ตอนนี้ทั่วประเทศยุโรปได้ทำการถอดเงินสกุลรูเบิลออกจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศแล้ว และแม้แต่คนรัซเซียเองก็เข้าแถวในธนาคารเพื่อถอนเงินออกมา นั้นหมายความว่าประชาชนชาวรัซเซียรู้สึกกังวลกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศและไม่สนับสนุนให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ทำสงคราม วันนี้ผู้เขียนจะมาแนะนำว่าในช่วงสงครามเราควรจะลงทุนในอะไรที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุดดี 1. หุ้นเกี่ยวกับอาวุธ ทุกครั้งเวลาที่เกิดสงครามโลกไม่ว่าจะเป็นสงครามโลกครั้งที่ 1 และสงครามโลกครั้งที่ 2 หุ้นที่เกี่ยวกับอาวุธมักจะมีราคาที่พุ่งเสมอเพราะแต่ละประเทศจะแข่งกันซื้ออาวุธสะสม และในช่วงห้าวันที่ผ่านมานี้ หุ้นที่เกี่ยวกับการผลิตอาวุธกลับมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมา 10-11% 2. หุ้นที่เกี่ยวกับอาหาร โดยเฉพาะมาม่า หรือปลากระป๋อง ที่ทุกคนจะแห่ซื้อมาตุนไว้ในยามฉุกเฉิน เรามีตัวอย่างให้เห็นแล้ว และมีตัวอย่างให้เรียนรู้จากประวัติศาสตร์ อย่างเช่น ประเทศเยอรมัน หลังจากพ่ายแพ้จากสงครามถึง 2 ครั้ง ประชาชนและพลเมืองก็มีนิสัยประหยัด และขยัน รวมถึงมีวินัยทางการเงินขึ้นมาก จนบ้านหลายๆบ้านก็มีห้องใต้ดินเพื่อเก็บอาหารสำเร็จรูปโดยเฉพาะเลย เพราะพวกเขาเคยผ่านความรู้สึกเจ็บปวดจากสงคราม และความอดอยากมาแล้ว ดังนั้นหุ้นเกี่ยวกับอาหารและน้ำดื่มจะเพิ่มขึ้นมาอย่างไม่ต้องสงคราม หรือแม้แต่ในช่วงที่สงครามจบลงแล้ว กลุ่มหุ้นที่เกี่ยวกับอาหารก็จะมีมูลค่าที่เพิ่มขึ้นอยู่ดี 3. นาฬิกาหรือกระเป๋าแบรนด์เนม หลายๆคนอาจจะสงสัยว่าในภาวะสงครามทำไมเราถึงควรลงทุนในนาฬิกาหรือกระเป๋าแบรนด์เนม หากสงครามเกิดขึ้นไกลๆจากประเทศที่ผลิตของแบรนด์เนม นาฬิกาและกระเป๋าแบรนด์เนมพวกนี้จะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก พันธบัตรรัฐบาลมีความเสี่ยงต่ำก็จริง แต่มันก็มีหลาย case แล้ว ที่ค่าเงินเฟ้อมากขึ้นจนรัฐบาลต้องพิมพ์ธนบัตรออกมาเพื่อใช้จ่ายหนี้ หรือไม่ก็เลือกที่จะไม่จ่ายเลย ส่วนทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยและมีอยู่อย่างจำกัดก็ยังมีความเสี่ยงที่จะได้รับการแทรกแซงจากรัฐบาล และถูกควบคุมราคาจากพ่อค้าคนกลาง แต่หากมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น การถือทองคำก็ยังปลอดภัยมากกว่าการเก็บเงินสดไว้ในธนาคาร 4. บิตคอยน์ อาจเพราะว่าบิตคอยน์มีการทำงานเหมือนทองคำ มีจำนวนที่มีอยู่อย่างจำกัด แม้จะต้องเผชิญหน้ากับความผันผวนของราคาที่ขึ้นแรง ลงแรง แต่ก็ไม่มีการเข้ามาแทรกแซงจากรัฐบาลเพราะระบบ Blockchain และไม่ได้ถูกควบคุมโดยพ่อค้าคนกลาง ตราบใดที่ยังมีคนใช้งาน มันเป็นไปไม่ได้เลยที่มูลค่าของบิตคอยน์จะลดเหลือ 0 บาท ผู้เขียนมองว่าในช่วงสงครามราคาของบิตคอยน์อาจจะตกลงไปก็จริง แต่พอผ่านระยะเวลาไปชั่วเวลาหนึ่ง คนก็จะหันมาถือบิตคอยน์จนทำให้ราคามันเด้งขึ้นมาได้อยู่ดีสงครามเป็นสิ่งที่ใครก็ไม่อยากให้เกิด และทุกครั้งที่สงครามเกิดขึ้น ประวัติศาสตร์ที่เคยเกิดขึ้นก็พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่าความสูญเสียนั้นที่มนุษย์ได้รับนั้น มีมากกว่าผลประโยชน์และความสะดวกสบายในชีวิตของมนุษย์จริงๆ ขอขอบคุณเครดิตรูปภาพ หน้าปก / Canvaรูปภาพประกอบที่ 1 / 2 / 3 โดย Clker-Free-Vector-Images / 4 โดย Simon / Pixabayอัปเดตความรู้ใหม่ ๆ อีกมากมาย โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !