การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้หน้ากากอนามัยกลายเป็นสินค้าจำเป็น ประชาชนตื่นตัวซื้อกักตุนจนสินค้าขาดตลาด ทำให้หน้ากากอนามัยมีราคาสูงขึ้น กระทั่งราชกิจจานุเบกษา ประกาศให้หน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์ล้างมือเป็นสินค้าควบคุมและกำหนดราคาขายหน้ากากอนามัย รวมถึงห้ามส่งออกไปยังต่างประเทศอีกด้วย ต่อมากรมการค้าภายในได้ประเมินความต้องการใช้หน้ากากอนามัยภายในประเทศว่าการใช้ของประชาชนในประเทศอยู่ที่เดือนละ 30 ล้านชิ้น หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ปริมาณความต้องการใช้หน้ากากอนามัยของทั้งประเทศอาจจะเพิ่มขึ้นเป็น 40 ล้านชิ้นต่อเดือน แต่ยังยืนยันความพร้อมกำลังการผลิตและสามารถกระจายสินค้าออกสู่ประชาชนผ่านร้านสะดวกซื้อ 7-11 มินิบิ๊กซี โลตัสเอ็กซ์เพรส อย่างทั่วถึง เหล่านี้คือข้อมูลจากข่าวสารที่เรารับรู้ผ่านสื่อสารมวลชนมาโดยตลอด ซึ่ง Tippy ก็ยังไม่เคยหาซื้อหน้ากากอนามัยได้จากร้านสะดวกซื้อดังกล่าว วันนี้ Tippy ตัดสินใจไปเดินสำรวจตลาดและหาซื้อหน้ากากอนามัยที่ตลาดวังหลัง แหล่งรวมร้านขายยาใกล้ ๆ โรงพยาบาลศิริราชค่ะ จากการเดินสำรวจตลาดหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์พบว่า ร้านขายยาย่านตลาดวังหลัง ต่างก็ติดป้ายหน้าร้านเเจ้งลูกค้าว่า หน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์หมด เราเข้าไปในร้านกันอีกครั้งเพื่อเช็คให้มั่นใจพบว่า ด้านในร้านมีหน้ากากแบบผ้า สามารถซักได้ จำหน่ายราคา 15 บาท ส่วนหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์หมดตามที่ติดประกาศหน้าร้าน จากนั้น Tippy เดินต่อไปยังตลาดวังหลัง เพื่อสำรวจราคาและหาซื้อหน้ากากอนามัยกันต่อ พบหน้ากากอนามัยแบ่งขาย แพคละ 3 ชิ้น ในหนึ่งชิ้นมีซับในจำนวน 4 ชั้น ราคาจำหน่าย ร้านนี้อยู่ที่แพคละ 60 บาท เดินต่อมาก็พบร้านตั้งโต๊ะวางจำหน่ายหน้ากากอนามัยแบบแบ่งขายชนิดหนา ซับใน 4 ชั้น แบ่งขายจำนวน 3 ชิ้น ราคา 100 บาท ในตลาดวังหลังส่วนใหญ่จะพบร้านค้าจำหน่ายหน้ากากผ้า ซึ่งวางแขวนหน้าร้านทั่วไป ราคาจำหน่ายที่ผืนละ 10-40 บาท การเดินตลาดวังหลังวันนี้ คงเป็นคำตอบได้ว่า หน้ากากอนามัยยังคงเป็นสินค้าที่ขาดตลาด และยังมีผู้ประกอบการณ์หัวใสที่ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าอยู่จริง ทั้งนี้หากพบเห็นร้านค้าที่ขายสินค้าควบคุมราคาเกินจริงขอให้แจ้งที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรือแจ้งสายด่วนของกระทรวงพาณิชย์ กรมการค้าภายในได้ที่หมายเลข 1569 รายงานข่าวโดย Tippy on the way ภาพประกอบโดย Tippy on the way