ทำงานตรงสาย vs ทำงานไม่ตรงสาย มีข้อดีข้อเสียอย่างไร ผู้เขียนเคยมีความกังวลอย่างหนัก ตอนเรียนจบเป็นนักศึกษาจบใหม่เมื่อหลายปีก่อน (ราว ๆ ปี 2550) ช่วงนั้นการสมัครงานผ่าน website เริ่มแพร่หลายแล้ว แต่แนวทางหรือบทความในการช่วยตัดสินใจเลือกงานยังมีไม่เยอะเหมือนตอนนี้ หางานอยู่หลายเดือนก็ไม่ได้งานสักที จะทำอย่างไรดี หรือ จะตัดสินใจทำงานอื่นที่ไม่ตรงสายดีไหม นี่คือความคิดตอนนั้น ผ่านมาหลายปี ผู้เขียนพอจะจำแนกข้อดี ข้อเสีย ของการทำงานตรงสาย และ ไม่ตรงสาย ได้ดังนี้1. ทำงานตรงสาย 1.1 ข้อดี 1.1.1 ใช้ความรู้ที่สะสมมาตอนเรียนได้ เรียนรู้ได้ง่ายกว่างานที่ไม่ตรงสาย 1.1.2 หางานง่ายกว่าไม่ตรงสาย เพราะผู้ประกอบการณ์เองก็หาคนจบตรงสายก่อนเสมอ 1.1.3 อาจมีรุ่นพี่ที่เรียนสายเดียวกันทำงานอยู่ก่อน ทำให้เรามี connection 1.1.4 รายได้เหมาะสม เพื่อน ๆ สามารถสำรวจตลาดได้ตาม website หางานทั่วไป 1.1.5 มีโอกาสเติบโตสูง ยิ่งคนที่เรียนรู้เร็วพัฒนาตัวเองเร็ว 1.2 ข้อเสีย 1.2.1 มีคู่แข่งในตลาดแรงงานเยอะ ยิ่งเป็นสาขาที่มีคนเรียนจบเยอะ ยิ่งหางานยาก 1.2.2 เมื่อทำงานตรงสาย โอกาสในการย้ายงานจะน้อย อาจทำให้อัตราการเติบโตของเงินเดือนต่ำ 1.2.3 หากงานไม่มีความท้าทาย หรือ ตัวเราเองเผลอชินกับมัน อาจทำให้ตัวเราหยุดพัฒนาตัวเองโดยไม่รู้ตัว2. ทำงานไม่ตรงสาย 2.1 ข้อดี 2.1.1 เพิ่มทางเลือกในการหางาน 2.1.2 ได้เลือกงานที่ตัวเองอยากทำ 2.1.3 มีความท้าทายในการทำงานมากกว่าทำงานตรงสาย 2.1.4 ได้ความรู้ที่หลากหลายกว่า 2.2 ข้อเสีย 2.2.1 คู่แข่งในท้องตลาดคือกลุ่มที่เขาสมัครงานตรงสาย ถ้าโปรไฟล์ไม่เด่น หรือมีความสามารถตามที่ผู้ประกอบการต้องการ อาจต้องเป็นตัวเลือกรองจากกลุ่มตรงสาย 2.2.2 อาจจะไม่มีพื้นฐานความรู้ที่ครอบคลุมสายงานเหมือนกลุ่มทำงานตรงสาย 2.2.3 อาจต้องใช้เวลาในการเรียนรู้มากกว่าเพื่อนร่วมงานที่ทำงานตรงสาย ในส่วนของผู้เขียนเอง อยู่ในฟากฝั่งของการทำงานไม่ตรงสาย เพราะเรียนจบสาขาเทคโนโลยีวิศวกรรมการทำความเย็นฯ แต่มาทำงานสาย Material handling หรืองานในสายขนถ่ายวัสดุ กังวลมากว่าจะทำไม่ได้ ผู้เขียนใช้เวลาปรับตัวช่วงทดลองงาน บริษัทพิจารณามองเห็นแล้วคนนี้พัฒนาต่อได้ ผมก็เลยได้งาน และการทำงานช่วงแรก ๆ ก็คือการฝึกฝนการทำงานอย่างจริงจัง ผู้เขียนโชคดีที่ได้พี่เลี้ยงที่เข้าใจในตัวเราว่าไม่ได้จบตรงสายมา ได้ให้โอกาศในการเรียนรู้และคอยหมั่นให้คำปรึกษา แต่ไม่ได้จับมือทำนะครับ จะเป็นลักษณะการไกด์ให้ว่าต้องทำอย่างไร แล้วให้ลุยต่อเอง ทำให้ผู้เขียนได้รับโอกาศที่ดีในการฝึกฝนและพัฒนาทักษะที่เกี่ยวข้องกับงานที่ทำ ให้สามารถทำงานและเป็นหนึ่งในทีมงานที่ดีคนหนึ่ง ร่วมกับคนอื่น ๆ ที่เรียนจบตรงสายครับ ไม่ว่าจะทำงานตรงสาย หรือ ทำงานไม่ตรงสาย อาจมีข้อดีข้อเสียที่ต่างกัน แต่ก็สัมพันธ์กัน เมื่อเพื่อน ๆ ผ่านการสัมภาษณ์ และรับเข้าทดลองงานแล้ว การที่เรียนมาตรงสาย หรือ ไม่ตรงสาย ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญอีกต่อไป ทุกคนมีเวลา 90 วัน เท่ากันในการพิสูจน์ตัวเอง ว่าจะสามารถพัฒนาตัวเอง และพิสูจน์ตัวเองให้บริษัท ได้เห็นถึงศักยภาพที่มีในตัวเรา จุดมุ่งหมายก็เพื่อได้รับการบรรจุเข้าเป็นพนักงานประจำต่างหากที่สำคัญ จะเลือกแบบไหนก็อยู่ที่ตัวเพื่อน ๆ แล้วครับCredit:บทความโดย SakdaPPภาพปก จาก freepik.com, artist: pch.vectorภาพประกอบอื่น ๆ โดย SakdaPPเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !