ช่วงนี้การสอบภาค ก. กำลังเป็นที่พูดถึง ถือเป็นจุดเริ่มต้นของใครหลายๆคนที่อยากจะทำตามความฝันในการเป็นข้าราชการก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าผู้เขียนผ่านสนามสอบราชการมาแล้ว 4 สนามสอบ สอบผ่านมา 3 สนามถ้วน แต่ละที่เป็นการสอบภาค ข. ซึ่งผู้ที่ผ่านภาค ก. มาแล้วเท่านั้นจึงจะสมัครสอบได้ สำหรับมือใหม่อาจจะสงสัยว่าภาค ก. ภาค ข. คืออะไร ผมจะอธิบายให้ทราบโดยย่อแล้วกันนะครับภาค ก. คือ สเต็ปแรกของการสอบบรรจุรับราชการ เป็นการเปิดให้บุคคลทั่วไปที่มีวุฒิระดับต่ำกว่าปริญญาตรี (ปวช. ปวท. ปวส.) ปริญญาตรี และปริญญาโท จากทั่วประเทศ ทำการสมัครสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไปที่จำเป็นสำหรับข้าราชการ โดยการสอบจะจัดแยกออกเป็นศูนย์สอบต่างๆ ในแต่ละจังหวัด ใครอยู่จังหวัดไหน พื้นที่ใด ก็ติดตามจากเว็บไซต์ของทางการให้ดีนะครับแต่บทความนี้จะเน้นไปที่การสอบ ภาค ข. ซึ่งเป็นสอบวัดความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่งของส่วนราชการ ผู้ที่สมัครสอบได้ต้องเป็นผู้ที่สอบผ่านภาค ก. แล้วเท่านั้นแน่นอนว่าการสอบที่จัดโดยส่วนราชการนั้น เราแทบจะไม่รู้แนวข้อสอบเลย จะไปติวตามสถาบันต่างๆ ก็มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างแพง ลำพังแค่ค่าสมัครสอบก็ปาไป 400 กว่าบาท เข้าไปแล้ว หากต้องเสียค่าsheet ค่าติวเตอร์เพิ่มอีก อาจจะทำให้หลายคนล้มเลิกความตั้งใจไปเสียก่อน ไม่เหมือนกับภาค ก. ที่มีหนังสือเกร็งข้อสอบจากหลายสำนักให้เลือกอ่านมากมายตามร้านหนังสือ ไม่ต้องวิ่งเต้นหา sheet หาที่ติวให้วุ่นวายการอ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบ ภาค ข. ด้วยตัวเอง เราสามารถทำได้เช่นกัน แต่จะอ่านอย่างไรให้ประสบความสำเร็จนั้น เรามาดูเคล็ดลับด้านล่างกันเลย1. แนวข้อสอบอยู่ใกล้ตัวเราหลายคนเมื่ออ่านประกาศรับสมัครบรรจุรับราชการของส่วนราชการต่างๆ แล้ว ก็อาจจะคิดในใจว่า 'ฉันต้องอ่านเยอะอะไรบ้าง อ่านไปจะตรงที่ออกสอบไหม' จนทำให้บางคนต้องออกหาซื้อหนังสือของสำนักต่างๆมาอ่าน เล่มหนึ่งไม่ต่ำกว่า 250 บาท อย่าเพิ่งตกใจไปครับ แนวข้อสอบก็อยู่ในประกาศนั่นแหละ ถึงมันจะดูเยอะ แต่ถ้าเรามีเทคนิคที่ดี ก็อาจจะไม่ต้องอ่านเยอะอย่างที่คิดเริ่มจากการทำความรู้จักหน่วยงานที่เราจะสมัครสอบแทบทุกส่วนราชการ มักจะกำหนดให้อำนาจหน้าที่ วิสัยทัศน์ พันธกิจ นโยบายและยุทธศาสตร์ รวมถึงโครงสร้างผู้บริหาร เป็นหัวข้ออันดับต้นๆในการออกข้อสอบ ก็แน่ล่ะครับ จะไปทำงานที่หน่วยงานเขาทั้งที ก็ต้องรู้สิครับว่าหน่วยเขาทำเกี่ยวกับอะไร มีภาระหน้าที่รับผิดชอบอย่างไรบ้างผมอยากจะบอกว่าของพวกนี้หาอ่านได้ไม่ยากเลยครับ เพียงแค่ผู้อ่าน search ชื่อหน่วยงานใน google คลิกเข้าไปในเว็บของหน่วยงาน แล้วหาอ่านตามหัวข้อดังกล่าว บางหน่วยงานลงนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ให้โหลดอ่านด้วยนะครับ2. กฏหมายหลายบท อ่านยังไงให้จำได้ถึงจะมีหลายบท ยังไงเราก็ต้องอ่านให้ครบครับ แต่การตะบี้ตะบันอ่านมันทุกมาตรา คงจะใช้ไม่ได้ผลกับทุกคน ที่จริงแล้วเราไม่ต้องจำให้ได้ทุกมาตราก็ได้ครับ ขอแค่เราจับจุดให้ได้ว่าส่วนไหนที่น่าจะเกี่ยวภาระหน้าที่ของตำแหน่งที่เราจะสมัครสอบ เราก็ไปเน้นท่องจำ ทำความเข้าใจตรงนั้น แต่หากใครไม่อยากอ่านกฏหมายฉบับเต็ม หรืออยากทบทวนสิ่งที่เราอ่านมาก็ลองหาสรุปบนอินเทอร์เน็ตอ่านดูครับ มีผู้ใจบุญหลายท่าน หลายหน่วยงานทำสรุปตัวบทกฎหมายไว้ได้น่าอ่านมากๆ บางท่านก็ทำสรุปออกมาเป็นข้อสอบให้เราทบทวนความจำกันด้วย 3. อ่านไม่พอ ต้องดูด้วยใช่ครับ อ่านอย่างเดียวอาจจะได้เนื้อหาไม่ครอบคลุมตามที่ประกาศรับสมัครกำหนด โดยเฉพาะในส่วนของรายละเอียดภาระหน้าที่เฉพาะตำแหน่ง ซึ่งเราสามารถหาดูได้ใน YouTube ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ เดี๋ยวนี้ติวเตอร์ที่เป็นข้าราชการ ผู้ที่มีประสบการณ์ในการสอบราชการ หรือแม้กระทั่งสถาบันติวเตอร์เอง ก็ทำวีดีโอสอนลงให้ดูแบบฟรีๆ กันแล้ว เพียงแค่เรา search ให้เจอ มันอยู่ใกล้แค่เอื้อมจริงๆครับ4. ทำสรุปสั้นๆ ไว้อ่านด้วยเราคงไม่อยากกลับไปกฏหมายยาวๆ ดูคลิปติวเป็นชั่วโมง หลายรอบใช่ไหมล่ะครับ ง่ายๆเลย เพียงแค่ผู้อ่านทำสรุปจากทุกสิ่งอย่างที่เราอ่านและดูผ่านตามา ไม่ว่าจะในรูปแบบของสรุปสั้น shortlist รายการสำคัญๆ วาดเป็น mind map นั่นจะทำให้เราประหยัดเวลาในการเตรียมตัวไปได้เยอะขึ้นแน่นอนครับหวังว่าเทคนิคที่ผมนำมาแชร์นี้ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อยในการเตรียมตัวเพื่อสอบบรรจุเป็นข้าราชการดังที่ฝันไว้ หากใครมีเทคนิคดีๆอยากจะแชร์ ก็บอกต่อกันในนี้ได้เลยนะครับ สุดท้ายนี้ขอให้ทุกท่านโชคดีในการสอบครับ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !