ภาพประกอบโดยผู้เขียนจัดได้ว่าเป็นหนังสืออีกเล่มที่อ่านแล้ววางไม่ลง สำหรับหนังสือ "ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ" ค่ะ ซึ่งปกติเราเป็นคนชอบอ่านหนังสืออยู่แล้ว แต่ช่วงหนัง ๆ มานี่หาหนังสือถูกใจค่อนข้างยาก จึงค่อนข้างจะติดอกติดใจกับคุณนามิยะนี่พอสมควรเลยทีเดียว เรามาเริ่มกันที่ภายนอกก่อนแล้วกันนะคะ หลังจากนั้นจะรีวิวเนื้อหา โดยด้านล่างมีส่วน Spoil กำกับไว้ หากใครไม่อยากถูกสปอยล์ให้หยุดอ่านตรงเครื่องหมายนะคะ1. ปก ความหนา กระดาษ และราคาโดยรวมเป็นหนังสือค่อนข้างหนาค่ะ ตอนแรกคิดว่าจะไม่หยิบมาอ่านแล้ว เพราะคิดว่าต้องใช้เวลานานแน่ ๆ แต่ปรากฏว่าไม่ใช่เลยค่ะ ความหนา 507 หน้าใช้เวลา 3 คืน ช่วงเวลาหลังลูกนอนเท่านั้นเอง! หน้าปกก็ละมุนสไตล์ญี่ปุ่น น่าค้นหาว่าข้างในมีอะไร กระดาษเป็นกระดาษถนอมสายตา ส่วนราคาตามปกก็ 295 บาท ถือว่าค่อนข้างย่อมเยาว์สำหรับหนังสือ 507 หน้าค่ะภาพประกอบโดยผู้เขียน2. เนื้อหาเนื้อหาและการเรียบเรียงเรื่อง สมกับยอดขายกว่า 12 ล้านเล่มและรางวัลชูโอโครงบุงเกค่ะ ผู้เขียนสามารถเรียงร้อยหลากหลายเรื่องราวของตัวละครแต่ละตัว จากหลากหลายมุมมองเข้าด้วยกัน ซึ่งตอนต้นเรื่องอ่านไปจะคล้ายกับอ่านคนละเรื่อง แต่พออ่านไปเรื่อย ๆ จะพบความเชื่อมโยงต่างๆที่ทำให้คุณนามิยะมีเสน่ห์น่าหลงใหลสุด ๆ ไปเลยล่ะค่ะ ซึ่งตั้งแต่ต้นจนจบจะพบว่าตัวละครแต่ละตัวนั้น มีเรื่องราวเป็นของตัวเอง มีแง่คิด มีมุมมองต่อเรื่องหนึ่ง ๆ คนละมุมกัน แต่มีจุดเชื่อมโยงซึ่งก็คือ ร้านชำของคุณนามิยะนั่นเอง ซึ่งสุดท้ายแล้ว การรับปรึกษาปัญหาชีวิตของคุณนามิยะจะประสบความสำเร็จหรือไม่อย่างไร และหัวขโมยทั้งสามที่แอบเข้าไปในร้านชำเพราะคิดว่าเป็นบ้านร้างนั้นจะมีชีวิตอย่างไรต่อไป ต้องไปติดตามอ่านกันค่ะ ขอแนะนำว่าดีต่อใจมาก ๆ เหมาะสำหรับคนทุกช่วงวัยที่กำลังต้องการกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อค่ะSPOILER ALERT ด้านล่างมีส่วนสปอยล์เนื้อหาเล็กน้อยค่ะภาพประกอบโดยผู้เขียนภาพประกอบโดยผู้เขียนสำหรับเนื้อหานั้น เป็นเรื่องราวของคุณนามิยะ ที่เปิดร้านชำนามิยะ แต่มีเหตุให้การดำเนินชีวิตปกติต้องเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา จึงเริ่มรับปรึกษาปัญหาชีวิต โดยเริ่มจากเรื่องไม่จริงจังของเด็ก ๆ แถวละแวกร้าน แต่คุณนามิยะก็ให้คำตอบที่จริงจังกลับไปทุกครั้ง จนเริ่มมีผู้ใหญ่นำปัญหาที่จริงจังจริง ๆ มาปรึกษาค่ะ ซึ่งในอีกมิติเวลาหนึ่งในอนาคตที่ร้านขายของชำนามิยะกลายสภาพเกือบเป็นบ้านร้าง มีหัวขโมยสามคนเข้าไปแอบซ่อนตัวอยู่ ทำให้ค้นพบว่าร้านชำนามิยะแห่งนี้สามารถส่งจดหมายข้ามกาลเวลาไปมาได้นั่นเอง โดยส่วนตัวแล้วชอบทุก ๆ คำปรึกษาในเรื่องเลยค่ะ เพราะคนส่งคำถามมาปรึกษาส่วนใหญ่มักมีคำตอบในใจอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่แน่ใจเท่านั้นใช่มั้ยล่ะคะ บางทีการปรึกษาใครซักคน ก็เพื่อยืนยันความคิดตัวเองว่าถูกต้อง หรือเพียงแค่ต้องการเล่าให้ใครซักคนฟังเท่านั้น สุดท้ายแล้ว เราจะเชื่อและปฏิบัติตามคำขอตอบนั้นหรือไม่ ก็เป็นการตัดสินใจของเราเองเพียงคนเดียว บางที...จดหมายที่ส่งไปมาทั้งจากคุณนามิยะไปหาผู้ปรึกษา หรือจากผู้ปรึกษากลับมาหาคุณนามิยะนั้น อาจจะทำหน้าที่มากกว่าการให้คำตอบของคำถามก็เป็นได้Cover photo: www.canva.com