สวัสดีค่ะเราคิดว่านักเรียนหลายๆคนในช่วงนี้คงกำลังอยู่ในระหว่างการปิดเทอมใช่ไหมล่ะคะ? เราเลยมีหนึ่งกิจกรรมน่าสนใจที่น่าทำในช่วงปิดเทอมเพื่อพัฒนาภาษาอังกฤษกันค่ะ รับรองเลยว่ากิจกรรมที่เราแนะนำมานั้นทำให้ภาษาอังกฤษของทุกคนพัฒนาแบบก้าวกระโดดอย่างแน่นอน นอกจากนี้ทุกคนยังสามารถปรับกิจกรรมที่เราได้แนะนำมาด้วยดูภาพยนตร์/ซีรีส์ (ซับอังกฤษ/ไม่มีซับ)แปลเพลงที่ชอบเล่นเกมอ่านหนังสือหรือบทความภาษาอังกฤษลองใช้หนังสืออ่านนอกเวลาฟัง Podcast เกี่ยวกับภาษาอังกฤษดูภาพยนตร์/ซีรีส์ (ซับอังกฤษ/ไม่มีซับ)https://www.youtube.com/watch?v=69rdBVs4u4cวิธีนี้คือวิธีที่เราใช้บ่อยมากที่สุดเพราะว่าเรานั้นเป็นสายที่ชอบดูซีรีส์ของฝั่งอังกฤษและอเมริกาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โดยเราเริ่มจากการดูซับไทยมาก่อนตั้งแต่ก่อนจะเริ่มมาฝึกจริงจังจึงทำให้เรานั้นได้ทักษะการฟังและรู้จักบริบทบางประโยคมาก่อน และหลังจากนั้นเราก็เริ่มดูซับอังกฤษ(ซึ่งตอนนี้ก็ดูอยู่)ช่วงแรกๆที่ดูดูก็อาจจะไม่ได้เข้าใจ100%แต่ก็ยังพอเดาบริบทและคำศัพท์ที่ปรากฏได้บาง แต่สิ่งที่ทำให้เราสังเกตตัวเองได้ชัดเลยก็คือเรารู้คำศัพท์ที่ตัวเราเองนั้นไม่รู้เอง(บางคำ)ได้โดยอัตโนมัติแบบไม่ต้องพึ่งโปรแกรมแปลภาษา เพราะว่าตัวละครในเรื่องนั้นใช้คำพูดนั้นซ้ำๆจนเรารู้สิ่งที่ตัวละครจะสื่อ สิ่งที่เราสังเกตตัวเองได้ชัดก็คือเราเข้าใจในสิ่งที่เจ้าของภาษาจะสื่อสารมากขึ้น และสุดท้ายคือสำเนียงการพูดของเรานั้นดีขึ้นมากเนื่องจากเรานั้นจะทำการ Shadowing หรือพูดตามตัวละครในหนังและได้สังเกตการออกเสียงของตัวละครแปลเพลงที่ชอบhttps://www.youtube.com/watch?v=8bNlGwnEUAsวิธีคงเหมาะกับหลายๆคนที่ชอบฟังและอยากรู้ความหมายของเพลงแบบจริงจังซึ่งเราเคยลองใช้วิธีนี้มาช่วงนึงซึ่งเราก็คิดว่ามันได้ผลดีมากๆ เพราะในเพลงแต่ละเพลงนั้นก็จะมีรูปแบบของGrammarให้เราได้สังเกต(แล้วแต่เพลงว่าผู้แต่งจะใช้ถูก100%หรือไม่)และคำศัพท์ที่เราไม่คุ้นชินกันมากนักอยู่ จึงจะทำให้เราได้เจอและจดจำคำศัพท์ใหม่ๆมากขึ้น แต่สิ่งที่ชอบที่สุดของวิธีนี้คือเราได้เข้าใจเนื้อเพลงมากขึ้นและเรายังสามารถตีความหมายเพลงในแบบของตัวเองได้เพราะว่าเพลงหนึ่งเพลงคนแต่ละคนก็ตีความหมายแตกต่างกันวิธีนี้เราแนะนำให้ลองไปหาเพลงในVersionที่เป็นLyrics[เนื้อเพลง]มาแปล และลองเขียนเนื้อเพลงทั้งหมดลงในสมุดและเน้นคำศัพท์ที่เราไม่รู้จักหรือลืมความหมายของมันไปแล้ว