นใน อินโดนีเซีย เป็นต้น
อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1
ยอดนิยมในตอนนี้
