"EXIM BANK" เตรียม "ซอฟท์โลน" 1,000 ลบ. ช่วยผู้ประกอบการ ขยายตั๋วส่งออก ปรับเงื่อนไข เลี่ยงเครดิตบูโร

นายชลัช รัตนบุญนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือ EXIM BANK เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ EXIM BANK จึงได้เตรียมออกมาตรการเร่งด่วน เพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ โดยเบื้องต้นได้มีการขยายตั๋วส่งออก และปรับเปลี่ยนเงื่อนไขเรื่องการชำระเงินต่าง ๆ เพื่อไม่ให้ลูกค้าได้รับผลกระทบในเรื่องเครดิตบูโร และช่วยเหลือลูกค้าปัจจุบันที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อได้ในช่วงนี้

นอกจากนี้ ยังได้เตรียมสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน) วงเงิน 1,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 1.99% ต่อปี สำหรับให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการในพื้นที่ ส่วนเงื่อนไขและรายละเอียดต่าง ๆ ยังอยู่ระหว่างการเร่งพิจารณา โดยเบื้องต้นจะขอข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ เพื่อแบ่งผลกระทบออกตามกลุ่มอุตสาหกรรม โดยกลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนัก ก็อาจจะพิจารณาปล่อยสินเชื่อให้มากขึ้น

ขณะเดียวกัน ในช่วง 6 เดือนหลังจากสถานการณ์กลับมาเป็นปกติ EXIM BANK จะเร่งพิจารณาออกมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม โดยในระยะดังกล่าวมองว่ามาตรการสินเชื่อหมุนเวียนอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ อาจจะต้องมีสินเชื่อเพิ่มเติมด้วย เพราะหลังจากนั้นจะเป็นปัญหาเรื่องการซ่อม สร้าง เสริม และปรับเปลี่ยน หลังจากที่กิจการไม่สามารถดำเนินการมาได้ระยะหนึ่ง

"แม้ว่าสถานการณ์น้ำท่วม จะส่งผลกระทบกับลูกค้าของธนาคาร จนกิจการเดินต่อไม่ได้ แต่เราไม่ได้มองหรือกังวลว่าลูกค้ากลุ่มนี้ จะกลายเป็นหนี้เสีย และ EXIM BANK ได้เร่งให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง และพยายามช่วยลูกค้ากอบกู้สถานการณ์ให้สามารถกลับมาดำเนินกิจการได้อย่างต่อเนื่อง จึงขอยืนยันว่า ประเด็นเรื่องหนี้เสียเป็นเรื่องรอง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ได้ให้ความสนใจ แต่ตอนนี้ EXIM BANK เน้นการดูแลลูกค้าเป็นหลักก่อน" นายชลัช กล่าว

สำหรับผลกระทบจากภาษีสหรัฐฯ นั้น ยอมรับว่าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ การส่งออกไปตลาดสหรัฐฯ ชะลอตัวลงบ้าง โดยโจทย์สำคัญของ EXIM BANK คือ การสนับสนุนและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของลูกค้าบางกลุ่มเพื่อเร่งส่งออกไปตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ รวมทั้งจากนี้ EXIM BANK จะมีบริการในการวิเคราะห์รายละเอียดการส่งออก เพื่อแจ้งเตือนกับลูกค้าในแต่ละธุรกรรมการส่งออกว่าจะมีกำไรหรือไม่ ซึ่ง EXIM BANK จะเป็นธนาคารแรกที่เริ่มดำเนินการบริการดังกล่าวนี้

นายชลัช ยังกล่าวถึงเป้าหมายการดำเนินงานในปี 2569 ว่า EXIM BANK จะเน้นเพิ่มจำนวนผู้ส่งออก SMEs ไทยให้เข้าถึงสินเชื่อเพิ่มขึ้น 10% จากปัจจุบันมีลูกค้ากลุ่มดังกล่าวอยู่ราว 5,000 ราย และจากข้อมูลในระบบ มีผู้ประกอบการในภาคส่งออกอยู่ราว 27,000 ราย ตรงนี้ถือเป็นโจทย์สำคัญของ EXIM BANK ที่จะต้องเร่งดำเนินการ ซึ่งจะสอดคล้องกับปริมาณสินเชื่อที่ธนาคารจะปล่อย

"เป้าหมายสินเชื่อในปี 69 จะสอดคล้องกับปริมาณของผู้ส่งออกในกลุ่ม SMEs ที่ธนาคารจะเร่งผลักดันให้ส่งออกได้มากขึ้นราว 10% ตรงนี้เป็นหลักและเป้าหมายใหญ่ของธนาคาร ดังนั้น EXIM BANK ก็ต้องมาดูว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง เพื่อให้กลุ่ม SMEs สามารถส่งออกได้เพิ่มขึ้น แม้เราจะไม่ใช่ธนาคารใหญ่ แต่เรามีศักยภาพในการส่งเสริมผู้ประกอบการในภาคส่งออก โดยผ่านกลไกสินเชื่อเพื่อการส่งออกของ EXIM BANK" นายชลัช กล่าว

โดยวันนี้ EXIM BANK ร่วมกับโครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (ITAP) ภายใต้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) จัดงาน ‘SMEs Export Studio Fair 2025 : From Local Style to Global Smile’ เพื่อยกระดับผู้ประกอบการไทย ในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์สร้างอัตลักษณ์แบรนด์ไทย พร้อมวางแผนการตลาด เพื่อรุกตลาดส่งออกได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน

โดย EXIM BANK พร้อมเสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงาน ผ่านผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เช่น สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ และกรมธรรม์ประกันความเสี่ยงจากการไม่ได้รับชำระเงินจากคู่ค้าต่างประเทศ วงเงินคุ้มครองสูงสุด 300,000 บาท