แล้วเขียนคำแปลไว้ด้านข้างจะทำให้เราจำคำศัพท์นั้นได้ดีขึ้นเล่นเกมhttps://www.youtube.com/watch?v=fA6mlsCJQO8การเล่นเกมคงเป็นวิธีแรกที่ทำให้เรานั้นได้ฝึกภาษาเลยก็ว่าได้ หลายๆคนคงอาจจะสงสัยว่าเกมนั้นจะทำให้เกิดการฝึกภาษาได้อย่างไร เราก็คงต้องบอกว่าเพราะเกมสนุกๆบางเกมก็ไม่มีภาษาไทยให้เราเล่นจึงทำให้เราจะต้องหาวิธีการเล่นให้ได้โดยการนั่งแปลคำศัพท์ในเกมด้วยตัวเองหรือบางเกมเราก็จะจำชื่อสิ่งของรอบตัวที่เราเห็นในเกมเป็นภาษาอังกฤษเลยทำให้เรารู้ว่าคำๆนี้มีความหมายว่าอะไรโดยเกิดจากการสังเกตนั้นเอง จึงสามารถเพิ่มคลังคำศัพท์ภาษาอังกฤษมาได้นั้นเอง แต่ถ้าอยากได้พวกบทสนทนาด้วยเราแนะนำให้ลองเล่นเกมRole Play หรือเกมแนวSimulationที่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตดูเช่นเกม Good Pizza Great Pizza , Stardew Valley เป็นต้นอ่านหนังสือหรือบทความภาษาอังกฤษการอ่านหนังสือเราว่าเป็นวิธีที่คลาสสิคและใช้ได้ผลดีมากๆในการฝึกภาษาทั้งด้านการอ่าน คำศัพท์ และ Grammar เพื่อต่อยอดไว้ใช้ในการเขียน อีกทั้งยุคนี้ยังมีหนังสือเสียงหรือ Audio Book เสริมทักษะการฟังอีกด้วยการอ่านแบบเริ่มต้นเราแนะนำว่าให้ลองอ่านหนังสือเด็กเล็กหรือเด็กโตมาฝึกอ่านเพื่อเริ่มฝึกอ่านก่อน เพราะจะมีการใช้ประโยคและคำศัพท์ที่เข้าใจง่าย โดยหนังสือที่เราแนะนำคือ Harry Potter,The School for Good and Evil , Little Women หรือหากเป็นพวกหนังสือการ์ตูนเราก็อยากจะแนะนำเช่น Diary of a wimpy kid , The last kids on earth เป็นต้นและข้อสำคัญสำหรับการฝึกภาษาด้วยหนังสือหรือบทความภาษาอังกฤษของเราก็คือการที่เราจะต้องมีความสุขกับการอ่านมากที่สุด และเราไม่จำเป็นต้องเข้าใจทุกคำในหนังสือ ควรเข้าใจประเด็นหลักของเนื้อเรื่องก็เพียงพอแล้ว เพราะถ้าเราพยายามเข้าใจคำทุกคำหรือประโยคทุกประโยคก็อาจจะทำให้เราท้อได้และหมดกำลังใจได้ แต่ว่าถ้าใครสามารถอ่านและพยายามเข้าใจทุกประโยคได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเช่นกันค่ะ เพราะว่าคุณก็จะมีคลังคำศัพท์เพิ่มขึ้นมาอีกหลายเท่าตัวเลยลองใช้หนังสืออ่านนอกเวลาอันนี้เป็นวิธีใหม่ที่เราเพิ่งรู้จักแต่มันมีมานานมากๆแล้วค่ะ คือการอ่านหนังสืออ่านนอกเวลา หลายๆคนคงสงสัยเหมือนกับเราตอนแรกว่าหนังสืออ่านนอกเวลาคืออะไร เราขออธิบายตรงนี้เลยค่ะว่ามันคือหนังสือคล้ายๆกับนิทานหรือนวนิยายในรูปแบบเล่มย่อซึ่งเนื้อหาภายในจะเป็นภาษาอังกฤษ แต่ที่แตกต่างกว่าหนังสือภาษาอังกฤษคือหนังสืออ่านนอกเวลาจะมีคำศัพท์ภาษาอังกฤษแปลเป็นภาษาไทยไว้ด้านข้างหนังสือและก็จะมีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับGrammarและอธิบายเนื้อหน้าในหน้านั้นไว้ และก็จะมีแบบฝึกหัดให้เราได้ลองทำอีกด้วย นอกจากนี้บางเล่มก็จะมี Audio Book ในรูปแบบของCDมาให้เราพร้อมกับหนังสือด้วยค่ะโดยส่วนตัวที่เราได้ลองใช้มาก็ถือว่าชอบในระดับนึงเลยค่ะ เพราะว่าหนังสือนั้นจะแบ่งตามระดับภาษาของผู้อ่านทำให้เราค่อยๆไต่ระดับขึ้นไปได้ แล้วยังมีการขยายความและให้เกร็ดความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งต่างๆที่เกี่ยวข้องกับในเรื่องอีกด้วยค่ะฟัง Podcast เกี่ยวกับภาษาอังกฤษhttps://www.youtube.com/watch?v=m-vWbJbFAGIตรงนี้เราขอไม่ใช้คำว่า Podcast ภาษาอังกฤษนะคะเพราะว่ามี Podcast ของไทยที่ให้ความรู้เกี่ยวกับภาษาอังกฤษด้วยและเราก็คิดว่าดีมากๆด้วยที่จะเริ่มฝึกภาษาอังกฤษจากPodcast ของคนไทยก่อนเพราะว่าผู้ดำเนินรายการก็ได้สอนอธิบายไว้ดีมากๆไม่ต่างจากเจ้าของภาษาเลย โดยช่องPodcastไทยที่เราจะแนะนำก็คือช่อง KND Studio เพราะว่าเนื้อหาในช่องนี้มีหลากหลายมากๆ มีทั้งเกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง ไปจนถึงการทายคำศัพท์เลยhttps://www.youtube.com/watch?v=AmARvccsdMIแต่เราก็อยากแนะนำให้ทุกคนลองฟังPodcast ในฉบับภาษาอังกฤษด้วย แต่อาจจะเป็นในรูปแบบของนิทานเสียง เรื่องเล่าต่างๆ หรือ Story Telling ที่เราสนใจมาลองฟังเพื่อเสริมทักษะการฟังกันด้วย แล้วถ้าหากมีข้อความไหนที่เรานั้นไม่เข้าใจเราแนะนำให้เปิดซับอังกฤษควบคู่ไปกับการฟังเพื่อที่จะได้เข้าใจมากขึ้นค่ะ เรามีTrick เล็กๆคือพยายามจดคำศัพท์ที่เราไม่คุ้นชินลงในสมุดหรือกระดาษไว้ด้วยเพื่อผลลัพธ์ในการจำที่ดีขึ้นด้วยนะคะ การฝึกภาษาอาจจะไม่ได้เป็นเรื่องที่ง่ายสำหรับหลายๆคน แต่เราคิดว่าทุกคนสามารถฝึกจนสามารถสื่อสารและใช้ประโยชน์จากภาษาได้ด้วยการฝึกและสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในการฝึกภาษาเป็นประจำเช่น เริ่มฟังเพลงอังกฤษ ดูภาพยนตร์อังกฤษ อีกทั้งการออกไปท่องเที่ยวในสถานที่ที่มีชาวต่างชาติเยอะไม่ว่าจะเป็นในไทยหรือต่างประเทศนั้นก็ย่อมทำให้ทักษะทางภาษาของเรานั้นพัฒนาขึ้นได้อย่างแน่นอนค่ะเครดิตวิดีโอวิดีโอที่1 จาก Netfilxวิดีโอที่2 จาก Taylor Swiftวิดีโอที่3 จาก TapBlazeวิดีโอที่4 จาก KND Studioวิดีโอที่5 จาก Jay Shetty Podcastเครดิตภาพปกcanva จาก Tae Fuller : pexels เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !